ปัตตานี - กอ.รมน.ออกแถลงข่าวกรณีชายสวมใส่เสื้อยืดคล้ายทหาร เข้าทำลายเสาหินในกุโบร์บ้านรูสะมิแล ต.รูสะมิแล อ.เมือง จ.ปัตตานี ชี้เป็นการกระทำของกลุ่มผู้ไม่หวังดี เพื่อใส่ร้ายเจ้าหน้าที่รัฐ
วันนี้ (10 ก.ย.) ที่ มณฑลทหารบกที่ 46 ค่ายอิงคยุทธบริหารจังหวัดปัตตานี พ.อ.ยุทธนาม เพชรม่วง รองโฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า พร้อมด้วย พ.ท.โกเมธ รัตนผ่องใส ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 23 นายสมศักดิ์ ทิพย์มณี ปลัดอาวุโสอำเภอเมืองปัตตานี นายอัมรัน สะนิ กำนันตำบลรูสะมิแล, นายซาบะ ยาแม ผู้ใหญ่บ้าน และนายดอเลาะ หะยีมามุ โต๊ะอิหม่า
ได้ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงกรณีเมื่อวันที่ 6 กันยายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากประชาชนในพื้นที่บ้านรูสะมิแล หมู่ 1 ต.รูสะมิแล อ.เมือง จ.ปัตตานี ว่า พบชายวัยรุ่นแปลกหน้า อายุประมาณ 20-25 ปี จำนวน 1 คน สวมใส่เสื้อยืดคล้ายทหา รขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน มาจอดบริเวณหน้ากูโบร์บ้านรูสะมิแล และเดินเข้าไปภายในกูโบร์ทำลายเสาหินจนได้รับความเสียหายหลายต้น ขณะนั้นชาวบ้านที่พบเห็นจึงใช้โทรศัพท์มือถือบันทึกภาพเอาไว้ พร้อมได้แจ้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่ทหารเพื่อตรวจสอบ
จากเหตุดังกล่าวได้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ทางลบในพื้นที่ และในสื่อสังคมออนไลน์แพร่หลายอย่างกว้างขวาง โดยได้กล่าวหาว่า เจ้าหน้าที่ทหารเป็นผู้กระทำ ซึ่งในเวลาต่อมา เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2560 รับแจ้งจากประชาชนว่า พบเห็นชายผู้ก่อเหตุดังกล่าวเดินอยู่ภายในตลาด แต่ไม่สามารถควบคุมตัวได้ และขณะนี้ยังไม่ทราบว่าอยู่ที่ใด ซึ่งจากผลให้การของพยาน และข้อมูลพยานหลักฐานต่างๆ ของหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี และกำลังร่วมสามฝ่าย พบว่า ชายผู้ก่อเหตุนั้นไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ และไม่ใช่คนในพื้นที่อำเภอรูสะมิแล
โดยขณะนี้กำลังร่วมสามฝ่ายได้รวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมเร่งดำเนินการติดตามตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ ซึ่งเหตุการณ์ที่ใส่ร้ายเจ้าหน้าที่รัฐในสังคมออนไลน์ เป็นความพยายามสร้างสถานการณ์ และพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริงเพื่อใส่ร้ายเจ้าหน้าที่รัฐของกลุ่มผู้ไม่หวังดีโดยปราศจากพยานหลักฐานที่ชัดเจน ใช้เพียงความรู้สึก ทั้งนี้ เพื่อใส่ร้ายเจ้าหน้าที่ของรัฐอันอาจทำให้พี่น้องประชาชนเกิดความหลงเชื่อ และเข้าใจผิด นอกจากนี้ การแต่งกายเลียนแบบคล้ายเจ้าหน้าที่รัฐซึ่งเป็นพฤติกรรมเดิมๆ ที่กลุ่มผู้ไม่หวังดีพยายามทำมาโดยตลอด
จากเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 มีความห่วงใยเป็นอย่างยิ่ง พร้อมได้สั่งการให้หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี ตรวจสอบข้อเท็จจริง และนำผู้กระทำผิดมาลงโทษโดยเร็ว พร้อมได้สั่งการให้เร่งสร้างความเข้าใจต่อพี่น้องประชาชน ผ่านผู้นำศาสนา และอิหม่ามในทุกมัสยิด ให้ร่วมกันเร่งติดตามผู้ก่อเหตุมาลงโทษให้เร็วที่สุด
จึงขอให้พี่น้องประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลเท็จที่ใส่ร้ายเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งอาจตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มผู้ไม่หวังดีจนทำให้เกิดความเข้าใจผิด และความเกลียดชังต่อเจ้าหน้าที่รัฐได้ เนื่องจาก ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ประเทศไทยได้ให้การส่งเสริม และสนับสนุนทุกศาสนาอย่างเท่าเทียมกัน โดยไม่เคยลิดรอน หรือกีดกัน สิ่งที่เป็นความเชื่อความศรัทธาของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งทุกคนได้เห็นเป็นที่ประจักษ์อยู่แล้ว
พร้อมกับขอให้ช่วยกันสอดส่องดูแลเพื่อไม่ให้กลุ่มสุดโต่งเหล่านี้มาบ่อนทำลายสังคมอันดีงามที่มีอยู่ในปัจจุบัน บนพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งนี้ ขอให้พี่น้องประชาชนซึ่งเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการแจ้งเบาะแสข้อมูลข่าวสารความเคลื่อนไหวเพื่อติดตามจับกุมผู้กระทำความผิด