ปัตตานี - ชาวสวนทุเรียนจังหวัดชายแดนภาคใต้เฮ หลังบริษัทแปรรูปทุเรียนเพื่อส่งออกต่างประเทศ พร้อมรับซื้อทุเรียนเป็นจำนวนมาก
วันนี้ (24 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เริ่มมีแนวโน้มดีขึ้น โดยเฉพาะผลทุเรียนของชาวสวนในพื้นที่ หลังจากมีพ่อค้ามารับซื้อเป็นจำนวนมาก ทำให้ผลผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาดที่มีค่อนขั้นสูงอยู่ในขณะนี้ ยิ่งปีนี้ผลผลิตทุเรียนในพื้นที่มีจำนวนน้อยกว่าทุกปีที่ผ่านมา จากภาวะฝนตกชุก และตกตลอดทั้งปี อย่างไรก็ตาม ชาวสวนต่างก็ดีใจเพราะจะทำให้ชาวสวนทุเรียนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มีรายได้เพิ่มขึ้น และเป็นโอกาสดีสำหรับชาวสวนในอนาคต ซึ่งคาดว่าปีหน้าจะมีผลผลิตทุเรียนออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก
ล่าสุด ชาวสวนยะลาต่างดีใจ หลังบริษัท ควีน โฟรเซ่น ฟรุต จำกัด ซึ่งเป็นโรงงานแช่แข็งทุเรียนแปรูป ทุเรียนแช่แข็ง และทำเป็นไอศกรีมรสทุเรียน โรงงานตั้งอยู่ที่ 99 / 55 ม.9 ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พร้อมรับซื้อทุเรียนจำนวนมากเพื่อนำมาแปรรูปก่อนที่จะส่งไปขายในตลาดประเทศจีน ที่กำลังนิยมทุเรียนในลักษณะต่างๆ หลังจาก นายดลเดช พัฒนรัฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา นายอันวา สุไลมาน พาณิชย์จังหวัดยะลา และนายโชคดี วิรุณกาญจน์ เกษตรจังหวัดยะลา ร่วมประชุมหารือกับบริษัทควีน โฟเซ่น ฟรุต จำกัด พร้อมให้การสนับสนุนดูแลผลผลิตทุเรียนของเกษตรกรในพื้นที่ จัดหาตลาดที่เกษตรกรพอใจ และสามารถเพิ่มรายได้
นายจิระ พยุรภร ผู้จัดการโรงงานแช่แข็ง บริษัทควีน โฟเซ่น ฟรุต จำกัด กล่าวว่า ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ตลาดทุเรียนแช่แข็งไปประเทศสิงคโปร์กับประเทศจีน เป็นตลาดที่นิยมบริโภคทุเรียนมากที่สุด มีปริมาณสั่งซื้อเพิ่มขึ้นทุกขึ้น บางปีเกิดปัญหาส่งออกไม่ทันตามจำนวนความต้องการของตลาด ชาวสิงคโปร์ และชาวจีนนิยมบริโภคทุเรียนแช่แข็งมากขึ้น ทางโรงงานแช่แข็งควีน โฟเซ่น จึงมองเห็นช่องทางที่จะช่วยชาวเกษตรในภาคใต้มีรายได้เพิ่มขึ้น มาร่วมกันพัฒนาผลผลิต โดยทางบริษัทจะรับซื้อทุเรียนในราคาที่ดีกว่าปัจจุบัน
สำหรับทุเรียนที่นิยมนำมาแช่แข็งต้องเป็นพันธุ์หมอนทองเท่านั้น เพราะทุเรียนหมอนทองมีเนื้อมาก รสชาติหวานมัน เนื้อแน่น กลิ่นไม่แรง สุกประมาณ 75-90 เปอร์เซ็นต์ อัตราทุเรียนผลและเนื้อทุเรียนแช่แข็งอยู่ที่ 70:30 คือ ทุเรียนผล 1,000 กิโลกรัม ทำเนื้อทุเรียนแช่แข็งได้ 312.5 กิโลกรัม และทุเรียนปอกเป็นพูเสียบไม้ไอศกรีมแช่แข็งพร้อมบรรจุภัณฑ์ ตอนนี้ตลาดสิงคโปร์และจีนมีอัตราการเติบโตที่สูงมาก ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่สามารถเพิ่มรายได้ให้แก่ชาวเกษตรกรได้ดี
