xs
xsm
sm
md
lg

ชาวบ้านข้องใจเหตุไม้หลุมพอ 2 คนโอบ ถูกโค่นใกล้ที่ทำการหน่วยพิทักษ์ป่าเขาบรรทัด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
ตรัง - ผู้นำชุมชนในพื้นที่ ต.นาชุมเห็ด อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ข้องใจเกิดเหตุไม้หลุมพอ ขนาด 2 คนโอบ อายุราว 150 ปี ถูกตัดโค่นกลางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัด แถมยังอยู่ใกล้หน่วยพิทักษ์ป่าด้วย

วันนี้ (17 ก.ย.) พ.ต.ท.นรา ฉิมแสง สวป.สภ.ย่านตาขาว จ.ตรัง พร้อมด้วย นายกรณ์ จันทร์พุ่ม กำนัน ต.นาชุมเห็ด และ นายบุญชอบ ทองโอ ผู้ใหญ่บ้าน ม.1 รวมทั้งผู้นำชุมชน และชาวบ้านจำนวนหนึ่งได้เดินทางไปตรวจสอบการลักลอบตัดไม้บริเวณป่าต้นน้ำ ภายในป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัด พื้นที่ ม.4 ต.นาชุมเห็ด หรืออยู่ห่างจากที่ทำการหน่วยพิทักษ์ป่าน้ำตกสายรุ้ง เพียงแค่ 400 เมตรเท่านั้น โดยพบมีต้นหลุมพอ ขนาด 2 คนโอบ อายุประมาณ 140-150 ปี ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 100 ซม. ถูกตัดโค่นลงมาจนเหลือแต่ตอ และยังพบไม้หลุมพอจำนวนกว่า 10 ท่อน รวมทั้งที่ยังไม่มีการแปรรูปอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งคาดว่าน่าจะถูกตัดมาแล้วเกือบ 1 เดือน
 

 
นายกรณ์ จันทร์พุ่ม กำนัน ต.นาชุมเห็ด กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนเองได้รับแจ้งจากลูกบ้านว่า ไม้หลุมพอต้นดังกล่าวได้มีกลุ่มคนลักลอบตัดโค่นไป 1 ต้น จากที่มีอยู่ทั้งหมด 2 ต้น บนผืนป่าต้นน้ำแห่งนี้ ซึ่งต่อมา ทราบว่ามีเจ้าหน้าที่ป่าไม้เข้าไปทำการตรวจยึดไม้หลุมพอจำนวนหนึ่งไปเก็บไว้แล้ว แต่ก็ยังมีบางส่วนที่ได้หายไป โดยที่การดำเนินการดังกล่าวไม่มีการรายงานมายังฝ่ายปกครองในพื้นที่ให้ทราบเลย อีกทั้งจุดเกิดเหตุก็อยู่ใกล้ที่ทำการหน่วยพิทักษ์ป่า แต่ทำไมเจ้าหน้าที่จึงไม่ทราบเลยว่ามีการเข้าไปลักลอบตัดไม้ นอกจากนั้น ในการลักลอบแปรรูปไม้ก็ต้องใช้เวลาหลายวันกว่าจะเสร็จ ทำให้ตนเชื่อว่า อาจมีเจ้าหน้าที่บางคนเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง

ด้าน นายสง นุ่นรัตน์ อายุ 63 ปี ประธานองค์กรชุมชนบ้านลำขนุน กล่าวว่า ในพื้นที่ ม.4 ต.นาชุมเห็ด มีการรวมกลุ่มเพื่อดูแลผืนป่าแห่งนี้ รวมทั้งมีการกำหนดกฎกติกา หรือข้อระเบียบอย่างชัดเจน และที่ผ่านมา ก็ยังไม่เคยเกิดเรื่องแบบนี้มาก่อน เมื่อตนได้มาเห็นไม้หลุมพอถูกตัดออกไปจึงเกิดความสลดใจอย่างมาก รวมทั้งยังแปลกใจว่า จุดเกิดเหตุอยู่ใกล้กับที่ทำการหน่วยพิทักษ์ป่า แต่ทำไมเจ้าหน้าที่ถึงไม่ได้ยินเสียงเครื่องเลื่อยยนต์ หรือรถยนต์ที่ใช้ลำเลียงไม้ออกไป หนำซ้ำยังมีการโยนบาปใส่ชาวบ้านว่าเป็นผู้กระทำ ซึ่งส่วนนี้ตนเองรับไม่ได้ จึงอยากให้ทุกฝ่ายช่วยกันค้นหาความจริงให้เรื่องนี้ เพื่อปกป้องผืนป่าที่มีค่าแห่งนี้ให้อยู่ยืนยาวตลอดไป
 

กำลังโหลดความคิดเห็น