xs
xsm
sm
md
lg

ชาวบ้านบางด้วนโวย ช่วยตายายอาศัยโรงเรียนร้างตลอด แต่กลับถูกโจมตีว่านิ่งดูดาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
ตรัง - ผู้นำท้องถิ่นบางด้วน อ.ปะเหลียน พร้อมชาวบ้านโวยแหลก ช่วยตายายอาศัยในโรงเรียนร้างมาตลอด แต่ข่าวกลับโจมตีหาว่าไม่ดูแล ทำให้สูญเสียกำลังใจ ทั้งที่ได้สิทธิพิเศษเหนือคนอื่น

วันนี้ (25 ก.ค.) จากกรณีมีการเสนอข่าว ตายาย และลูกชายสติไม่ค่อยดี คือ นายพันธ์ นางสงวน พาพันธ์ วัย 88 และ 74 ปี ส่วนลูกชายคือ นายสานิต พาพันธ์ อายุ 25 ปี ได้พักอาศัยอยู่ในโรงเรียนวัดศรัทธาธรรม พื้นที่ ม.3 ต.บางด้วน อ.ปะเหลียน จ.ตรัง นานเกือบ 5 ปี โดยไม่มีพี่น้อง ญาติ และลูกอีก 5 คน ของตายายคู่นี้ดูแล โดย นางสงวน อ้างว่า อยู่แบบทุกข์ยากลำบาก แถมถูกรังเกียจจากชุมชน และมักถูกพูดจาเสียดสีจากเพื่อนบ้านโดยเฉพาะผู้นำท้องถิ่นอยู่เสมอ จนทำให้ไม่อยากอยู่ในที่แห่งนี้ อยากจะกลับไปยังจังหวัดบ้านเกิดของตาพันธ์ ผู้เป็นสามี ซึ่งเดิมเป็นชาว จ.ศรีสะเกษ แต่ก็ยังทำไมได้เพราะไม่มีค่าใช้จ่ายในการเดินทาง โดยหลังจากมีการเสนอข่าวออกไป
 

 
ล่าสุด ที่ อบต.บางด้วน อ.ปะเหลียน จ.ตรัง กลุ่มผู้นำท้องถิ่น พร้อมชาวบ้าน นำโดย นายยงยุทธ แซ่เตียว นายก อบต.บางด้วน ผู้บริหาร สมาชิก อบต.ผอ.รสต.เจ้าหน้าที่จาก พมจ.ตรัง ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้าน ม.3 ต.บางด้วน ประมาณ 20 คน ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวถึงกรณีดังกล่าว

โดย นางกัญญาพัชร ทองพิทักษ์ อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ม.3 ต.บางด้วน กล่าวว่า เรื่องที่มีการเสนอข่าวไปว่าครอบครัวพาพันธ์ ซึ่งประกอบด้วย ตายาย และลูกชายเป็นที่รังเกียจของสังคมชุมชนนั้นไม่เป็นความจริง เพราะหลายหน่วยงานในพื้นที่ต่างให้การช่วยเหลือมาโดยตลอดมา แต่รู้สึกแปลกใจว่า ทำไมตายายถึงมีการให้ข่าวแบบนั้น ทำให้ทุกฝ่ายรับไม่ได้ และรู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งที่ทุกฝ่ายดูแลครอบครัวนี้อย่างดี ทั้งเรื่องความเป็นอยู่ ที่อาศัย อาหาร ยารักษา สุขภาพ ครบทุกด้าน และพิเศษมากกว่าคนอื่นๆ ที่ประสบปัญหาลักษณะเดียวกันด้วยซ้ำ

โดยเฉพาะตนเอง และครอบครัวช่วยเหลือให้มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน เพื่อให้เป็นผู้มีที่อยู่แน่นอน ไม่ต้องตกเป็นผู้เร่ร่อน ข้าวปลาอาหารก็แบ่งปั่นเสมอ ยามเจ็บไข้ได้ป่วยก็ดูแลไม่เคยขาดหาย ส่วนลูกชายก็พยายามหางานให้ทำเพื่อที่จะมีรายได้เลี้ยงพ่อแม่ตัวเองได้ และยังได้รับเงินผู้สูงอายุทั้ง 2 คน เดือนละ 1,500 บาท และมีเงินช่วยเหลือจาก พมจ.ตรัง ครั้งละ 2,000 บาท ปีละ 3 ครั้ง ซึ่งถือว่ามากกว่าคนอื่นที่ได้แค่ปีละครั้ง และลูกชายก็รับจ้างตัดหญ้าก็พอมีรายได้ครั้งละ 700-1,200 บาท ซึ่งตนคิดว่าถ้ามีการใช้จ่ายอย่างประหยัดก็น่าจะพออยู่ได้แล้ว
 

 
ทั้งนี้ นางสงวน บอกทุกคนที่ไปเยี่ยมว่า ไม่มีการช่วยเหลือ ไม่มีใครเหลียวแล ทั้งที่ทุกคนก็ช่วยอยู่ ตนคิดว่า นางสงวน น่าจะมีปัญหาทางจิต ซึ่งตนก็เตรียมที่จะนำเรื่องนี้หารือกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อส่ง นางสงวน ไปคัดกรองสุขภาพจิตอีกครั้ง เพราะหากปล่อยไว้แบบนี้เกรงอาการจะหนักขึ้น ตนเองเข้าใจว่าคนสูงอายุก็ย่อมต้องการการเอาใจใส่จากลูกหลาน นางสงวน อาจจะรู้สึกซึมเศร้า มีความกังวล ผิดหวังในบรรดาลูกอีก 5 คน ที่ไม่ได้มาดูแล และทำให้คิดมากสะสมจนทำให้เกิดเหตุการณ์พูดจาเพ้อเจ้อไปเรื่อย ส่วนใครที่ไม่ทราบรายละเอียดก็อาจทำให้เข้าใจผิดได้

ด้าน นายยงยุทธ แซ่เตียว นายก อบต.บางด้วน อ.ปะเหลียน กล่าวว่า หลังจากนี้ก็จะดูแลให้ทั้งครอบครัวมีรายได้ โดยการเลี้ยงเป็ด ไก่ ปลูกผักสวนครัว และช่วยหางานให้ลูกชายมีงานทำ เพื่อที่จะได้มีรายได้เลี้ยงดูพ่อแม่ต่อไป พร้อมเตรียมที่จะซ่อมแซมที่อยู่ซึ่งเป็นโรงเรียนร้าง โดยเฉพาะหลังคาที่รั่วมีสภาพทรุดโทรมให้พออยู่ได้ และจะจัดหาเครื่องนอนให้ใหม่เพื่อสุขภาพที่ดีของผู้สูงอายุต่อไป
 

กำลังโหลดความคิดเห็น