นายดลเดช พัฒนรัฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวว่า การส่งออกเนื้อทุเรียนแช่แข็งจะช่วยเพิ่มมูลค่าได้เท่าตัวจากการขายทุเรียนผลตกไซส์ส่งออกไม่ได้ และตลาดจีนนิยมบริโภคทุเรียนอยู่แล้ว ด้วยรสชาติหวานมัน การใช้ทุเรียนสุกมากแช่แข็งจึงเป็นที่นิยมรับประทานกันมากของชาวสิงคโปร์ และชาวจีน และนำไปอบแห้ง หรือ Freeze Dried เป็นอาหารแปรรูป หรืออาหารขบเคี้ยวต่อได้อีกด้วย ทางจังหวัดพร้อมสนับสนุนงบประมาณแก่ชาวสวนทุเรียน เพื่อส่งเสริมการดูแลรักษาผลผลิต ส่งเสริมความรู้โดยมอบให้เกษตรจังหวัดรับผิดดูแลด้านนี้ต่อไป รวมทั้งสามารถรองรับผลผลิตที่จะออกมาในอีก 3-4 ปีข้างหน้านี้เป็นจำนวนมาก หลังชาวสวนยางจำนวนมากโค่นต้นยางหันมาปลูกทุเรียนแทน มั่นใจว่าการจับมือกับบริษัทจะสามารถตอบโจทย์ปัญหาของพี่น้องในพื้นที่ได้อย่างยั้งยืน
น.ส.กาญจนา แย้มพราย ประธานบริษัท ควีน โฟเซ่น ฟรุต จำกัด กล่าวว่า การคัดทุเรียนที่จะมาแช่แข็งทางโรงงานคัดเป็นเกรด แยกเป็น 3 เกรด คือ เกรด A เนื้อทุเรียนสีเหลือง เม็ดสวยเต็มพู รับประทานได้ทั้งสด และแปรรูป เกรด B ไม่เป็นเม็ด หรือพู เป็นเศษทุเรียน มีทั้งสีเหลือง สีขาวปะปนกัน นิยมแปรรูปเป็นไอศกรีม ไส้ขนม หรืออบแห้ง และเกรด C สีไม่ค่อยเหลืองแต่เม็ดยาวเต็มพู รับประทานทั้งสด และแปรรูป โดยนำไปบรรจุถุงต่อไป และทุเรียนไม่ค่อยดีทางบริษัทเราก็รับซื้อด้วย เพื่อช่วยเหลือชาวเกษตรกร พร้อมแปรรูปอบแห้งบรรจุซองสุญญากาศจำหน่ายต่อ
การทำเนื้อทุเรียนแช่แข็งนอกจากช่วยเพิ่มมูลค่าให้แก่ทุเรียนตกไซส์แล้ว ยังทำให้ชาวสวนไม่ต้องรีบตัดทุเรียนอ่อนขาย คาดอีก 4 ปีข้างหน้า ทุเรียนจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากเจ้าของสวนยางพาราได้โค่นต้นยางทิ้งแล้วหันมาปลูกทุเรียน ในส่วนของแนวโน้มตลาดเนื้อทุเรียนแช่แข็งจะยังคงขยายตัวโดยเฉพาะตลาดจีน ยุโรป ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย มาเลเซีย และในอนาคตการทำเนื้อทุเรียนแช่แข็งจะต้องมีการพัฒนาเป็นเนื้อทุเรียนอบแห้ง รัฐควรให้การสนับสนุนเรื่องการส่งออก และเป็นเงินทุนหมุนเวียนปลอดดอกเบี้ย เพื่อให้ภาคการผลิตการตลาดเข้มแข็ง และขยายตัวมากกว่านี้ เพื่อผู้ประกอบการขนาดเล็ก และขนาดกลางได้พัฒนาสู้ตลาดจีนต่อไป
นายอับดุลสอมัด อับดุวาฮับ ชาวสวนทุเรียนในพื้นที่ จ.ยะลา กล่าวว่า ทางครอบครัวมีสวนทุเรียนที่เพิ่งปลูกใหม่หลังจากโค่นยางพาราขาย ประมาณ 18 ไร่ แล้วยังมีของชาวบ้านอีกจำนวนมากที่หันมาปลูกทุเรียน คาดว่าอีก 4 ปี ผลผลิตจะออกมาจำนวนมากแน่นอน ก็ถือว่าเป็นเรื่องดีมากที่บริษัทจะรับซื้อในราคาที่พอใจของทั้งสองฝ่าย เรายินดีมากที่จะพัฒนาผลผลิตของเราให้ได้ตามตลาดต้องการ และมาร่วมมือกับบริษัท ในอนาคตคิดว่าถ้าพวกเราพัฒนาผลผลิตให้ดีตามที่ตลาดต้องการ เราจะมีรายได้เพิ่มกว่าปีนี้อย่างแน่นอน