xs
xsm
sm
md
lg

พายุหมุนถล่มน้ำตกโตนงาช้างหนัก เชื่อบารมีทวดน้ำตกคุ้มครองไม่มีคนเจ็บ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - สรุปความเสียหายจากเหตุพายุหมุนพัดถล่มน้ำตกโตนงาช้าง มีต้นไม้หักโค่น 42 ต้น ตัวอาคารเสียหาย 6 หลัง และหาทางช่วยเหลือเยียวยานักท่องเที่ยวที่รถได้รับความเสียหาย เผยเกิดขึ้นครั้งแรก และรุนแรงที่สุดในรอบ 39 ปี เชื่อบารมีทวดน้ำตกโตนงาช้าง ช่วยคุ้มครอง ทำให้ทุกคนปลอดภัยไม่ได้รับบาดเจ็บแม้รอยขีดข่วน

วันนี้ (13 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเหตุการณ์พายุพัดถล่มในพื้นที่น้ำตกโตนงาช้าง และภายในบริเวณที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนงาช้าง ต.ทุ่งตำเสา อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อช่วงเย็นของเมื่อวานนี้ ทำให้รถยนต์ถูกต้นไม้ล้มทับ 3 คัน และต้นไม้ล้มระเนระนาดทับอาคารเสียหายบางส่วน
 
 

 
ล่าสุด นายยงยุทธ นาควิโรจน์ ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 6 (สงขลา) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พร้อมด้วย นายอิศราพันธ์ บุญมาศ หัวหน้าเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าโตนงาช้าง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบและสรุปความเสียหายทั้งหมดทั้งในส่วนของต้นไม้ อาคารสถานที่ โดยพบว่า มีต้นไม้โค่นล้มทั้งหมด 42 ต้น รวม 25 ชนิด ทั้งไม้เนื้ออ่อนและไม้เนื้อแข่ง เช่น ไม้ตะเคียน โดยต้นที่มีอายุเก่าแก่ที่สุด คือ ต้นมะยมหอม อายุประมาณ 40 ปี ซึ่งล้มทับห้องน้ำไป 2 หลัง

นอกจากนี้ ยังมีอาคารที่เสียหายบางส่วนอีก 6 อาคาร คือ โรงอาหารที่ละหมาด อาคารสำนักงาน ห้องน้ำ 2 หลั งและป้อมยามจุดตรวจ รวมทั้งรถยนต์ของนักท่องเที่ยวอีก 3 คัน แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้ รวมทั้งระบบสื่อสารต่างๆ ล่มทั้งหมด เนื่องจากระบบไฟฟ้าเสียหาย
 

 
นายอิศราพันธ์ บุญมาศ หัวหน้าเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าโตนงาช้าง เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ระดมเจ้าหน้าที่เกือบ 100 นาย เข้ามาตัดต้นไม้ และเคลียร์พื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย รวมทั้งประสานเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าหาดใหญ่ มาซ่อมแซมระบบไฟฟ้าให้กลับมาใช้งานโดยเร็วที่สุด เพื่อสะดวกต่อการติดต่อสื่อสาร และจำเป็นต้องปิดน้ำตกโตนงาช้างอย่างน้อย 3 วัน หรืออาจจะมากกว่านั้นจนกว่าจะเคลียร์พื้นที่แล้วเสร็จ และสำรวจต้นไม้ที่เอนเอียง และเสี่ยงที่จะล้มลงมาอีก เพื่อสร้างความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว

ส่วนทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวที่เป็นรถยนต์ 3 คัน ที่ถูกต้นไม้ล้มทับนั้น จะให้ช่างประเมินความเสียหาย และทำเรื่องเสนอไปทางจังหวัดสงขลา ผ่านสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยพิจารณาช่วยเหลือ เพราะกรณีเหตุภัยธรรมชาติซึ่งเป็นเหตุสุดวิสัยนั้นไม่อยู่ในระเบียบที่ทางกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จะจ่ายเงินช่วยเหลือได้
 

