ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เทศบาลตำบลราไวย์ สั่งระงับการก่อสร้างบ้านหรูบนเนินเขาทางไปอ่าวเสน และแหลมกระทิง ชั่วคราวแล้ว หลังตรวจสอบพบสร้างเกินที่ขออนุญาต ระยะถอยร่นไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด หากไม่ปรับปรุงให้เป็นไปตามกฎหมายแจ้งความดำเนินคดี ด้าน ทสจ.สงสัยอยู่ในระยะถอยร่นที่ 1 หรือ 2 นำเครื่อง GPS วัดค่าพิกัด ด้านตัวแทนเจ้าของบ้านหรูยอมรับสร้างเกินที่ขอจริง พร้อมแก้ไขปรับปรุง เผยสร้างเป็นบ้านพักตากอากาศสำหรับเจ้าของที่ดิน และเพื่อนฝูง 4 หลัง 20 ล้านบาท
จากกรณีที่มีการโพสต์ และแชร์กันในโซเชียล พร้อมทั้งวิพากษ์วิจารณ์ และตั้งข้อสงสัยหลายในประเด็น กรณีที่เทศบาลตำบลราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต อนุญาตให้ก่อสร้างบ้านหรู ซึ่งตั้งอยู่เนินเขาริมชายทะเลทางไปอ่าวเสน และแหลมกระทิง ต.ราไวย์ ได้อย่างไร จนกลายเป็นประเด็นร้อนอยู่ในโซเชียลขณะนี้
วันนี้ (31 ก.ค.) นายอรุณ โสฬส นายกเทศมนตรีตำบลราไวย์ ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบการก่อสร้างบ้านหรูดังกล่าว โดยมี นาวาเอกบวร พรมแก้วงาม รอง กอ.รมน.ภูเก็ต นายเกษม สุขวารี ผอ.สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พ.ท.สุรศักดิ์ พึ่งแย้ม รอง ผบ.ร 25 พัน 3 ชุดรักษาความสงบจังหวัดภูเก็ต นายธนกัญจน์ ธโนปจัยรัตน์ นายช่างรังวัดชำนาญงาน สำนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต เจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ภูเก็ต ฝ่ายปกครอง ผอ.กองช่าง เทศบาลตำบลราไวย์ ตัวแทนป่าไมจังหวัดภูเก็ต เป็นต้น
โดยทางเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต ได้นำเครื่อง GPS ไปวัดค่าพิกัดพื้นก่อสร้างบ้านหรูดังกล่าวว่าตั้งอยู่ในพื้นที่ระยะที่ 1 หรือระยะที่ 2 ตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อนำมาวิเคราะห์ประมวลผลให้ชัดเจน เพราะหากที่ดินที่ก่อสร้างตั้งอยู่ในพื้นที่ระยะถ่อยร่นที่ 1 ซึ่งเป็นระยะถอยร่นจากน้ำทะเลท่วมถึงสูงสุด 20 เมตร สามารถสร้างอาคารสูงได้ 6 เมตร แต่หากตั้งอยู่ในระยะที่ 2 เป็นระยะถอยร่นจากน้ำทะเลท่วมถึงสูงสุด 50 เมตร จะสามารถก่อสร้างได้สูง 12 เมตร
นายอรุณ โสฬส นายกเทศมนตรีตำบลราไวย์ กล่าวว่า ภายหลังจากที่มีการตั้งข้อสงสัยถึงการก่อสร้างบ้านหรูบนเนินเขาริมทะเลทางไปอ่าวเสนในโซเชียลนั้น วันนี้จึงได้นัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบการก่อสร้างดังกล่าว ซึ่งทางเทศบาลขอชี้แจงให้ทราบว่า เทศบาลตำบลราไวย์ได้ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยก่อนที่จะยื่นขออนุญาตก่อสร้าง ทางตัวแทนเจ้าของบ้านได้เข้ามาปรึกษาหารือกับเทศบาลหลายรอบเพื่อให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด หลังจากนั้น ได้ยื่นแบบขออนุญาตก่อสร้างมายังเทศบาล เพื่อก่อสร้างบ้านพักอาศัย จำนวน 4 หลัง บางหลัง 2 ชั้น บางหลัง 3 ชั้น
ทางกองช่างของเทศบาลได้ทำการตรวจสอบเอกสารต่างๆ โครงสร้างความแข็งแรงของอาคาร กฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด และลงพื้นที่ตรวจสอบที่ดินแปลงดังกล่าวหลายครั้ง พร้อมทั้งได้แจ้งไปยังเจ้าของที่ดินว่า พื้นที่ดังกล่าวสามารถก่อสร้างบ้านพักอาศัยได้ แต่ไม่สามารถก่อสร้างโรงแรม หรืออาคารชุดได้ จึงได้อนุญาตก่อสร้างบ้านหรูดังกล่าวตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522
