xs
xsm
sm
md
lg

ฝ่ายปกครองพัทลุงเผยเหตุจับตำรวจยะลา พบทำตัวมีพิรุธและได้คำสั่งให้ดำเนินการตามหน้าที่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
พัทลุง - ฝ่ายปกครองพัทลุง ออกชี้แจงกรณีจับอาวุธปืนตำรวจยะลา เผยรถที่ขับใช้ป้ายปลอม และให้การวกวนเป็นที่น่าสงสัย และตำรวจชั้นผู้ใหญ่ได้สั่งสำทับให้ดำเนินการไปตามอำนาจหน้าที่

วันนี้ (23 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฝ่ายปกครอง จ.พัทลุง ได้ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงของเรื่องฝ่ายปกครองจับอาวุธปืนตำรวจยะลา ที่พัทลุง ที่แชร์กันในโซเชียลมีเดียร์ ว่า ยะลา ในวันเกิดเหตุ 21 ก.ค. 60 มีการระดมกวาดล้างอาชญากรรม และยาเสพติดตามแผนการรักษาความสงบเรียบร้อยของจังหวัดพัทลุง ซึ่งปฏิบัติเป็นประจำทุกเดือน โดยมีการปล่อยแถว และให้โอวาทจากผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ก่อนออกปฏิบัติงาน เป้าหมายของการปฏิบัติเป็นการป้องปรามการใช้อาวุธสงคราม และการคัดกรองหาผู้เสพยาเสพติด จึงมีการตั้งด่านตรวจค้น 2 จุด ในตัวเมืองพัทลุงซึ่งมีการประกอบกำลังทั้งฝ่ายปกครอง และทหาร จำนวนประมาณ 80 นาย

รายละเอียดในวันดังกล่าว 1.ได้ผู้เสพยาเสพติดมากถึง 30 คน เพื่อเข้ารับการบำบัด 2.พบมีเจ้าหน้าที่ของรัฐนำอาวุธปืนติดยานพาหนะมาด้วยหลายราย แต่เมื่อพิจารณาแล้วไม่ได้มีพิรุธใดๆ จึงให้นำใบ ป.4 มาแสดง เมื่อสามารถแสดงได้ก็ไม่ได้จับกุมดำเนินคดี แต่อย่างใด 3.เวลาใกล้เที่ยงคืน พบ ส.ต.ต.รณชาติ ขับรถยนต์โตโยต้าวีออส สีดำ หมายเลขทะเบียน กท 4108 มีอารุธปืนที่ใช้ในราชการสงคราม (M 4) และปืนพกขนาด 9 มม. ใส่แมกกาซีนบรรจุกระสุนพร้อมใช้งานวางอยู่ในห้องโดยสารในลักษณะที่สามารถหยิบมาใช้ได้ทันที
 

 
เมื่อพบอาวุธสงครามจึงได้สอบถาม ทราบว่า เป็นตำรวจ สภ.ยะหา จ.ยะลา จึงขอให้แจ้งที่ สภ.ยะหา ส่งไลน์บัญชีคุมอาวุธปืนมาให้ตรวจสอบ ระหว่างนั้นได้สอบถามว่าจะเดินทางไปไหน ส.ต.ต.รณชาติ มีอาการอ้ำอึ้ง และตอบว่าจะเดินทางกลับ สภ.ยะหา โดยออกจากบ้านที่ จ.ตรัง จนท.จึงสอบถามว่าเดินทางจากบ้านที่ จ.ตรัง กลับยะลา ทำไมจึงต้องเข้ามาในตัวเมืองพัทลุง เนื่องจาก หากเดินทางจาก จ.ตรัง ก็ขับรถสายเอเชียวิ่งตรงลงไปหาดใหญ่ได้โดยง่าย แต่เหตุใดจึงต้องวกเข้ามาในตัวเมืองพัทลุง (จุดเกิดเหตุเป็นสามแยกท่ามิหรำ ในตัวเมืองพัทลุง) ส.ต.ต.รณชาติ ตอบว่า จะเข้ามานอนพักในตัวเมืองพัทลุง (ระยะทางจากตรัง-พัทลุง ห่างเพียง 80-90 กม.)

