สุราษฎร์ธานี - ต้องคำสาปจริงหรือชาวบ้านผวาหนัก! สร้างโบสถ์วัดควนร่อน เวียงสระ สุราษฎร์ธานี แบบถาวรไม่ได้ เวลาผ่านไป 80 ปี 6 เจ้าอาวาส ล่าสุด เจ้าอาวาสมรณภาพอีกหลังวางศิลาฤกษ์ได้ 7 วัน เชื่อต้องคำสาปพ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ เทพเจ้าแห่งแดนใต้
วันนี้ (31 ก.ค.) นายปริญญา คลิ้งทอง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 4 บ้านปากลาย ตำบลทุ่งหลวง อำเภอเวียงสระ จังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าว กรณีการสร้างโบสถ์ วัดกัลปนาราม หรือชื่อ เดิม วัดควนร่อน ที่เวลาล่วงเลยมาถึง 80 ปี ที่สร้างไม่เสร็จว่า อดีตเมื่อหลาย 10 ปี ที่ผ่านมา วัดแห่งนี้มีความเจริญรุ่งเรืองมาก เนื่องจากสมัยก่อนยังไม่มีทางรถยนต์ ชาวบ้านได้อาศัยแม่น้ำตาปีเป็นเส้นทางการสัญจรติดต่อกัน ที่ท่าน้ำของวัด เป็นท่าจอดเรือจ้างเป็นศูนย์กลางการค้า และการสัญจรไปมา
และมีการเล่าต่อๆ กันมาว่า เมื่อประมาณ 80 ปีที่ผ่านมา พ่อท่านคล้าย พระเกจิอาจารย์ชื่อดังของจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เดินทางมาที่วัดสามพัน ในพื้นที่อำเภอพระแสง ขณะนั่งเรือผ่านวัดควนร่อน ท่านได้ขึ้นฝั่งมา แต่ไม่มีใครรู้จัก และไม่มีใครให้ความสนใจ ประกอบกับชาวบ้านกำลังมีเรื่องทะวิวาทอย่างชุลมุนกันในเรื่องของรองเท้า
พ่อท่านคล้าย ทราบเรื่อง จึงพูดออกมาว่า มีเรื่องแบบนี้ที่นี่ไม่มีความเจริญ แล้วท่านก็ลงเรือจากไป หลังจากท่านจากไปแล้วชาวบ้านจึงทราบว่า เป็นพ่อท่านคล้าย และมีความหวาดวิตกกังวล คำของท่านที่พูดออกมาอย่างนั้นเหมือนกับเป็นคำสาป ว่า วัดควนร่อน ไม่มีความเจริญต่อไป ประกอบกับหลังเกิดเหตุ วัดควนร่อน ก็ตกต่ำลงมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน และที่สำคัญที่ผ่านมา ทางวัดพยายามที่จะสร้างโบสถ์ถาวรที่วัด แต่ไม่สามารถสร้างได้สำเร็จ แม้ว่าเวลาจะผ่านมานานถึง 80 ปีแล้วก็ตาม
สำหรับประวัติวัดกัลปนาราม (วัดควนร่อน) ตั้งอยู่ที่ ม.4 บ้านปากสาย ต.ทุ่งหลวง อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี เป็นวัดเก่าแก่รกร้างสร้างมานาน ค้นหาประวัติเดิมไม่ได้ สถานที่วัดเดิมเป็นท่าเรือจ้าง โดยสารจากท่าเรือนี้ไปอำเภอพระแสง เริ่มสร้างขึ้นมาใหม่เมื่อ พ.ศ.2486 โดยเจ้าคณะจังหวัดสุราษฎร์ธานี ฉายา พระเทพรัตนกวี และมอบหมายให้ พระใบฎีกา (ด้วน) นรโท เป็นเจ้าอาวาสรูปแรก เข้าดำเนินการปรับปรุงบูรณะเรื่อยมาจวบจนปัจจุบัน
ทำเนียบเจ้าอาวาสวัดควนร่อน จากอดีตจนถึงปัจจุบัน ประกอบด้วย พ.ศ.2493-2525 พระใบฎีกา (ด้วน) นรโท พ.ศ.2530-2532 พระรื่น วรธมฺโม พ.ศ.2533-2540 พระครูพัฒกิจโกศล พ.ศ.2541-2543 พระนวม โกวิโท พ.ศ.2544-2548 พระปลัดวงศ์ สทฺธาวิโก พ.ศ. 2549-ถึงปัจจุบัน พระครูฉันทจิตตารักษ์ (อุดม แก้วเจริญ) ธมฺกาโม อายุ 72 ปีบวชมา 17 พรรษา
