xs
xsm
sm
md
lg

เปิดใจ “ผู้กำกับเทน - พ.ต.อ.จตุรวิทย์ คชน่วม” ตำรวจน้ำดารา! ผู้ชายคนนี้ “มีดี” มากกว่า “หน้าตา”?!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ผู้กำกับเทน หรือ พ.ต.อ.จตุรวิทย์ คชน่วม ผู้กำกับ 9 กองบังคับการตำรวจน้ำ
 
เรื่อง : จำนง ศรีนคร, อรทัย แก้วพุ่ม
ภาพ : พยุงศักดิ์ ช่องลมกรด
--------------------------------------------------------------------------------
 
 
นาทีนี้ทุกย่านร้านตลาดไม่มีใครไม่รู้จัก “ผู้กำกับเทน” หรือ “พ.ต.อ.จตุรวิทย์ คชน่วม” ผู้กำกับ 9 กองบังคับการตำรวจน้ำ
 
“ผู้กำกับเทน” ที่หลายๆ คนคุ้นภาพกับบทบาทนักแสดง และนายตำรวจไทย เกิดเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2519 ที่จังหวัดจันทบุรี จบการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 53 (นรต.53) และปริญญาโทจากภาควิชารัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
 
เริ่มต้นชีวิตราชการสีกากีด้วยการเป็นนายตำรวจชั้นผู้น้อยสายป้องกันและปราบปราม สน.โชคชัย จนได้มีโอกาสทำงานติดตาม “พล.ต.อ.วิสุทธิ์ กิติวัฒน์” อดีตรอง ผบ.ตร. แม้กระทั่งเคยเป็นนายตำรวจติดตาม “อุทัย พิมพ์ใจชน” อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร
 
ในส่วนของแวดวงบันเทิงมีผลงานด้วยการเป็นพรีเซ็นเตอร์ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวยี่ห้อหนึ่ง ตั้งแต่ยังเรียนอยู่ในโรงเรียนนายร้อยตำรวจ จึงได้ย้ายเข้าสู่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) เพื่อเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ตำรวจ
 
สำหรับผลงานการแสดงด้วยการรับบทตัวประกอบในละครโทรทัศน์ และภาพยนตร์หลายเรื่อง เช่น เจ้าชายหัวใจเกินร้อย (พ.ศ.2545), ศิลามณี (พ.ศ.2551), รักในม่านเมฆ (พ.ศ.2553), ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 3 ยุทธนาวี (พ.ศ.2554) เป็นต้น
 
ชีวิตส่วนตัวยังเป็นโสด มีกิจกรรมยามว่างคือ การปลูกเลี้ยงกล้วยไม้ และเลี้ยงสุนัขพันธุ์โกลเดินริทรีฟเวอร์
 
แม้ภารกิจงานราษฎร์-งานหลวงจะคับแน่น แต่เราก็ได้มีโอกาสพิเศษนั่งจับเข่าคุยถึงตัวตน หน้าที่การงาน อุดมการณ์ของผู้กำกับหนุ่มคนนี้ ผู้ที่นอกจากแบกดาวไว้บนบ่าแล้ว ยังแบกรับหน้าที่สำคัญในฐานะ “ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์” รับผิดชอบงานทางน้ำทั้งหมดในพื้นที่ 3 จังหวัดคือ ตรัง กระบี่ และสตูล
 
และผู้ชายคนนี้ “มีดี” มากกว่า “หน้าตา” แน่นอน!!
 

 
*** มารับตำแหน่งที่ภาคใต้รู้สึกอย่างไรบ้าง
 
ต้องขอบคุณพ่อแม่พี่น้องทุกคนที่จังหวัดตรัง กระบี่ สตูล ให้การต้อนรับด้วยความอบอุ่น และช่วยเป็นแรงให้ทางตำรวจน้ำได้เป็นชื่อเสียงให้คนได้รู้จักมากขึ้น การมารับตำแหน่งครั้งนี้มาจากภาคอีสาน และลงมาอยู่ภาคใต้ เป็นการเปลี่ยนวิถีชีวิต วัฒนธรรม ซึ่งผมก็ต้องมาปรับเรื่องเกี่ยวกับการเข้าหาประชาชน การพูดคุย หรือแม้แต่ภูมิอากาศตอนนี้ถือว่าดีขึ้นมาก
 
กองกำกับการ 9 กองบังคับการตำรวจน้ำมีพื้นที่รับผิดชอบ 3 จังหวัด ตรัง กระบี่ สตูล รับผิดชอบเกี่ยวกับการป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดบริเวณน่านน้ำไทยใน 3 จังหวัด ที่สำคัญดูแล และปกป้องทรัพยากร พร้อมทั้งส่งเสริมสนับสนุนดูแลความปลอดภัยในแก่นักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวตามเกาะต่างๆ หรือแม้กระทั่งการเดินทางโดยเรือ
 
