นครศรีธรรมราช - “สมจินต์ ไทยสุริยันต์” เศรษฐินีเจ้าของ “สำเพ็งเมืองคอน” เดือด! เดินหน้าฟ้องกลับอดีตคนใกล้ชิด พร้อมกับลูกชาย หลังถูกแจ้งความข้อหาฉ้อโกงโดยไร้ข้อเท็จจริง
วันนี้ (28 ส.ค.) นางสมจินต์ ไทยสุริยันต์ หรือจ่างทอง อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 58/6 ถนนพัฒนาการคูขวาง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นเศรษฐินีเจ้าของธุรกิจค้าส่งรายใหญ่ของ จ.นครศรีธรรมราช และตลาดสำเพ็งเมืองคอน พร้อมด้วยทนายความผู้รับมอบอำนาจเป็นโจทก์ ได้ยื่นฟ้องร้องดำเนินคดีต่อ นายบุญลือ แท่นธรรมโรจน์ เป็นจำเลยที่ 1 และนายศักดิ์ชัย แท่นธรรมโรจน์ เป็นจำเลยที่ 2 ในฐานความผิดแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน ซึ่งเป็นการฟ้องร้องภายหลังจากเกิดเหตุการณ์ นายบุญลือ ผู้เป็นพ่อมอบอำนาจให้ นายศักดิ์ชัย ลูกชาย แจ้งความดำเนินคดีต่อ นางสมจินต์ ข้อหาฉ้อโกงที่ สภ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช เมื่อหลายวันก่อน
โดยคดีดังกล่าวนั้นจำเลยทั้ง 2 ได้เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.อนันต์ พิชกุล รอง สว.สอบสวน สภ.ทุ่งใหญ่ กล่าวหาว่า นางสมจินต์ ได้แอบขายที่ดิน และอาคาร 2 ห้อง ในตลาดทุ่งใหญ่ ซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ร่วมระหว่าง นายบุญลือ กับนางสมจินต์ เมื่อครั้งที่ยังมีความสัมพันธ์ใกล้ชิด ก่อนที่จะแยกทางกันไป แต่ข้อเท็จจริงโฉนดที่ดิน และกรรมสิทธิ์การถือครองอาคารดังกล่าวนั้นยังเป็นกรรมสิทธิ์ร่วมกัน ยังไม่ได้มีการจดทะเบียนการซื้อขายเปลี่ยนแปลงกรรมสิทธิ์ใดๆ ซึ่งหลังจากที่จำเลยทั้ง 2 ได้แจ้งความดำเนินคดีต่อ นางสมจินต์ ต่อพนักงานสอบสวนแล้ว นางสมจินต์ ก็ได้ถูกออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งนางสมจินต์ ได้ไปรับทราบข้อกล่าวหาเรียบร้อยแล้ว
นางสมจินต์ เปิดเผยภายหลังว่า การฟ้องร้องดำเนินคดีนั้นต้องรักษาสิทธิของตนเอง เพราะไม่ได้ทำผิดตามที่ถูกแจ้งความ ซึ่งที่ดิน และอาคารทั้ง 2 ห้องนั้นยังคงเป็นกรรมสิทธิ์ร่วมกับ นายบุญลือ เหมือนเดิม ยังไม่มีการโอน หรือขายแต่อย่างใด มีหลักฐานชัดเจน แต่กรณีอยู่ระหว่างการฟ้องร้องขอแบ่งทรัพย์สิน แต่มาถูกแจ้งความกล่าวหาว่า ตนเองได้ขายไปแล้ว ซึ่งถือเป็นการแจ้งความเท็จ ทำให้ได้รับความเสียหาย จึงต้องฟ้องดำเนินคดีเพราะเป็นเรื่องเท็จทั้งหมด
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับ นางสมจินต์ จ่างทอง เป็นเศรษฐินีที่รู้จักกันดีในแวดวงสังคมนครศรีธรรมราช ชอบให้ความช่วยเหลือสังคม เช่น โรงพยาบาล โรงเรียน พระสงฆ์อาพาธ และการช่วยเหลือช่วงภัยพิบัติอุทกภัย ทุกครั้งจะใช้สถานที่ประกอบธุรกิจของตัวเอง ปรับเปลี่ยนเป็นโรงครัวขนาดใหญ่ปรุงอาหารสด ออกแจกจ่ายด้วยเงินส่วนตัวจำนวนมาก