นายปริญญา คลิ้งทอง ผู้ใหญ่บ้านยังได้ระบุว่า เจ้าอาวาสทุกองค์ที่ผ่านมาพยายามที่จะสร้างพระอุโบสถที่ถาวร แต่ก็สร้างไม่ได้ บางรูปวางศิลาฤกษ์ แล้วก็มรณภาพ บางรูปกำลังจะลงเสาก็มรณภาพ ล่าสุด เจ้าอาวาสรูปสุดท้ายได้ดำริจัดสร้างพระอุโบสถหลังใหม่แทนพระอุโบสถจำลองโดยกำหนดวางศิลาฤกษ์ เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2560 ที่ผ่านมา โดยมี พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผู้บังคับการตำรวจสุราษฎร์ธานี เป็นประธานฝ่ายฆารวาส
พร้อมทั้งมีการดำเนินการพิธีถอนคำสาปของพ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ แห่งวัดสวนขันธ์ จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยทางตน และกรรมการวัดได้เดินทางไปขอน้ำมนต์มาจากวัดสวนขันธ์ มาทำพิธีพลิกแผ่นดินที่เชื่อว่าจะเป็นการแก้อาถรรพ์คำสาปได้ แต่หลังจากวางศิลาฤกษ์มาได้ 6 วัน เจ้าอาวาส ก็อาพาธ แล้วก็มรณภาพในวันรุ่งขึ้น สร้างความเศร้าเสียใจให้แก่ชาวบ้านในพื้นที่เป็นอย่างยิ่ง ซึ่งผู้ใหญ่บ้านยังยืนยันพร้อมเดินหน้าจัดสร้างพระอุโบสถตามเจตนารมณ์ของท่านเจ้าอาวาสต่อไปโดยไม่ย่อท้อ หรือถอดใจ
ด้าน นายวิเชียร เกิดเสมอ อายุ 79 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23/2 ม.4 ต.ทุ่งหลวง อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี กรรมการวัดได้ระบุว่า ทุกวันนี้ชาวบ้านยังหวาดผวา และเชื่อมั่นว่าคำปุด หรือคำพูดของพ่อท่านคล้าย ยังคงศักดิ์สิทธิ์ และยังคงอยู่ การแก้อาถรรพ์นั้นไม่ทราบเหมือนกันว่าทุกอย่างทำถูกต้องหรือไม่ หรือว่าจะแก้อาถรรพ์คำสาปนี้ไม่ได้ เสียดายหมู่บ้านแห่งแห่งนี้เป็นหมู่บ้านใหญ่ มีชาวบ้านจำนวนมาก ประกอบกับวัดแห่งนี้เป็นวัดเก่าแก่อายุนับร้อยปี ในอดีตมีความรุ่งเรือง มีพร้อมทุกอย่าง เว้นแต่ไม่สามารถสร้างโบสถ์ถาวรได้
วันนี้ (31 ก.ค.) นายปริญญา คลิ้งทอง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 4 บ้านปากลาย ตำบลทุ่งหลวง อำเภอเวียงสระ จังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าว กรณีการสร้างโบสถ์ วัดกัลปนาราม หรือชื่อ เดิม วัดควนร่อน ที่เวลาล่วงเลยมาถึง 80 ปี ที่สร้างไม่เสร็จว่า อดีตเมื่อหลาย 10 ปี ที่ผ่านมา วัดแห่งนี้มีความเจริญรุ่งเรืองมาก เนื่องจากสมัยก่อนยังไม่มีทางรถยนต์ ชาวบ้านได้อาศัยแม่น้ำตาปีเป็นเส้นทางการสัญจรติดต่อกัน ที่ท่าน้ำของวัด เป็นท่าจอดเรือจ้างเป็นศูนย์กลางการค้า และการสัญจรไปมา
และมีการเล่าต่อๆ กันมาว่า เมื่อประมาณ 80 ปีที่ผ่านมา พ่อท่านคล้าย พระเกจิอาจารย์ชื่อดังของจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เดินทางมาที่วัดสามพัน ในพื้นที่อำเภอพระแสง ขณะนั่งเรือผ่านวัดควนร่อน ท่านได้ขึ้นฝั่งมา แต่ไม่มีใครรู้จัก และไม่มีใครให้ความสนใจ ประกอบกับชาวบ้านกำลังมีเรื่องทะวิวาทอย่างชุลมุนกันในเรื่องของรองเท้า
พ่อท่านคล้าย ทราบเรื่อง จึงพูดออกมาว่า มีเรื่องแบบนี้ที่นี่ไม่มีความเจริญ แล้วท่านก็ลงเรือจากไป หลังจากท่านจากไปแล้วชาวบ้านจึงทราบว่า เป็นพ่อท่านคล้าย และมีความหวาดวิตกกังวล คำของท่านที่พูดออกมาอย่างนั้นเหมือนกับเป็นคำสาป ว่า วัดควนร่อน ไม่มีความเจริญต่อไป ประกอบกับหลังเกิดเหตุ วัดควนร่อน ก็ตกต่ำลงมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน และที่สำคัญที่ผ่านมา ทางวัดพยายามที่จะสร้างโบสถ์ถาวรที่วัด แต่ไม่สามารถสร้างได้สำเร็จ แม้ว่าเวลาจะผ่านมานานถึง 80 ปีแล้วก็ตาม