 
นายอิศราพันธ์ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดเหตุเป็นลักษณะของพายุหมุนพัดถล่มที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เป็นครั้งแรกในรอบ 39 ปี นับตั้งแต่มีการก่อตั้งเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนงาช้างขึ้นมาเมื่อปี 2521 เนื่องจากก่อนเกิดเหตุทุกอย่างเป็นปกติเพียงแต่อากาศร้อน อยู่ๆ ก็มีลม และฝนพัดกระหน่ำอย่างรุนแรงราว 20 นาที และลักษณะม้วนตัวอยู่รอบๆ ที่ทำการ และบริเวณน้ำตกชั้น 1 ทำให้มีทั้งต้นไม้ที่โค่นล้มทั้งต้น และขาดกึ่งกลางซึ่งรุนแรงมาก

และจากเหตุการณ์พายุหมุนพัดถล่มในครั้งนี้ แม้จะรุนแรงแต่ไม่มีผู้เสียชีวิต หรือได้รับบาดเจ็บแม้แต่รายเดียว และทรัพย์สินเสียหายไม่มาก ทำให้เจ้าหน้าที่ และพ่อค้าแม่ค้าบริเวณน้ำตกเชื่อว่า เป็นเพราะบารมีของทวดน้ำตกโตนงาช้าง ที่ทุกคนบูชาช่วยปกป้องเอาไว้

นายอิศราพันธ์ บุญมาศ หัวหน้าเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าโตนงาช้าง กล่าวว่า แม้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะรุนแรง แต่เมื่อดูสภาพความเสียหายนั้นไม่มาก ที่สำคัญไม่มีผู้เสียชีวิต หรือได้รับบาดเจ็บแม้แต่รอยขีดข่วน ซึ่งทั้งเจ้าหน้าที่ และพ่อค้าแม่ค้าที่อยู่ในเหตุการณ์บอกว่า เป็นเพราะบารมีของทวดน้ำตกโตนงาช้าง ทั้ง 2 องค์ ทั้งทวดตาขุนดำ หรือทวดงูจงอาง และทวดป๊ะหวา หรือทวดเสือดำ ที่อยู่บนศาลบริเวณเชิงเขาทางขึ้นน้ำตก คุ้มครองดูแลทำให้ทุกคนปลอดภัย และทรัพย์สินเสียหายไม่มาก
 

 
เพราะเมื่อดูจากทิศทางที่ต้นไม้ที่ล้มซึ่งล้วนเป็นต้นไม้ที่สูงใหญ่ ปรากฏว่า ส่วนใหญ่จะล้มไปทางอื่นแทบไม่โดนตัวอาคารแม้ว่าจะตั้งอยู่ใกล้กับต้นไม้ที่ล้ม ส่วนตัวอาคารที่ถูกต้นไม้ล้มทับก็แค่เฉี่ยวๆ เสียหายไม่มาก และอาคารส่วนใหญ่ก็มีเจ้าหน้าที่ และนักท่องเที่ยว รวมทั้งผู้ที่มาประชุมสัมมนาพักอยู่ แต่ทุกคนปลอดภัยทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นอาคารสำนักงาน อาคารที่พัก อาคารบริการนักท่องเที่ยว ร้านค้าร้านอาหาร โดยเฉพาะศาลทวดตาขุนดำ และทวดป๊ะหวา ซึ่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ที่หักโค่นแต่ก็ล้มไปทางอื่นเช่นกัน หรือแม้แต่รถตุ๊กตุ๊กที่ถูกต้นไม้ล้มทับขณะเกิดเหตุคนขับนั่งอยู่ในรถ แต่ก็ปลอดภัยแม้ต้นไม้จะล้มมาตรงๆ ก็ตาม

ซึ่งเรื่องนี้ นางเครือวัลย์ ศรีสุวรรณ อายุ 48 ปี ซึ่งเปิดร้านอาหารอยู่ที่น้ำตกโตนงาช้างมา 25 ปี และอยู่ในเหตุการณ์ กล่าวว่า รู้สึกตกใจ และหวาดกลัวมาก เพราะมีเสียงลม และฝนดังแรงมาก ต้นไม้ทยอยล้ม ตนจึงได้บนบานศาลกล่าวทวดตาขุนดำ และทวดป๊ะหวา ให้ฝน และลมหยุด หลังอธิษฐานทั้งลม และฝนก็ค่อยๆ หยุดลงทันที และเหตุการณ์ก็กลับเข้าสู่ภาวะปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ในวันนี้จึงได้จุดประทัด 1,000 นัด เพื่อมาแก้บน
 




กำลังโหลดความคิดเห็น