*** การขึ้นมาครองยศ “พ.ต.อ.”  มีความกดดันขึ้นจากเดิม หรือมีภารกิจเพิ่มมากขึ้นไหม
 
ไม่กดดันครับ ภารกิจก็ไม่ได้เยอะขึ้นเลย ระบบการทำงานของตำรวจน้ำดีอยู่แล้ว แต่ผมมาช่วยเสริมเท่านั้นเอง เข้ามาดูในเรื่องเกี่ยวนโยบาย เป็นตัวกลางระหว่างผู้บังคับบัญชา และผู้ใต้บังคับบัญชาที่ทำงานอยู่ในพื้นที่ โดยรับนโยบายการทำงานจากผู้บังคับบัญชามาปรับปรุง เปลี่ยนแปลง แก้ไข ดำเนินการให้เข้ากับพื้นที่ที่เราอยู่
 
คนอยู่เชียงใหม่ การทำงานก็จะอีกแบบหนึ่ง คนอยู่สงขลา การทำงานก็อีกแบบหนึ่ง คนอยู่กระบี่ ตรัง สตูล การทำงานก็อีกแบบหนึ่ง แต่เป็นนโยบายเดียวกัน
 

 
*** แต่เข้ามาดูพื้นที่ทางทะเล ต้องเรียนรู้ใหม่เลยหรือเปล่า 
 
เรียนรู้ใหม่ และเรียนรู้เยอะมาก วันแรกที่รับตำแหน่งก็เปิดกฎหมายที่เกี่ยวต่อทะเลทั้งหมดเลย ทั้งกฎหมายน่านน้ำ กฎหมายเรือ การใช้เรือ การออกเรือ พยายามเก็บข้อมูล เหมือนกับว่าเราเป็นนิสิตนักศึกษาใหม่ในเรื่องการทำงานตรงนี้
 
แต่ในเรื่องแนวนโยบายการทำงานเกี่ยวกับตำรวจก็มีความชำนาญ การป้องกันปราบปรามเกี่ยวกับการกระทำความผิด มีแนวทางอยู่แล้ว
 
*** แน่นอนว่าเสียงกรี๊ดคงเยอะ แต่คำปรามาสก็มี เช่น เป็นดาราจะทำงานได้หรือ มีอะไรดีมากกว่าหน้าตา
 
ผมว่าหน้าตาเป็นส่วนประกอบเท่านั้นเองครับ ผมจบโรงเรียนเตรีมทหารรุ่นที่ 37 ไปเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 53 ผมมีความเป็นตำรวจก่อนมาเป็นดาราด้วยซ้ำ และชีวิตการเป็นตำรวจก็จะฝังมาตั้งแต่เป็นนักเรียนเตรียมทหาร นักเรียนนายร้อยตำรวจ จบมาก็นำมาปรับใช้กับการทำงาน
 
ซึ่งรูปลักษณ์หน้าตาอาจทำให้คนสนใจ แต่ที่สุดแล้วคนจะดูการทำงาน ความสามารถ และผลงานของเรามากกว่า
 

 
*** เจอคำปรามาสแบบนี้ การทำงานท้าทายขึ้นไหม
 
การทำงานของตำรวจ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ใดก็ตาม มันท้าทายอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าเราจะนำหลักการนิติศาสตร์ และรัฐศาสตร์มาปรับใช้ในพื้นที่อย่างไร ถ้าเราจับอย่างเดียวเลย มันก็จะตึงเกินไป ถ้าเราใช้หลักรัฐศาสตร์มากเกินไป การปกครอง การดูแลก็จะเกิดความก้ำกึ่งระหว่างคนที่กระทำความผิด กับคนที่ไม่ได้ทำความผิด
 
เพราะฉะนั้น เราทำงานอยู่ในพื้นที่ตรงนี้ มันคือการบาลานซ์กัน ตำรวจน้ำ ไม่ใช่ตำรวจเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้นที่จะต้องเข้ามารับผิดชอบเต็มๆ เพราะเราเป็นฝ่ายสนับสนุนการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นตำรวจโรงพัก หรือทหารในพื้นที่ เราเข้ามาที่จะร่วมไม้ร่วมมือ
 
ง่ายๆ ก็คือ บูรณาการ เพื่อที่จะให้ทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นเอกชน หรือภาครัฐ สามารถเดินไปด้วยกัน และที่สำคัญการกระทำความผิดต้องไม่เกิด
 
