ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ยังไม่ชัดเจน ที่ดินสร้างบ้านหรูบนเนินเขาริมทะเลอ่าวเสน แหลมกระทิง จ.ภูเก็ต อยู่ในระยะถอยร่นที่ 1 หรือ 2 ผลการใช้ GPS วัดค่าพิกัดก้ำกึ่งว่าสร้างได้ทั้ง 6 เมตร และ 12 เมตร ผู้ว่าฯ สั่งบูรณาการทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบอีกครั้งเร็วๆ นี้ หาความกระจ่างให้สังคมและให้ความเป็นธรรมกับเจ้าของบ้าน พร้อมสั่งที่ดินพิสูจน์โฉนดได้มาถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่
จากกรณีที่มีการโพสต์และแชร์กันในโชเซียล พร้อมทั้งตั้งข้อสงสัย กรณีที่เทศบาลตำบลราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต อนุญาตให้ก่อสร้างบ้านหรูบนเนินเขาริมชายทะเลทางไปอ่าวเสน และแหลมกระทิง หมู่ 1 ต.ราไวย์ ได้อย่างไร จนกลายเป็นประเด็นร้อน
โดยเมื่อวานที่ผ่านมา (31 ก.ค.) นายอรุณ โสฬส นายกเทศมนตรีตำบลราไวย์ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบการก่อสร้างบ้านหรูดังกล่าว ทั้ง จังหวัดภูเก็ต ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทหาร ที่ดิน สตง. ฝ่ายปกครอง ป่าไม้ เพื่อตรวจสอบข้อสงสัย ทั้งในเรื่องความลาดชันของพื้นที่ และการก่อสร้างที่ติดริมถนนสาธารณะ ระยะถอยร่นจากน้ำทะเลท่วมถึง เอกสารสิทธิที่ดิน เป็นต้น และในวันเดียวกันทางเทศบาลตำบลราไวย์ ได้มีคำสั่งระงับการก่อสร้างโครงการดังกล่าว เนื่องจากตรวจพบว่า การก่อสร้างไม่เป็นไปตามที่อนุญาต และระยะถอยร่นจากถนนสาธารณะไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด
ในขณะที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต ได้นำเครื่อง GPS ตรวจวัดค่าพิกัดของระยะถอยร่นจากน้ำทะเลท่วมถึง เพื่อหาค่าพิกัดว่าการก่อสร้างบ้านหรูดังกล่าว อยู่ในระยะถอยร่นที่ 1 หรือ 2 ตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่องการกำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมในบริเวณพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ตามที่ทางผู้ยื่นขอและเทศบาลตำบลราไวย์ระบุว่าอยู่ในระยะถอนร่นที่ 2 สามารถสร้างบ้านพักอาศัยได้ 12 เมตร
สำหรับความคืบล่าสุด วันนี้ (1 ส.ค.) นายเกษม สุขวารี ผู้อำนวยการ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรฯจังหวัดภูเก็ต ได้นำเครื่อง GPS ตรวจวัดหาค่าพิกัดที่ตั้งของการก่อสร้างบ้านหรูบนเนินเขาอ่าวเสนในบริเวณจุดที่ทำการก่อสร้างทั้งหมด เมื่อวานที่ผ่านมา มาลงในระวางแผนที่เพื่อหาค่าที่ชัดเจน ปรากฏว่า จุดที่ก่อสร้างบ้านหรูนั้น ก่ำกึ่งระหว่างระยะถอยร่นที่ 1 และที่ 2 ที่น้ำทะเลทะเลท่วมถึงสูงสุด คือ อยู่ทั้งในระยะถอยร่นที่ 1 และที่ 2 สามารถสร้างบ้านพักสูง 6 เมตร และ 12 เมตร ตามประกาศกระทรวงทรัพย์ฯ พร้อมทั้งได้รายงานเรื่องดังกล่าวไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตแล้วในวันนี้
โดยทางผู้ว่าฯภูเก็ต ได้สั่งการและมอบหมายให้ รอง ผอ.กอ.รมน.ภูเก็ต นาวาเอกบวร พรหมแก้วงาม เป็นหัวหน้าชุดทำงานในการตรวจสอบการก่อสร้างบ้านหลังดังกล่าว พร้อมทั้งได้มอบหมายให้ทางสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองภูเก็ต นำเครื่องมือวัดค่าพิกัดที่ทันสมัย และเจ้าหน้าที่ที่ชำนาญเรื่องนี้ ไปตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้เกิดความชัดเจนและเป็นธรรมกับเจ้าของโครงการมากที่สุด พร้อมทั้งมอบหมายให้สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 สาขาภูเก็ต ชี้ระยะถอยร่นจากน้ำทะเลท่วมถึงในจุดสูงสุด รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดลงพื้นที่อีกครึ่งหนึ่งในเร็วๆนี้ เพื่อตรวจสอบระยะถอยร่นที่ชัดเจนและเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