ภายหลังมีกระแสข่าวสงสัยการก่อสร้างบ้านหรูดังกล่าว ตนจึงได้สั่งการให้ทางกองช่างลงไปสำรวจพื้นที่และการก่อสร้างอีกครั้งเมื่อวานนี้ ว่าเป็นไปตามใบอนุญาตก่อสร้างหรือไม่ จากการตรวจสอบพบว่า มีการก่อสร้างนอกเหนือจากที่มีการขออนุญาตบางส่วน เช่น ลานจอดรถที่มีเสาเพิ่มขึ้นมา 2 จุด ลานโล่งๆ พร้อมเสาที่อยู่ด้านล่างของบ้าน 2 จุด ระยะถอยร่นไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งทางเทศบาลได้ทำหนังสือแจ้งให้ระงับการก่อสร้างบ้านหรูดังกล่าวตั้งแต่วันนี้ และหากในส่วนที่ก่อสร้างเพิ่มเติม หรือก่อสร้างผิดไปจากแบบที่ขอไม่สามารถปรับปรุงได้ เจ้าของโครงการจะต้องรื้อสิ่งก่อสร้างภายใน 30 วัน นับจากวันนี้ หากฝ่าฝืนทางเทศบาลจะแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้าน นายเกษม สุขวารี ผอ.สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า การลงพื้นที่ตรวจสอบโครงการก่อสร้างบ้านหรูในวันนี้ เป็นการตรวจสอบว่าพื้นที่ที่มีการอนุญาตก่อสร้างโดยทางเทศบาลตำบลราไวย์ ถูกต้องตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่องการกำหนดเขตพื้นที่ และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมในบริเวณพื้นที่จังหวัดภูเก็ตหรือไม่ โดยกรณีนี้เป็นการขออนุญาตก่อสร้างที่อยู่อาศัย ไม่เข้าข่ายต้องทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA แต่เนื่องจากจังหวัดภูเก็ต เป็นพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม เทศบาลตำบลราไวย์ จะต้องนำประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มาบังคับใช้ด้วย เนื่องจากพื้นที่ก่อสร้างอยู่ติดบริเวณทะเล
โดยตามประกาศกระทรวงทรัพย์ฯ ได้กำหนดระยะถอยร่นไว้ทั้งหมด 9 ระยะ ในส่วนของการก่อสร้างบ้านหรูดังกล่าว ทางเทศบาล และเจ้าของโครงการระบุว่าพื้นที่บางส่วนอยู่ในระยะถอยร่นที่ 1 (ห่างจากจุดที่น้ำทะเลท่วมถึงสูงสุด 20 เมตร สร้างอาคารสูงได้ 6 เมตร ) แต่ที่ก่อสร้างตัวบ้านหรูอยู่ในระยะถอยร่นที่ 2 คือ ห่างจากน้ำทะเลท่วมถึงสูงสุด 50 เมตร สามารถก่อสร้างอาคารสูงได้ 12 เมตร หรืออาคารประมาณ 3 ชั้น
“ในวันนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่ใช้เครื่อง GPS ทำการตรวจวัดค่าพิกัดพื้นที่ว่าอยู่ในระยะที่ 1 หรือที่ 2 หากพื้นที่อยู่ในระยะถอยร่นที่ 1 คิดว่าความสูงของอาคารที่สร้างน่าจะเกิน 6 เมตร ซึ่งเรื่องนี้จะต้องทำการตรวจสอบให้ชัดเจนว่าอยู่ในระยะถอยร่นระยะที่ 1 หรือระยะที่ 2 หลังจากได้ค่าพิกัดที่ดินเรียบร้อยแล้วจะเสนอไปยังเทศบาลราไวย์ เพื่อดำเนินการต่อไป แต่ในเบื้องต้น ไม่สามารถระบุได้ว่าชัดเจนว่าอยู่ในระยะใด” นายเกษม กล่าวในที่สุด
ขณะที่ นายธนกัญจน์ ธโนปจัยรัตน์ นายช่างรังวัดชำนาญงาน สำนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า วันนี้เป็นการตรวจสอบในเบื้องต้นว่า ตำแหน่งที่ดินตรงกับเอกสารสิทธิหรือไม่ ในเบื้องต้น น่าจะตรงกัน โดยที่ดินดังกล่าวออกโฉนดเมื่อปี 2553 เนื้อที่ 30 ไร่ 3 งาน 59.1 ตรว.หลังจากนั้นได้แบ่งแยกที่ดินออกเป็น 4 โฉนด และยังเหลืออีก 1 โฉนด ที่ยังไม่ได้ออก แปลงที่ทำการก่อสร้างโฉนดเลขที่ 113311 หมู่ 1 ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต เนื้อที่ 1 ไร่ 2 งาน 5 ตร.ว.โดยเจ้าของที่ดินได้ซื้อต่อมาจากเจ้าของที่ดินเดิม เมื่อวันที่ 8 พ.ย.2559 ที่ผ่านมา
ด้าน นายอนันต์ จันทมาศ ตัวแทนเจ้าของบ้านหรู กล่าวยอมรับว่า ได้มีการก่อสร้างเกินจากส่วนที่ได้ยื่นขออนุญาตจากเทศบาลตำบลราไวย์ ในส่วนของลานจอดรถ ซึ่งคิดว่าไม่ต้องอนุญาต เพราะมองว่าไม่ได้เป็นอาคาร รวมถึงการก่อสร้างลานโล่งๆ ที่บริเวณชั้นล่างของบ้าน จะทำการรื้อถอนสิ่งที่เกินมาทั้งหมด หลังจากที่ได้รับหนังสือจากเทศบาลราไวย์ รวมไปถึงระยะถอยร่นจากบริเวณทางสาธารณะที่ได้มีการปรับลดความสูงของอาคารจาก 3 ชั้นเป็น 2 ชั้นแล้ว
สำหรับบ้านหรูดังกล่าวนั้น นายอนันต์ กล่าวว่า เจ้าของซึ่งเป็นคนกรุงเทพฯ ต้องการสร้างเพื่อให้เป็นบ้านพักตากอากาศสำหรับครอบครัว และเพื่อนๆ มีทั้งหมด 4 หลัง หลังละ 2 ห้องนอน เป็นพูล วิลลา 2 หลัง ตามกำหนดจะก่อสร้างให้แล้วเสร็จในเดือนเมษายน 2561 ใช้เงินลงทุนก่อสร้างไม่รวมตกแต่ง และที่ดินทั้งหมด 20 ล้านบาท