*** ได้เริ่มงานแล้ว อัตรากำลังของตำรวจน้ำในพื้นที่การทำงานสมดุลกันไหม
 
การทำงานของตำรวจ ไม่ว่าจะเป็นตำรวจน้ำ หรือตำรวจอะไรก็ตามภายในประเทศนี้ ภายใต้ความขาดแคลน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องเกี่ยวกับคน อุปกรณ์ หรือแม้แต่ยุทโธปกรณ์ต่างๆ แต่ทางผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ท่านได้ให้คอนเซ็ปต์ คือ “3T” คือ Team - Truth - Training พยายามทำทุกอย่าง ไม่จำเป็นที่จะต้องทำแต่เพียงฝ่ายเดียว
 
ทำงานเป็นทีม หมายความว่า อาจจะร่วมกับตำรวจในพื้นที่ ร่วมกับตำรวจท่องเที่ยว ร่วมกับตำรวจทางหลวง ร่วมกับตำรวจรถไฟ เป็นการบูรณาการทำงานเป็นทีม อย่างเครื่องไม้เครื่องมือ ถ้าเราไม่มี ตำรวจท่องเที่ยวมี แล้วก็ประสานขอยืมอย่างเรือที่เป็นเรือเร็วกว่า เราก็อาจจะขออนุเคราะห์ หากมีการใช้ถนนขอขนย้ายเครื่องไม้เครื่องมือ ก็ประสานทางหลวง
 
ที่สำคัญคือ การฝึกอบรม ผมคนหนึ่งที่ต้องเข้ารับการฝึกอบรมอย่างแน่นอน เพราะผมไม่มีความรู้เรื่องทะเล อันดับแรกคือ ฝึกจากตัวเอง แล้วฝึกผู้ใต้บังคับบัญชา และเพื่อนร่วมงาน นำสามอย่างมารวมกัน อย่างผมมีความสามารถในเรื่องการท่องเที่ยว การนำไกด์การท่องเที่ยวในลักษณะเราก็เอามาใช้ร่วมกัน ซึ่งจะทำให้ตำรวจน้ำเพิ่มความรู้มากขึ้น เราก็จะมีความรู้ในพื้นที่ของทะเลในเรื่องการทำผิดเกี่ยวกับน่านน้ำ การขนของ เรือประมง
 
นี่คือโอกาสของผม ถ้าอยู่ดีๆ ผมไปเป็นตำรวจ ไปเป็นผู้กำกับที่อื่น ที่ไม่ใช่ตำรวจน้ำ ผมไม่มีทางที่จะรู้เลยว่าเรือ 60 ฟุต 80 ฟุตเป็นอย่างไร การออกเรือคืออะไร ขนาดรถวางบรรทุกกี่ตันกรอสคืออะไร แต่พอเรามาอยู่ตรงนี้ เราจะรู้ว่าพื้นที่ 12 ไมล์ทะเล ที่รับผิดชอบต่อไป 3 ไมล์ทะเล การทำประมงห้ามชิดเกิน 3 ไมล์ทะเล เราก็จะมีความรู้เพิ่มขึ้นมา
 

 
*** เตรียมรับมือต่อปัญหาการทำประมงพาณิชย์ในพื้นที่อย่างไร
 
เราดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลร้อยเปอร์เซ็นต์ เพิ่มเติมคือ แนวนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการที่จะเข้าไปดูแลตรงนี้ ตอนนี้เรากำลังถูกกีดกันทางการค้าขึ้นมาแล้ว ตอนนี้เรากำลังแก้ มันไม่ใช่ปัญหาของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่ใช่ปัญหาของตำรวจน้ำ แต่มันคือปัญหาของคนทั้งประเทศที่จะป้องกัน
 
ประมงพาณิชย์ ถ้าคุณคิดว่าคุณทำผิด คุณก็ปรับให้มันถูก เรามีหน้าที่ทำให้คุณเข้าใจ มาคุยกัน มาปรับเปลี่ยนกัน ไม่ใช่ว่าตำรวจน้ำฝ่ายเดียวจะทำได้ ทหารเรือก็ต้องเข้ามาช่วย พ่อแม่พี่น้องประชาชนในพื้นที่ก็เข้ามาช่วย และที่สำคัญคือ คนไทยทั้งประเทศต้องช่วยกัน 
 
*** มีความหนักใจในการดูแลนักท่องเที่ยวในช่วงไฮซีซันไหม เพราะต้องดูแลถึง 3 จังหวัด
 
ไม่หนักใจครับ เพราะว่าตำรวจน้ำเราทำงานเป็นทีม ฉะนั้นเราก็จะขอตัวช่วยในส่วนของตำรวจท่องเที่ยว และตำรวจในพื้นที่ ถามว่าหนักใจไหม ไม่เลย เพียงแต่ว่าเราพยายามที่จะใช้โอกาสตรงนี้ในการที่จะผลักดันให้ตำรวจน้ำเข้าไปดูแลมากขึ้น เข้าไปช่วยเหลือมากขึ้น ยิ้มแย้มมากขึ้น
 
