ตรัง - ตำรวจเร่งคลี่คลายคดีฆ่าโหดทุบหัวสาว ก่อนทิ้งร่างไว้ในห้องน้ำโรงเรียนพื้นที่ ต.เขาวิเศษ อ.วังวิเศษ จ.ตรัง คาดฝีมือคนในพื้นที่ ส่งชุดสืบสวนออกหาเบาะแส และรอผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์
วันนี้ (25 ก.ค.) จากกรณีที่ได้เกิดเหตุคนร้ายฆ่าโหด โดยการทุบหัว น.ส.ลัดดา จินดาแก้ว อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 203 ม.21 บ้านเกาะไทร ต.เขาวิเศษ อ.วังวิเศษ จ.ตรัง แล้วทิ้งศพไว้ในห้องน้ำโรงเรียนบ้านหนองคล้า ม.7 ต.เขาวิเศษ อ.วังวิเศษ จนกระทั่งมี นายสมจิตร ชัยเพชร อายุ 65 ปี อดีตนักการภารโรง โรงเรียนบ้านหนองคล้า ไปพบ แล้วแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มีการตรวจสอบ เหตุเกิดช่วงค่ำของวานนี้ (24 ก.ค.) นั้น
ทั้งนี้ จากการที่ ร.ต.อ.นัฐพงษ์ ชาพรหมสิทธิ์ พนักงานสอบสวน สภ.เขาวิเศษ เจ้าของคดี และ พ.ต.ท.ชาติชาย วงศ์ปัญญา รอง ผกก.สส.สภ.เขาวิเศษ ได้นำกำลังชุดสืบสวนลงพื้นที่เดินทางไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยแพทย์ รพ.วังวิเศษ และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพบรรเทาเขาวิเศษ พบร่างผู้เสียชีวิตในสภาพศพสวมเสื้อยืดสีเหลือง นุ่งกางเกงสั้นสีครีม นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตจมกองเลือดที่เจิ่งนองกระจายตามพื้นห้องน้ำ
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุมีพยานเห็น น.ส.ลัดดา ผู้เสียชีวิตพาลูกชายวัย 5 ขวบ มาเตะฟุตบอลที่สนามหญ้าของโรงเรียน กระทั่งหลังเลิกเล่นฟุตบอลลูกชายไม่เจอแม่ ประกอบกับเป็นช่วงเวลามืดค่ำจึงวิ่งไปขอความช่วยเหลือให้ชาวบ้านช่วยออกตามหา จนพบแม่กลายเป็นศพ โดยมีบาดแผลถูกตีด้วยของแข็งเป็นแผลเหวอะที่บริเวณศีรษะ มีร่องรอยเขียวช้ำบริเวณใบหน้า และขอบตาบวมปูด ส่วนต้นแขนทั้งสองข้างมีรอยช้ำคล้ายถูกจับมัด และโทรศัพท์มือถือของผู้เสียชีวิตที่หายไปด้วย ยังโทร.ติดอยู่แต่ไม่มีคนรับสาย เจ้าหน้าที่จึงนำร่างไปตรวจพิสูจน์อย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (ม.อ.) สงขลา
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.ตรัง สภ.เขาวิเศษ และกองพิสูจน์หลักฐาน จ.ตรัง ได้เดินทางไปตรวจหาหลักฐานเพิ่มเติมในที่เกิดเหตุ ที่โรงเรียนบ้านหนองคล้า อีกครั้ง ขณะเดียวกัน ก็ได้มีการนำศพของ น.ส.ลัดดา ผู้เสียชีวิตกลับมาทำพิธีทางศาสนาที่วัดหนองคล้า ส่วนแนวทางการสืบสวนกำลังอยู่ระหว่างรอผลยืนยันการตรวจพิสูจน์จากแพทย์ถึงสาเหตุการเสียชีวิต และทราบว่า ผู้เสียชีวิตกับสามีแยกกันอยู่ โดยฝ่ายชายไปทำงานอยู่ต่างจังหวัด แต่หลังจากทราบว่าภรรยาเสียชีวิตก็ได้กลับมาจัดการเรื่องงานศพที่จังหวัดตรัง ซึ่งในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า คนร้ายที่ลงมือน่าจะเป็นคนในพื้นที่
ด้าน นายสมจิตร ชัยเพชร อายุ 65 ปี อดีตนักการภารโรง โรงเรียนบ้านหนองคล้า กล่าวว่า ตนเดินมาพบศพผู้ตายเป็นคนแรก หลังจากลูกชายผู้เสียชีวิตวัย 5 ขวบ ยืนร้องไห้อยู่ และวิ่งมาบอกว่าแม่หายตัวไป หลังบอกว่าขอไปห้องน้ำสักเดี๋ยว ตนเลยเดินถือไฟฉายออกตามหา และได้ยินเสียงเปิดน้ำตรงอ่างล้างหน้าในห้องน้ำ จึงส่องไฟเดินไปดู กระทั่งพบศพนอนคว่ำหน้าในห้องน้ำ ก่อนโทร.ไปหาผู้ใหญ่บ้าน และลูกของตน พร้อมทั้งเรียกแม่ค้าขายของหน้าโรงเรียนมาดู ขณะนั้นพบว่า น.ส.ลัดดา มีเลือดออกเยอะมากที่ศีรษะ ซึ่งตอนแรกเข้าใจว่าล้มหัวฟาดพื้น กระทั่งมาทราบภายหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาตรวจสอบว่า น่าจะเกิดจากการถูกทำร้าย
ขณะที่ พล.ต.ต.สมพงษ์ ทองใบ ผบก.ภ.จว.ตรัง กล่าวว่า สำหรับคดีนี้ในเบื้องต้นเชื่อว่าเป็นการฆาตกรรม เพราะดูจากลักษณะศพ และสถานที่เกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกสอบพยาน 3-4 ปากแล้ว แต่ยังไม่ได้เบาะแส หรือรายละเอียดเพิ่มเติมมากนัก เพราะผู้ตายไม่ได้ประกอบอาชีพ ซึ่งคงต้องใช้เวลาสักระยะในการสืบสวน และรอผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ แต่ตนได้สั่งกำชับให้ทำงานอย่างเต็มที่เพื่อคลี่คลายคดีให้ได้ ทั้งนี้ ยังทราบว่าผู้เสียชีวิตมีอาการทางจิตใจไม่ปกติ โดยก่อนหน้านี้ ทางผู้นำท้องถิ่น และตำรวจเคยพาเข้าไปรักษาที่โรงพยาบาล 2 ครั้งแล้ว ซึ่งล่าสุด ก็ยังกินยารักษาอาการอยู่