ยะลา - นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย และสิงคโปร์ นิยมเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวใน อ.เบตง จ.ยะลา ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์กันอย่างคึกคัก ต่างแห่ซื้อสะตอ และผลไม้ต่างๆ หลังเริ่มมีผลผลิตออกสู่ตลาด
วันนี้ (29 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ตลาดสดเทศบาลเมืองเบตง อ.เบตง จ.ยะลา บรรดาพ่อค้าแม่ค้าได้นำผลผลิตสะตอ ในพื้นที่ อ.เบตง ที่เริ่มทยอยออกผลผลิตมาวางจำหน่ายให้ประชาชน และนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย สิงคโปร์ได้เลือกซื้อกันจำนวนมาก มีทั้งแบ่งขายปลีก 4 ฝัก ราคา 80 บาท แบบแกะเม็ดขายแบ่งเป็นถุง ขายกิโลกรัมละ 280 บาท โดยมีคนในพื้นที่ และนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย สิงคโปร์ไปเลือกซื้อกันอย่างคึกคัก
นางอามีเนาะ กูวิง แม่ค้าขายสะตอ ชาวเบตง จ.ยะลา กล่าวว่า ช่วงนี้สะตอเริ่มมีผลผลิตออกแล้ว แต่ยังไม่มาก ซึ่งปีนี้ผลผลิตสะตอมีน้อย เนื่องจากที่ผ่านมา ประสบปัญหาภัยแล้ง ซึ่งสะตอราคายังแพง แล้วแต่เม็ดเล็กหรือใหญ่ สะตอสวยไม่สวยก็ขายดี ปกติจะรับสะตอจากสวนมาขายที่ตลาดสดเทศบาลเมืองเบตง ครั้งละ 10 มัด (1 มัด 100 ฝัก) ขาย 550 บาท ซึ่งก็ขายหมดทุกวันจนต้องเพิ่มจำนวน แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อผู้บริโภค โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์ ชาวมาเลเซีย สิงคโปร์นิยมเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว และแวะซื้อสะตอ รวมทั้งผลไม้อื่นๆ ของไทยนำกลับไปบริโภค และประกอบอาหาร
ซึ่งในปีนี้ สะตอยังออกผลผลิตน้อยกว่าทุกปีที่ผ่านมา ส่วนนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย สิงคโปร์นั้น นิยมซื้อสะตอแบบแกะเม็ดไปประกอบอาหาร เพราะทราบดีว่า สะตอมีประโยชน์ต่อสุขภาพมาก เชื่อว่าการรับประทานเป็นประจำจะช่วยป้องกันการเกิดโรคเบาหวานได้ ช่วยลดความดันโลหิต มีฤทธิ์เป็นยาระบาย ช่วยในการขับถ่าย
นางอามีเนาะ ยังบอกวิธีระงับกลิ่นปากจากการรับประทานสะตอด้วยว่า เมื่อรับประทานสะตอเข้าไปแล้วจะมีกลิ่นปาก ซึ่งเราสามารถกำจัดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์นี้ได้ด้วยการรับประทานมะเขือเปาะ ตามไปประมาณ 2-3 ลูก จะช่วยให้ในการระงับกลิ่นเหม็นเขียวของสะตอได้ดีในระดับหนึ่ง
ด้าน นายวงศ์วิทย์ อัครวโรทัย สาธารณสุขอำเภอเบตง กล่าวว่า ในการบริโภคสะตอนั้นควรบริโภคให้พอเหมาะ เนื่องจากสะตอมีกรดยูริกสูง สำหรับผู้ที่เป็นโรคเกาต์ หรือผู้ที่มีกรดยูริกในร่างกายสูงเกินค่ามาตรฐาน ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานสะตอ เพราะอาจจะทำให้เกิดโรคเกาต์กำเริบได้ และกรดยูริกในร่างกายที่สูงก็ยังมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคนิ่ว โรคไตอักเสบ และมีอาการหูอื้ออีกด้วย