และที่สำคัญคือ เข้าใจนักท่องเที่ยวว่า นักท่องเที่ยวมาเที่ยวจังหวัดตรัง กระบี่ สตูล เค้าต้องการความสุข ฉะนั้น ตำรวจน้ำมีหน้าที่ให้ความสุข อำนวยความสะดวกทุกอย่างที่เกี่ยวกับความสุขตามหน้าที่ของเรา เช่น ขึ้นเรือไปตามเกาะ ตำรวจน้ำก็ไปดูว่าความปลอดภัยมีไหม เรือบรรทุกน้ำหนักเกินไหม คุณออกมากี่เที่ยวแล้วสิ่งต่างๆ เหล่านี้ตำรวจต้องเข้าไปดูแล มีสิ่งมึนเมาบนเรือไหม เป็นต้น 
 

 
*** รับนโยบายจากผู้บังคับบัญชา และมอบนโยบายแก่ผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างไร
 
เรารับนโยบายมา ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของรัฐบาล ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบังคับการตำรวจน้ำ หรือแม้แต่จากจังหวัด และมาปรับให้เข้ากับพื้นที่ ให้เข้ากับพ่อแม่พี่น้องประชาชนจังหวัดตรัง กระบี่ สตูล ซึ่งเป็นวัฒนธรรมอีกแบบหนึ่ง ที่ต่างจากขอนแก่น หนองคาย
 
ที่นี่คือเมืองท่องเที่ยว คือแหล่งท่องเที่ยว ฉะนั้นเราก็นำมาปรับโดยการขยายให้ตำรวจน้ำเห็นมุมมองที่แตกต่างขึ้น นอกจากการล่องเรือไปช่วยเหลือคน ก็เป็นการเซอร์วิส การบริการการพูดคุยการเจรจาเหมือนเป็นการเก็บข้อมูล 
 
นักท่องเที่ยวเขาไม่สนใจหรอกว่านี่คือตำรวจท่องเที่ยว หรือตำรวจน้ำ เขาจะมองว่านี่คือตำรวจทั้งหมด ผมไม่รู้ว่าคุณทำหน้าที่อะไร ถ้าเราไปพูดคุย ไปดูแลเขาดี เขาก็จะพูดคุยกับเรา มันก็จะกลายเป็นสัมพันธ์ที่ดี
 
และในยุคปัจจุบันโซเชียลมีเดียเร็วมาก การชม หรือการตำหนิอะไรก็ตาม มันจะเร็วมากด้วย เพราะฉะนั้นสิ่งที่ทางตำรวจน้ำเราต้องการ คือ ภาพในเชิงบวกของการท่องเที่ยว พร้อมทั้งภาพในเชิงบวกของการดูแลความปลอดภัย
 
*** แบ่งการทำงานในหน้าที่ และงานแสดงภาคบันเทิงอย่างไร
 
ต้องจัดเวลาครับ ผมทำงานในหน้าที่ 100%  ในส่วนของงานแสดงก็จะเป็นช่วงเสาร์-อาทิตย์ ตอนนี้เริ่มเคลียร์คิวแล้วครับ การเดินทาง กทม.-ตรัง ไม่ไกล ใช้เวลาเดินทางใกล้กว่าขับรถจากหมอชิตไปรังสิตอีก
 
ในฐานะที่มาเป็นผู้กำกับ 9 กองบังคับการตำรวจน้ำ รับผิดชอบจังหวัดตรัง กระบี่ สตูล พื้นที่ 3 จังหวัด ซึ่งถือว่าเป็นพื้นที่แหล่งท่องเที่ยว ที่สำคัญเป็นพื้นที่ที่มีการทำประมงเยอะ การเข้าไปขอความร่วมไม้ร่วมมือ หรือพี่น้องประชาชนอยากให้ตำรวจน้ำช่วยเหลืออะไร หรือพบเห็นสิ่งผิดกฎหมาย ก็สามารถแจ้งมาได้ เราจะเข้าไปดำเนินการให้ โดยแจ้งผ่านทางเว็บไชต์ของกองบังคับการตำรวจน้ำ www.marine.police.go.th ได้
 

 
*** หากทางจังหวัดให้เป็น Ambassadors ด้านการท่องเที่ยว จะยินดีหรือไม่
 
ด้วยยินดีครับ ตั้งแต่ผมมารับตำแหน่งที่นี่ ผมก็เป็นคนตรังคนหนึ่งไปแล้ว อะไรที่ผมพอช่วยเหลือได้ ไม่ว่าจะเป็นจังหวัดตรัง กระบี่ สตูล เพราะผมเป็นลูกครึ่ง 3 จังหวัด สามารถบอกได้เลย ทั้งเรื่องการประชาสัมพันธ์เพื่อให้ประเทศชาติดีขึ้นในสายตาของการท่องเที่ยว ผมยินดีครับ
 

กำลังโหลดความคิดเห็น