สำหรับประวัติวัดกัลปนาราม (วัดควนร่อน) ตั้งอยู่ที่ ม.4 บ้านปากสาย ต.ทุ่งหลวง อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี เป็นวัดเก่าแก่รกร้างสร้างมานาน ค้นหาประวัติเดิมไม่ได้ สถานที่วัดเดิมเป็นท่าเรือจ้าง โดยสารจากท่าเรือนี้ไปอำเภอพระแสง เริ่มสร้างขึ้นมาใหม่เมื่อ พ.ศ.2486 โดยเจ้าคณะจังหวัดสุราษฎร์ธานี ฉายา พระเทพรัตนกวี และมอบหมายให้ พระใบฎีกา (ด้วน) นรโท เป็นเจ้าอาวาสรูปแรก เข้าดำเนินการปรับปรุงบูรณะเรื่อยมาจวบจนปัจจุบัน
ทำเนียบเจ้าอาวาสวัดควนร่อน จากอดีตจนถึงปัจจุบัน ประกอบด้วย พ.ศ.2493-2525 พระใบฎีกา (ด้วน) นรโท พ.ศ.2530-2532 พระรื่น วรธมฺโม พ.ศ.2533-2540 พระครูพัฒกิจโกศล พ.ศ.2541-2543 พระนวม โกวิโท พ.ศ.2544-2548 พระปลัดวงศ์ สทฺธาวิโก พ.ศ. 2549-ถึงปัจจุบัน พระครูฉันทจิตตารักษ์ (อุดม แก้วเจริญ) ธมฺกาโม อายุ 72 ปีบวชมา 17 พรรษา
นายปริญญา คลิ้งทอง ผู้ใหญ่บ้านยังได้ระบุว่า เจ้าอาวาสทุกองค์ที่ผ่านมาพยายามที่จะสร้างพระอุโบสถที่ถาวร แต่ก็สร้างไม่ได้ บางรูปวางศิลาฤกษ์ แล้วก็มรณภาพ บางรูปกำลังจะลงเสาก็มรณภาพ ล่าสุด เจ้าอาวาสรูปสุดท้ายได้ดำริจัดสร้างพระอุโบสถหลังใหม่แทนพระอุโบสถจำลองโดยกำหนดวางศิลาฤกษ์ เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2560 ที่ผ่านมา โดยมี พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผู้บังคับการตำรวจสุราษฎร์ธานี เป็นประธานฝ่ายฆารวาส
พร้อมทั้งมีการดำเนินการพิธีถอนคำสาปของพ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ แห่งวัดสวนขันธ์ จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยทางตน และกรรมการวัดได้เดินทางไปขอน้ำมนต์มาจากวัดสวนขันธ์ มาทำพิธีพลิกแผ่นดินที่เชื่อว่าจะเป็นการแก้อาถรรพ์คำสาปได้ แต่หลังจากวางศิลาฤกษ์มาได้ 6 วัน เจ้าอาวาส ก็อาพาธ แล้วก็มรณภาพในวันรุ่งขึ้น สร้างความเศร้าเสียใจให้แก่ชาวบ้านในพื้นที่เป็นอย่างยิ่ง ซึ่งผู้ใหญ่บ้านยังยืนยันพร้อมเดินหน้าจัดสร้างพระอุโบสถตามเจตนารมณ์ของท่านเจ้าอาวาสต่อไปโดยไม่ย่อท้อ หรือถอดใจ
ด้าน นายวิเชียร เกิดเสมอ อายุ 79 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23/2 ม.4 ต.ทุ่งหลวง อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี กรรมการวัดได้ระบุว่า ทุกวันนี้ชาวบ้านยังหวาดผวา และเชื่อมั่นว่าคำปุด หรือคำพูดของพ่อท่านคล้าย ยังคงศักดิ์สิทธิ์ และยังคงอยู่ การแก้อาถรรพ์นั้นไม่ทราบเหมือนกันว่าทุกอย่างทำถูกต้องหรือไม่ หรือว่าจะแก้อาถรรพ์คำสาปนี้ไม่ได้ เสียดายหมู่บ้านแห่งแห่งนี้เป็นหมู่บ้านใหญ่ มีชาวบ้านจำนวนมาก ประกอบกับวัดแห่งนี้เป็นวัดเก่าแก่อายุนับร้อยปี ในอดีตมีความรุ่งเรือง มีพร้อมทุกอย่าง เว้นแต่ไม่สามารถสร้างโบสถ์ถาวรได้