เมื่อ จนท.ตรวจสอบทะเบียนรถที่ ส.ต.ต. รณชาติ ขับมาพบว่า เป็นป้ายทะเบียนปลอม (ทะเบียนนี้เป็นของรถยนต์ซูซูกิ ชื่อผู้ครอบครองเป็นหญิง) จนท.จึงเกิดมีความสงสัยหลายประการ แต่เมื่อส.ต.ต.รณชาติ ได้นำทะเบียนคุมอาวุธปืนราชการสงครามที่ส่งไลน์มาให้ จนท.ดูแล้ว จนท.กำลังจะอะลุ้มอล่วย เพื่อมิให้เกิดปัญหากับตัว ส.ต.ต.รณชาติ ที่นำอาวุธปืนสงครามออกมานอกที่ตั้งกลับบ้าน แต่เมื่อเอาทะเบียนคุมมาให้ดูแล้ว ส.ต.ต.รณชาติ กลับพูดจาทำนองไม่ให้เกียรติ จนท. ว่าใช้อำนาจอะไรมาตั้งด่าน มีการตั้งร่วมกันสามฝ่ายหรือไม่

ระหว่างที่กำลังพูดคุยอยู่ที่จุดตรวจนั้น พ.ต.อ.ตรีวิทย์ ศรีประภา รอง ผบก.ภ.จว.พัทลุง ได้เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ เมื่อทราบว่ามีการนำอาวุธสงครามออกมาจากที่ตั้ง จึงได้กล่าวตำหนิว่าผิดทั้งระเบียบ และกฎหมาย และยังเป็นการขัดคำสั่งของหัวหน้า คสช.ที่ห้ามเคลื่อนย้ายอาวุธสงครามออกนอกหน่วยอีกด้วย และ พ.ต.อ.ตรีวิทย์ ได้สั่งการให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ โดยมิได้ขอให้มีการปล่อยตัว ส.ต.ต.รณชาติ อย่างที่มีผู้นำไปอ้างในโซเชียลมีเดียแต่อย่างใด
 

 
เรื่องกระแสในโซเชียลมีเดียนี้ขอให้ผู้แชร์ข้อมูลพึงระมัดระวัง เพราะไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์จริง ทั้งนี้ ขอให้สอบถามข้อเท็จจริงจากผู้อยู่ในเหตุการณ์ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จนท.ผู้ปฏิบัติงานในการรักษาความสงบเรียบร้อยให้แก่ประชาชน อาจหมดกำลังใจในการทำงานได้เพราะความเข้าใจผิด และสื่อก็ไม่ไปสอบถาม ไม่เปิดโอกาสให้ผู้ปฏิบัติงานจริงในวันนั้นที่อยู่ในเหตุการณ์ได้มีโอกาสชี้แจงบ้าง

คำถาม คือ หากท่านเป็น จนท.พบคนที่ขับรถสวมป้ายทะเบียนปลอม ขับรถพกปืนพก และพาอาวุธสงครามบรรจุกระสุนพร้อมใช้งาน ผ่านมาในตัวเมืองยามวิกาล เมื่อสอบถามแล้วกลับให้การวกวนเป็นพิรุธไม่สอดคล้องต่อสภาพความเป็นจริงในพื้นที่ แม้ท่านจะทราบแล้วในภายหลังว่าเป็น จนท.รัฐจริง ตัวท่านจะปล่อยไปหรือ

อย่าลืมว่าขณะนั้นท่านมิได้ปฏิบัติงานอยู่เพียงหน่วยงานเดียว แต่ยังมี จนท.ฝ่ายทหาร ที่รู้เห็นเหตุการณ์อีกด้วย ซึ่งหากพบการกระทำที่ขัดต่อคำสั่ง หน.คสช.ชัดเจนแล้วยังปล่อยไป หากมี จนท.หารไปรายงาน ผบช.ว่า ท่านจงใจละเว้น แล้วใครจะสามารถรับผิดชอบแทนท่านได้ อีกทั้งนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ของพัทลุงพื้นที่เกิดเหตุ ก็ยังสั่งสำทับให้ดำเนินการไปตามอำนาจหน้าที่อีกด้วย หากเป็นท่าน ท่านจะทำอย่างไร ระหว่างปล่อยตัวไป กับดำเนินการไปตามอำนาจหน้าที่ ?

ในขณะที่ทางผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ได้ทำหนังสือด่วนไปยังกระทรวงมหาดไทยเพื่อรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วเช่นกัน
 

กำลังโหลดความคิดเห็น