ด้านนายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงเรื่องเดียวกันนี้ ว่า รับทราบปัญหาการก่อสร้างบ้านหรูดังกล่าวแล้ว และที่ผ่านมาได้เข้าไปตรวจสอบพื้นที่ก่อสร้างจริงด้วยตัวเองมาแล้วเช่นกัน เพื่อต้องการเห็นสภาพพื้นที่จริง ตามที่มีการตั้งข้อสงสัยกันในโซเชียล จึงได้มอบหมายให้ทางสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทสจ.) ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ เมื่อวันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา และในวันนี้ก็ได้มอบหมายให้ นาวาเอก บวร พรหมแก้วงาม รอง ผอ.กอ.รมน.ภูเก็ต บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ลงไปตรวจสอบพื้นที่จริงและเอกสารหลักฐานในเชิงลึกอีกครั้งหนึ่ง
โดยในส่วนของที่ดินจังหวัดภูเก็ตนั้น ได้มอบหมายให้ไปตรวจสอบที่มาของเอกสารสิทธิที่ดินแปลงดังกล่าวว่าได้มาอย่างไร เมื่อไหร่ เป็นที่ ส.ป.ก.หรือไม่ เพราะจากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบมีหลักหมุด ส.ป.ก.ในพื้นที่ด้วย คาบเกี่ยวกับพื้นที่ป่าไม้หรือไม่ ในขณะที่เทศบาลตำบลราไวย์นั้น จะต้องตรวจสอบรายละเอียดการยื่นขอก่อสร้าง และการขออนุญาตก่อสร้างว่าเป็นไปตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 และกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมดหรือไม่ รวมไปถึงโยธาธิการและผังเมือง ที่จะต้องตรวจสอบอาคารก่อสร้างทั้งหมด แม้แต่เจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 สาขาภูเก็ต ก็ให้เข้าไปดูแลในเรื่องของระยะถอยร่นจากน้ำทะเลท่วมถึงเช่นกัน เพื่อสร้างความกระจ่างให้เกิดขึ้นในส่วนของเจ้าของบ้านหรู และประชาชนชาวภูเก็ต รวมถึงชาวโซเชียลทั้งหลาย
ส่วนกรณีที่มีการตั้งคำถามกันว่า ยังมีอีกหลายจุดในภูเก็ตที่มีการสร้างบ้านหรูพักตากอากาศตามเนินเขา ที่สามารถมองเห็นวิวทะเลได้อย่างสวยงาม จะมีการตรวจสอบหรือไม่นั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ระบุว่า กรณีบ้านหรูที่มีการตรวจสอบในขณะนี้ เนื่องจากมีการร้องเรียน และตั้งขอสงสัยผ่านมาทางโซเชียล และมีการขยายผลในวงกว้าง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงต้องเข้าไปตรวจสอบ และทุกโครงการที่มีการร้องเรียนเข้ามา ทางจังหวัดจะเข้าไปตรวจสอบทั้งหมด ไม่ยกเว้นหรือเลือกปฏิบัติตรวจสอบเฉพาะโครงการใดโครงการหนึ่งเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม สำหรับบ้านหรูทั้ง 4 หลังนั้น เป็นของนักธุรกิจชื่อดังจากกรุงเทพฯ โดยที่ดินแปลงนี้ทางสำนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต ได้ออกเอกสารสิทธิเมื่อปี 2553 เนื้อที่ทั้งหมด 30 ไร่ หลังจากนั้น ขอขอแบ่งแยกโฉนดออกเป็น 5 โฉนด ออกไปแล้ว 4 โฉนด ยังเหลืออีก 1 โดยแปลงที่ก่อสร้างบ้านหรูทั้ง 4 หลัง อยู่ในที่ดินแปลงที่ 113311 เนื้อที่ 1 ไร่เศษ ที่เจ้าของบ้านหรูได้ซื้อมาจากเจ้าของเดิมเมื่อวันที่ 8 พ.ย.2559 หลังจากนั้น ได้มายื่นขอก่อสร้างบ้านหรู จนกลายเป็นประเด็นร้อนอยู่ในขณะนี้