ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - แม่ค้าร่างใหญ่ใจถึงไล่กวดช่วยวิ่งจับโจรชิงทรัพย์ไม่คิดชีวิต หลังก่อเหตุเข้าไปหยิบกระเป๋าพร้อมเงินสดของเพื่อนบ้าน ด้านคนร้ายอ้อนวอนอ้างตกงานหาเงินซื้อนมเลี้ยงลูกวัย 2 ขวบ
วันนี้ (31 ส.ค.) ร.ต.ท.มนตรี ขุนศรีจันทร์ รอง สว.สส.สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา รับแจ้งว่า เกิดเหตุคนร้ายเข้าไปวิ่งราวทรัพย์ภายในบ้านเลขที่ 38/20 ถนนประชาอุทิศ เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ ภายหลังไปตรวจสอบทราบว่า คนร้ายได้กระเป๋า พร้อมเงินสดไปประมาณ 1,900 บาท แต่คนร้ายหนีไม่รอดถูกพลเมืองดีช่วยกันติดตามจับกุมเอาไว้ได้ ทราบชื่อคือ นายสมศักดิ์ เกื้อกูล อายุ 35 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ ต.เขารูปช้าง อ.เมือง จ.สงขลา และควบคุมตัวส่งตำรวจ
หลังจนมุมคนร้ายรายนี้ได้สำนึกผิดอ้อนวอนขอให้เจ้าทุกข์ และตำรวจไม่ให้เอาเรื่อง อ้างว่าที่ทำไปเพราะจำเป็น เนื่องจากตกงานต้องการหาเงินซื้อนมให้ลูกวัย 2 ขวบ โดยเดินทางมาจาก ต.เขารูปช้าง อ.เมืองสงขลา เพื่อมาหางานทำ แต่ด้วยอารมณ์ชั่ววูบเห็นบ้านที่เกิดเหตุไม่มีคนอยู่ จึงเข้ามาขโมยกระเป๋าที่วางไว้ และสัญญาว่าจะไม่ทำอีกถ้าไม่เชื่อก็ให้ยิงได้เลย
ด้าน น.ส.สุพรรณี แก้วคำ อายุ 58 ปี เจ้าของบ้านบอกว่า อยู่กับแม่วัยชรา และกำลังป่วยเพียงลำพัง 2 คน ช่วงเกิดเหตุได้เดินเข้าหลังบ้าน เมื่อออกมาก็พบกับคนร้ายพอดี จึงร้องตะโกนให้เพื่อนบ้านช่วยเหลือ และหนึ่งในพลเมืองดีคือ น.ส.ฟาริดะ หนูใจแก้ว อายุ 45 ปี แม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยวผัด และข้าวผัดอยู่หน้าบ้านที่เกิดเหตุได้ช่วยไล่จับคนร้ายไว้ได้
น.ส.ฟาริดะ หนูใจแก้ว กล่าวว่า ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไร เมื่อได้ยินเสียงเพื่อนบ้านขอความช่วยเหลือว่าถูกโจรชิงทรัพย์ จึงได้พยายามวิ่งไล่ตามคนร้ายแม้ว่ารูปร่างจะอ้วน แต่คนร้ายได้ขึ้นรถจักรยานยนต์รับจ้างหลบหนีไป จึงขอความช่วยเหลือจากพลเมืองดีอีกคนที่ขับรถผ่านมาให้ไล่ตามไปจนทัน ก่อนที่จะช่วยกันจับกุมเอาไว้ได้
ปรากฏว่าหลังจากที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.หาดใหญ่ ตรวจสอบประวัติย้อนหลังพบว่าก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคมที่ผ่านมา นายสมศักดิ์ เคยก่อเหตุเข้าไปลักทรัพย์ภายในร้านเอมอเตอร์ เลขที่ 6 ซอย 2 ถนนราษฎร์ดำริ เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ มาแล้วครั้งหนึ่งและถูกเจ้าของร้านใช้มีดปาดตาลจับกุมตัวเอาไว้ได้และหวิดโดนกระทืบ
และเหตุการณ์ในครั้งนั้น นายสมศักดิ ก็ใช้วิธีเดียวกันคืออ้อนวอนขอให้เจ้าของร้านอย่าเอาเรื่องและอ้างเหตุผลเดียวกันว่ากำลังตกงานหาเงินเลี้ยงลูก กระทั่งกลับมาก่อเหตุอีกครั้งในวันนี้ซึ่งตำรวจเชื่อว่าเป็นโจรลักทรัพย์อาชีพไม่ได้มีความเดือดร้อนหรือจำเป็นต้องหาเงินซื้อนมเลี้ยงลูกตามที่อ้าง พร้อมกับควบคุมตัวดำเนินคดีอีกครั้งเนื่องจากไม่หลาบจำและเชื่อว่าน่าจะเกิดก่อเหตุลักทรัพย์มามากกว่านี้
เบื้องต้น ตำรวจได้แจ้งข้อหาชิงทรัพย์ต่อ นายสมศักดิ์ ก่อนส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย แม้ว่าจะพยายามหาเหตุผลมาอ้างให้ปล่อยตัวไปก็ตาม
