xs
xsm
sm
md
lg

ปกป้องมัสยิดกลางฉลุงอายุ 100 ปี เครือข่ายสัปบุรุษประกาศเจตนารมณ์ใช้ละหมาดต่อไป

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
สตูล - ปกป้องมัสยิดกลางฉลุง อายุ 100 ปี เครือข่ายสัปบุรุษออกแถลงการณ์ประกาศเจตนารมณ์ เพื่อใช้มัสยิดกลางฉลุงละหมาดต่อไป หลังมีประกาศให้ย้ายออก เตรียมร้องไปยังจุฬาราชมนตรี หน่วยความมั่นคงเพื่อขอความยุติธรรม

วันนี้ (4 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่มัสยิดกลางฉลุง หมู่ที่ 4 ต.ฉลุง อ.เมือง จ.สตูล นายมาหมาด อาดำ ประธานเครือข่ายสัปบุรุษ พร้อมด้วย นายบราเห็ม สลีมิน เลขาเครือข่ายฯ นายสมาน เจ๊ะสัน และชาวบ้านเครือข่ายสัปบุรุษ ที่ใช้มัสยิดกลางฉลุง เป็นที่ละหมาดกว่า 100 คน

หลังเสร็จสิ้นการร่วมละหมาดวันศุกร์ ได้พูดคุยหารือ และเปิดโต๊ะแถลงข่าวแสดงจุดยืน โดย นายมาหมาด อาดำ ประธานเครือข่ายสัปบุรุษ ประกาศจุดยืนในการไม่ย้ายสถานที่ละหมาดไปยังมัสยิดใหม่ ซึ่งอยู่ห่างจากมัสยิดแห่งนี้ประมาณ 300 เมตร อย่างแน่นอน เนื่องจากชาวบ้านเครือข่ายสัปบุรุษเห็นว่า มัสยิดกลางฉลุงแห่งนี้ ซึ่งมีอายุมากกว่า 100 ปี มีคุณค่าทางจิตใจ มีจิตวิญญาณของบรรพบุรุษที่ร่วมกันบริจาคสะสมเงินในการก่อสร้าง เพื่อใช้เป็นสถานที่ประกอบศาสนกิจทางศาสนาอิสลาม ด้วยการละหมาดพร้อมกันมาจนถึงปัจจุบัน
 

 
แม้จะมีหนังสือจากคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสตูล ลงวันที่ 1 สิงหาคม 2560 ลงนามโดย นายอรุณ อุมาจิ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด แจ้งให้ย้ายมัสยิดจากอาคารเก่าไปมัสยิดหลังใหม่ ซึ่งตั้งอยู่ในหมู่ที่ 4 เช่นเดียวกัน โดยเครือข่ายสัปบุรุษ ได้ประกาศเจตนารมณ์ชัดเจนที่จะไม่ย้ายไปยังมัสยิดแห่งใหม่อย่างแน่นอน

ซึ่งแถลงการณ์ครั้งนี้ได้ให้เหตุผล 6 ข้อคือ
1.ชาวบ้านหมู่ที่ 4, 5 และข้างเคียงได้ประกาศสัตยาบันว่า ยังคงใช้มัสยิดกลางฉลุงที่มีอายุยาวนานนับ 100 ปีต่อไป
2.เห็นว่าการแจ้งให้ย้ายไปยังมัสยิดใหม่ของคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสตูล เป็นคำสั่งที่ไม่เป็นธรรมต่อมัสยิดกลางฉลุง
3.การสร้างมัสยิดใหม่ในครั้งนี้ไม่ผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการมัสยิด และชาวบ้าน
4.คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด ไม่ได้ควบคุมกำกับดูแลมัสยิดที่เกิดขึ้นใหม่ให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.กิจการบริหารองค์กรศาสนาปี 2540 จึงไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตาม
5.อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการตรวจสอบมูลนิธิที่ให้การสนับสนุนในการสร้างมัสยิดใหม่ ซึ่งเป็นงบประมาณมาจากต่างประเทศ มาใช้เพื่อสร้างความแตกแยกมากกว่าสนับสนุน
และ 6.ทางเครือข่ายสัปบุรุษ จะเรียกร้องของความยุติธรรมไปยังจุฬาราชมนตรี และหน่วยความมั่นคงในเรื่องนี้ หลังได้ทำเรื่องร้องศูนย์ดำรงธรรมอำเภอเมืองสตูลแล้วต่อไป
 

 
นอกจากนี้ เครือข่ายสัปบุรุษยังตั้งข้อสังเกตว่า หากต้องการจะให้มีการตั้งมัสยิดใหม่จริงก็ไม่ควรจะใช้ชื่อซ้ำกันกับมัสยิดกลางฉลุง ที่มีคุณค่าต่อความรู้สึกของคนฉลุง และอยู่คู่ชุมชนมาอย่างยาวนาน

นายสมาน เจ๊ะสัน อายุ 86 ปี กล่าวยว่า มัสยิดกลางฉลุง อยู่มาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ เมื่อวัยเด็กเห็นอิหม่ามอายุเป็น 100 ปี ก็ใช้มัสยิดแห่งนี้ละหมาดแล้ว จู่ๆ มาประกาศให้ย้ายมัสยิด ทุกคนก็รับไม่ได้ และในวันที่ 13 ส.ค.นี้ ทางเครือข่ายสัปบุรุษได้รับแจ้งจากทางคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสตูล ว่า จะมีการนำเรื่องข้อร้องเรียนปัญหาดังกล่าวเข้าหารือ และขอมติในที่ประชุมเพื่อหาทางออกร่วมกัน
 
กำลังโหลดความคิดเห็น