ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เพลิงเผาวอด! บ้านพักอดีตพนักงานเก็บขยะเทศบาลนครภูเก็ต วัย 87 ปี สร้างอยู่บนที่สาธารณะริมคลองบางใหญ่ โชคดีขณะเกิดเหตุเจ้าของบ้านไม่อยู่ เหตุนอนหลับฝันเห็นเจ้าที่อมาไล่ออกจากบ้านไปนอนที่อื่น
เมื่อเวลา 20.20 น. วันนี้ (26 ก.ค.) เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลนครภูเก็ต ได้รับแจ้งว่า มีเหตุเพลิงไหม้บ้านไม่มีเลขที่ บริเวณริมคลองบางใหญ่ ด้านหลังกองการแพทย์เทศบาลนครภูเก็ต ติดกับกำแพงธนาคารออมสิน ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ขอให้เดินทางไปช่วยดับเพลิงด้วย
หลังจากรับแจ้ง นายพงษ์ศักดิ์ ศิริทัพ หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลนครภูเก็ต จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย นายธวัชชัย ทองมั่ง ปลัดเทศบาลนครภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ดับเพลิง พร้อมรถดับเพลิง จำนวน 4 คัน รุดไปควบคุมเพลิงเพื่อไม่ให้ลุกลามไปยังพื้นทีใกล้เคียง โดยมี พ.ต.ต.หญิงนุชจรี ล่องแก้ว สว.สอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ร.ต.อ.ปรีชา คงชู สวป.เวร สภ.เมืองภูเก็ต เจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรม
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านพักที่สร้างด้วยสังกะสี และไม้ ตั้งอยู่ริมคลองบางใหญ่ ติดกับกำแพงธนาคารออมสิน เพลิงกำลังโหมลุกไหม้อย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้แบ่งการทำงานออกเป็น 2 ชุด ชุดแรกนำรถดับเพิงเข้าทางกองการแพทย์ เทศบาลนครภูเก็ต ส่วนอีกชุดเข้าทางหลังธนาคารออมสิน และได้เร่งฉีดน้ำสกัดไม่ให้เพลิงลุกลามไปติดอาคารข้างเคียง การดับเพลิงเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากมีลมแรง และบ้านหลังดังกล่าวปลูกด้วยไม้ และสังกะสีซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ใช้เวลาประมาณ 30 นาที เพลิงจึงสงบ
จากการสอบถามหลานชายเจ้าของบ้าน ทราบว่า เจ้าของบ้าน คือ น.ส.สมบุญ เดชารัตน์ อายุ 87 ปี อดีตพนักงานกวาดขยะของเทศบาลนครภูเก็ต ปัจจุบัน ไปช่วยกวาดขยะที่วัดวิชิตสังฆาราม โดยบ้านหลังดังกล่าว น.ส.สมบุญ หรือยายบุญ พักอยู่เพียงลำพัง และอาศัยมาประมาณ 30-40 ปีแล้ว เป็นบ้านที่ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีน้ำใช้ ทุกๆ วันเวลาประมาณ 16.00-17.00 น. น.ส.สมบุญ จะจุดธูปไหว้พระ และเข้านอนตั้งแต่เวลา 17.00 น. โดยวันนี้หลังจากจุดธูปเทียนไหว้พระก็เข้านอนตามปกติ และปล่อยให้ธูปเทียนดับเอง
แต่อย่างไรก็ตาม ก่อนเกิดเหตุ น.ส.สมบุญ หรือยายบุญ ได้เล่าให้ตน และคนในครอบครัวฟังว่า ขณะที่กำลังนอนหลับฝันว่ามีเจ้าที่มาไล่ให้ออกจากบ้าน และให้ไปนอนที่อื่น จึงตื่นขึ้นมา และออกจากบ้านเดินไปที่บ้านคนรู้จักซึ่งอยู่หน้าวัดวิชิตสังฆาราม เพื่อโทรศัพท์ให้ตนออกมารับไปนอนที่บ้านในซอยกิ่งแก้ว ต.รัษฎา โดยตนมารับ น.ส.สมบุญ เวลาประมาณ 18.00 น.ซึ่งก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะคิดว่าเป็นเรื่องปกติที่ยายมักจะฝันเห็นเจ้าที่ ก็ไม่คิดอะไรมาก
แต่เมื่อเวลาประมาณ 2 ทุ่มกว่า ตนได้รับแจ้งว่า บ้านของยายถูกเพลิงไหม้ จึงเดินทางมาดู มาถึงก็พบว่าบ้านถูกเพลิงไหม้เสียหายหมดแล้ว สวนทรัพย์สินภายในบ้านมีอะไรบ้างตนไม่ทราบ คงต้องรอสอบถามจากยาย
ขณะที่พนักงานของกองการแพทย์ เทศบาลนครภูเก็ต ซึ่งเห็นเหตุการณ์ตอนเพลิงไหม้ กล่าวว่า ขณะนั่งอยู่ใกล้สำนักงานก็ได้ยินเสียงดังฟู่ขึ้นมา จึงหันไปดูก็เห็นว่าเพลิงลุกไหม้ขึ้นที่บริเวณจุดตรงกลางของบ้านอย่างรวดเร็ว ใช้เวลาไม่กี่นาทีก็ลุกไหม้ทั้งหลัง แต่โชคดีในขณะที่เกิดเหตุยายบุญ ไม่อยู่ที่บ้านพัก
สำหรับสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้เจ้าหน้าที่คาดเกิดจากจุดธูปเทียนไหว้พระและไม่ได้ดับ ซึ่งทางพนักงานสอบสวนจะประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้
เมื่อเวลา 20.20 น. วันนี้ (26 ก.ค.) เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลนครภูเก็ต ได้รับแจ้งว่า มีเหตุเพลิงไหม้บ้านไม่มีเลขที่ บริเวณริมคลองบางใหญ่ ด้านหลังกองการแพทย์เทศบาลนครภูเก็ต ติดกับกำแพงธนาคารออมสิน ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ขอให้เดินทางไปช่วยดับเพลิงด้วย
หลังจากรับแจ้ง นายพงษ์ศักดิ์ ศิริทัพ หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลนครภูเก็ต จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย นายธวัชชัย ทองมั่ง ปลัดเทศบาลนครภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ดับเพลิง พร้อมรถดับเพลิง จำนวน 4 คัน รุดไปควบคุมเพลิงเพื่อไม่ให้ลุกลามไปยังพื้นทีใกล้เคียง โดยมี พ.ต.ต.หญิงนุชจรี ล่องแก้ว สว.สอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ร.ต.อ.ปรีชา คงชู สวป.เวร สภ.เมืองภูเก็ต เจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรม
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านพักที่สร้างด้วยสังกะสี และไม้ ตั้งอยู่ริมคลองบางใหญ่ ติดกับกำแพงธนาคารออมสิน เพลิงกำลังโหมลุกไหม้อย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้แบ่งการทำงานออกเป็น 2 ชุด ชุดแรกนำรถดับเพิงเข้าทางกองการแพทย์ เทศบาลนครภูเก็ต ส่วนอีกชุดเข้าทางหลังธนาคารออมสิน และได้เร่งฉีดน้ำสกัดไม่ให้เพลิงลุกลามไปติดอาคารข้างเคียง การดับเพลิงเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากมีลมแรง และบ้านหลังดังกล่าวปลูกด้วยไม้ และสังกะสีซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ใช้เวลาประมาณ 30 นาที เพลิงจึงสงบ
จากการสอบถามหลานชายเจ้าของบ้าน ทราบว่า เจ้าของบ้าน คือ น.ส.สมบุญ เดชารัตน์ อายุ 87 ปี อดีตพนักงานกวาดขยะของเทศบาลนครภูเก็ต ปัจจุบัน ไปช่วยกวาดขยะที่วัดวิชิตสังฆาราม โดยบ้านหลังดังกล่าว น.ส.สมบุญ หรือยายบุญ พักอยู่เพียงลำพัง และอาศัยมาประมาณ 30-40 ปีแล้ว เป็นบ้านที่ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีน้ำใช้ ทุกๆ วันเวลาประมาณ 16.00-17.00 น. น.ส.สมบุญ จะจุดธูปไหว้พระ และเข้านอนตั้งแต่เวลา 17.00 น. โดยวันนี้หลังจากจุดธูปเทียนไหว้พระก็เข้านอนตามปกติ และปล่อยให้ธูปเทียนดับเอง
แต่อย่างไรก็ตาม ก่อนเกิดเหตุ น.ส.สมบุญ หรือยายบุญ ได้เล่าให้ตน และคนในครอบครัวฟังว่า ขณะที่กำลังนอนหลับฝันว่ามีเจ้าที่มาไล่ให้ออกจากบ้าน และให้ไปนอนที่อื่น จึงตื่นขึ้นมา และออกจากบ้านเดินไปที่บ้านคนรู้จักซึ่งอยู่หน้าวัดวิชิตสังฆาราม เพื่อโทรศัพท์ให้ตนออกมารับไปนอนที่บ้านในซอยกิ่งแก้ว ต.รัษฎา โดยตนมารับ น.ส.สมบุญ เวลาประมาณ 18.00 น.ซึ่งก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะคิดว่าเป็นเรื่องปกติที่ยายมักจะฝันเห็นเจ้าที่ ก็ไม่คิดอะไรมาก
แต่เมื่อเวลาประมาณ 2 ทุ่มกว่า ตนได้รับแจ้งว่า บ้านของยายถูกเพลิงไหม้ จึงเดินทางมาดู มาถึงก็พบว่าบ้านถูกเพลิงไหม้เสียหายหมดแล้ว สวนทรัพย์สินภายในบ้านมีอะไรบ้างตนไม่ทราบ คงต้องรอสอบถามจากยาย
ขณะที่พนักงานของกองการแพทย์ เทศบาลนครภูเก็ต ซึ่งเห็นเหตุการณ์ตอนเพลิงไหม้ กล่าวว่า ขณะนั่งอยู่ใกล้สำนักงานก็ได้ยินเสียงดังฟู่ขึ้นมา จึงหันไปดูก็เห็นว่าเพลิงลุกไหม้ขึ้นที่บริเวณจุดตรงกลางของบ้านอย่างรวดเร็ว ใช้เวลาไม่กี่นาทีก็ลุกไหม้ทั้งหลัง แต่โชคดีในขณะที่เกิดเหตุยายบุญ ไม่อยู่ที่บ้านพัก
สำหรับสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้เจ้าหน้าที่คาดเกิดจากจุดธูปเทียนไหว้พระและไม่ได้ดับ ซึ่งทางพนักงานสอบสวนจะประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้
