โดย...เอกรักษ์ ศรีรุ่ง
--------------------------------------------------------------------------------
ในสังคมโลกมุสลิม.. การได้ไปประกอบพิธี “ฮัจญ์” ณ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ถือเป็นความฝันอันสูงสุดของผู้ที่นับถือศาสนาทุกเชื้อชาติ และภาษา เนื่องจากเป็นข้อปฏิบัติของหลักศาสนา 5 ประการ คือ การกล่าวปฏิญาณตน การละหมาด การถือศีลอด การจ่ายซะกาต และการประกอบพิธีฮัจญ์
แต่เนื่องจากปัจจัยอันสำคัญของการเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ ในปัจจุบันนั้นมีค่าใช้จ่ายสูง ปัจจัยเรื่องการเงินจึงกลายเป็นปัญหาสำหรับผู้มีรายได้น้อยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีพี่น้องนับถือศาสนาอิสลามมากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์
รัฐบาลนำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ส่งเสริมการประกอบศาสนกิจของศาสนาอิสลามในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยให้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ร่วมกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า) จัดโครงการส่งเสริมคนดีมีคุณธรรมไปประกอบพิธีฮัจญ์ ณ ประเทศซาอุดีอาระเบีย อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 10
ซึ่งในปี 2560 นี้ ได้จัดโควตาให้ประชาชนไปประกอบพิธีฮัจญ์ จำนวน 200 คน โดยคัดเลือกจากกลุ่มผู้ทำคุณประโยชน์ให้แก่สังคม ประชาชนในกลุ่มบัญชีซะกาตประจำมัสยิดพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ บัณฑิตอาสาพัฒนามาตุภูมิ และเครือข่าย ศอ.บต. กำหนดเดินทางไปประเทศซาอุดีอาระเบีย ในวันที่ 26 กรกฎาคม 2560 ที่ผ่านมา
ซึ่ง ศอ.บต.ได้จัดคณะติดตามดูแลด้านที่อยู่อาศัย อาหาร การเดินทาง เพื่อให้พี่น้องได้ประกอบพิธีฮัจญ์โดยสมบูรณ์ พร้อมบันทึกเทปโทรทัศน์รายการ “สายสัมพันธ์ฮัจย์ ศอ.บต.” ออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย จ.ยะลา และโทรทัศน์สันติสุข ระบบ PSI ช่อง 263 และรับชมผ่านจานส้ม ช่อง 240 และรับฟังทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส สงขลา สตูล สุไหงโก-ลก และสถานีวิทยุแห่งประเทศไทย อำเภอเบตง ในเวลา 11.00-12.00 น. เพื่อให้พี่น้องจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้รับรู้ข่าวสารความคืบหน้าการดำเนินกิจกรรมของฮุจญาจชาวไทย ในประเทศซาอุดีอาระเบีย
ฮุจญาจกอเซ็ง อายุ 65 ปี ชาวบ้านเจะดีย์ อ.เมือง จ.ปัตตานี หนึ่งในผู้ประกอบพิธีฮัจญ์ เล่าหลังจากทำกิจกรรมที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย มาเป็นเวลา 8 วัน ว่า วันนี้เป็นอีกวันที่ร่วมทำกิจกรรม ซึ่งเป็นวันศุกร์ จึงได้ร่วมละหมาดวันศุกร์ที่เมืองมาดีนะห์ รู้สึกตื่นเต้นมาก แม้จะไม่สบาย แต่ก็จะดูแลตัวเองเพื่อประกอบพิธีฮัจญ์ให้สมบูรณ์
“การได้เข้าร่วมโครงการส่งเสริมคนดีมีคุณธรรมของ ศอ.บต. และ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ถือเป็นความประสงค์ของพระเจ้า เพราะมีพี่น้องหลายคนที่ต้องการมาประกอบพิธีฮัจญ์ แต่ยังไม่ได้รับเลือก ขอขอบคุณรัฐบาล ศอ.บต. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำให้ผมได้มาปฏิบัติหลักศาสนาข้อที่ 5 คือ การประกอบพิธีฮัจญ์ในครั้งนี้” ฮุจญาจกอเซ็ง กล่าว
นายอิดดริส แวดือเร๊ะ ฮุจญาจจาก ต.บางนา อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เผยถึงการเข้าร่วมโครงการว่า ตนได้รับเลือกจากบัณฑิตอาสาพัฒนามาตุภูมิ ของกลุ่มบัญชีซะกาต เป็นผู้ที่ดูแลความเรียบร้อย และช่วยเหลือการทำกิจกรรมในหมู่บ้าน พร้อมเป็นทูตในการแปลภาษา ครั้นได้รู้ว่าจะได้ไปประกอบพิธีฮัจญ์นี้ รู้สึกดีใจ และตื้นตันใจอย่างบอกไม่ถูก เพราะถ้าลำพังให้เก็บเงินไปเองก็คงไม่ได้ไป
“ลูกๆ ก็ดีใจไปกับผมด้วย ลูกสาวคนเล็กของผมยิ้มร่า แล้วฝากให้ผมซื้อเฮนน่า ทาเล็บ ผมตื้นตันใจมาก โครงการนี้เป็นโครงการที่มอบโอกาสให้ผมได้ทำในสิ่งที่ยิ่งใหญ่ เป็นเจตนาสูงสุด” นายอิดดริส กล่าว
น.ส.นูรฮายา ดือเลาะ บุตรสาวของหนึ่งในผู้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ กล่าวว่า แม่ของตนได้รับการคัดเลือกไปประกอบพิธี จากผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังวัดชายแดนภาคใต้ หลังบิดาเสียชีวิตเมื่อปี 2550 มารดาก็ทำหน้าที่ดูแลลูกๆ คนเดียวมาโดยตลอด และวันนี้มารดาได้รับโอกาสที่ประเสริฐยิ่ง ในการไปประกอบพิธีฮัจญ์ ซึ่งอยู่ในหลักปฏิบัติ 5 ประการของศาสนาอิสลาม หากหวังเก็บเงินเพื่อเดินทางไปเองนั้นยังมองไม่เห็นทาง
การเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์นั้น ต้องใช้ค่าใช้จ่ายราว 200,000 บาทต่อคน แม้ว่าจะเป็นความฝันอันสูงสุดของคนทุกชน แต่ค่าใช้จ่ายในการเดินทางก็เป็นจำนวนเงินไม่น้อย สำหรับผู้มีรายได้หาเช้ากินค่ำ
โครงการส่งเสริมคนดีมีคุณธรรมไปประกอบพิธีฮัจญ์ ณ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ของ ศอ.บต. และ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ที่รัฐบาลส่งเสริม และสนับสนุน จึงเป็นการสานความฝันของชาวบ้านผู้มีรายได้น้อยได้ประกอบพิธีฮัจญ์ด้วยความปลื้มปีติ และได้ผลบุญฮัจญ์ที่สมบูรณ์