พังงา - ไอเดียกระฉูด! เจ้าของร้านปะยางรถยนต์ทุ่งมะพร้าว จบแค่ ป.7 นำวัสดุเหลือใช้ในท้องถิ่นประดิษฐ์รถตีนตะขาบต้นแบบ ใช้ขนถ่ายพืชผลทางเกษตรราคาถูกให้แก่เกษตรกรได้ใช้งาน
ที่ร้านปะยางรถยนต์ เลขที่ 38 ม.1 ต.ทุ่งมะพร้าว อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา นายพรเลิศ นาเวศน์ อายุ 57 ปี โชว์ขับรถตีนตะขาบ ที่ประกอบขึ้นเองจากวัสดุเหลือใช้ และหาได้ในท้องถิ่น เพื่อทำเป็นรถต้นแบบ รถบรรทุกสำหรับขนถ่ายพืชผลทางเกษตรราคาถูกให้แก่เกษตรกรในพื้นที่ โดยไม่ต้องซื้อรถกระบะบรรทุกแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ซึ่งมีราคาสูง
นายพรเลิศ นาเวศน์ กล่าวถึงแนวคิดในการสร้างรถดังกล่าวว่า เนื่องจากชาวบ้านในพื้นที่ ต.ทุ่งมะพร้าว ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตร ไม่ว่าจะเป็นสวนยาง สวนปาล์ม ประกอบกับ จ.พังงา เป็นจังหวัดที่มีฝนตกตลอดทั้งปี ทำให้พื้นดินภายในสวนเป็นโคลน รถยนต์ธรรมดาไม่สามารถขับเข้าไปนำผลผลิตออกมาภายนอกสวนได้
หากต้องซื้อรถกระบะบรรทุกแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ก็จะมีราคาที่สูงมาก จึงต้องใช้แรงงานคน ทำให้เกิดการล่าช้า และไม่สะดวก ตนเองนั้นจบการศึกษาเพียง ป.7 แต่ได้คลุกคลีอยู่กับระบบขับเคลื่อนสายพาน และเครื่องจักรตั้งแต่สมัยยุคเหมืองแร่
จึงได้เริ่มนำมาประยุกต์ใช้ทำรถต้นแบบตีนตะขาบขึ้น โดยใช้เวลาถึง 3 ปี กว่าจะสามารถขับเคลื่อนไปหน้า ถอยหลัง และเลี้ยวซ้ายขวาได้อย่างอิสระโดยใช้เครื่องยนต์เพียงตัวเดียว ใช้วิธีหมุนตีนตะขาบด้านซ้าย และขวา ให้ไปหน้าถอยหลังสลับกัน ในการเลี้ยวเหมือนกับรถแบ็กโฮ ที่มีมูลค่าหลายล้านบาท ซึ่งจะแตกต่างจากรถยนต์ที่ใช้การบิดล้อสำหรับการเลี้ยว จึงทำให้ใช้เวลาในการคิดค้น และศึกษาระบบสายพานเป็นเวลานาน
โดยรถต้นแบบคันนี้ใช้วัสดุเหลือใช้มาประกอบ จึงไม่มีความแข็งแรงคงทน และพบว่า ระบบสายพานขับเคลื่อนยังมีอัตรารอบที่สูงเกินไปทำให้รถวิ่งเร็ว แต่ไม่มีแรง ซึ่งต่อไปนี้จะต้องทำการออกแบบระบบเกียร์เพื่อทดกำลัง รวมถึงระบบตีนตะขาบให้แข็งแรงคงทน ก่อนจะทำกระบะสำหรับใส่พืชผลทางการเกษตรเป็นลำดับต่อไป
ที่ร้านปะยางรถยนต์ เลขที่ 38 ม.1 ต.ทุ่งมะพร้าว อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา นายพรเลิศ นาเวศน์ อายุ 57 ปี โชว์ขับรถตีนตะขาบ ที่ประกอบขึ้นเองจากวัสดุเหลือใช้ และหาได้ในท้องถิ่น เพื่อทำเป็นรถต้นแบบ รถบรรทุกสำหรับขนถ่ายพืชผลทางเกษตรราคาถูกให้แก่เกษตรกรในพื้นที่ โดยไม่ต้องซื้อรถกระบะบรรทุกแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ซึ่งมีราคาสูง
นายพรเลิศ นาเวศน์ กล่าวถึงแนวคิดในการสร้างรถดังกล่าวว่า เนื่องจากชาวบ้านในพื้นที่ ต.ทุ่งมะพร้าว ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตร ไม่ว่าจะเป็นสวนยาง สวนปาล์ม ประกอบกับ จ.พังงา เป็นจังหวัดที่มีฝนตกตลอดทั้งปี ทำให้พื้นดินภายในสวนเป็นโคลน รถยนต์ธรรมดาไม่สามารถขับเข้าไปนำผลผลิตออกมาภายนอกสวนได้
หากต้องซื้อรถกระบะบรรทุกแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ก็จะมีราคาที่สูงมาก จึงต้องใช้แรงงานคน ทำให้เกิดการล่าช้า และไม่สะดวก ตนเองนั้นจบการศึกษาเพียง ป.7 แต่ได้คลุกคลีอยู่กับระบบขับเคลื่อนสายพาน และเครื่องจักรตั้งแต่สมัยยุคเหมืองแร่
จึงได้เริ่มนำมาประยุกต์ใช้ทำรถต้นแบบตีนตะขาบขึ้น โดยใช้เวลาถึง 3 ปี กว่าจะสามารถขับเคลื่อนไปหน้า ถอยหลัง และเลี้ยวซ้ายขวาได้อย่างอิสระโดยใช้เครื่องยนต์เพียงตัวเดียว ใช้วิธีหมุนตีนตะขาบด้านซ้าย และขวา ให้ไปหน้าถอยหลังสลับกัน ในการเลี้ยวเหมือนกับรถแบ็กโฮ ที่มีมูลค่าหลายล้านบาท ซึ่งจะแตกต่างจากรถยนต์ที่ใช้การบิดล้อสำหรับการเลี้ยว จึงทำให้ใช้เวลาในการคิดค้น และศึกษาระบบสายพานเป็นเวลานาน
โดยรถต้นแบบคันนี้ใช้วัสดุเหลือใช้มาประกอบ จึงไม่มีความแข็งแรงคงทน และพบว่า ระบบสายพานขับเคลื่อนยังมีอัตรารอบที่สูงเกินไปทำให้รถวิ่งเร็ว แต่ไม่มีแรง ซึ่งต่อไปนี้จะต้องทำการออกแบบระบบเกียร์เพื่อทดกำลัง รวมถึงระบบตีนตะขาบให้แข็งแรงคงทน ก่อนจะทำกระบะสำหรับใส่พืชผลทางการเกษตรเป็นลำดับต่อไป
