พังงา - เรื่องหมาๆ แต่ไม่หมา เมื่อนักท่องเที่ยวต่างชาติถูกหมาจรจัดไล่กัดนับ 10 ครั้ง ย่านแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังจังหวัดพังงา ล่าสุดโดนอีก 1 ราย ได้รับบาดเจ็บ วอนหน่วยงานหาแนวทางป้องกัน หวั่นกระทบภาพลักษณ์การท่องเที่ยว
วานนี้ (20 ก.ค.) Mrs.Janet Frances Heath อายุ 68 ปี นักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลีย เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.ปาลิตา กางสิ่ว พนง.สส.สภ.เขาหลัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ว่า ระหว่างเดินออกจากน้ำตกสายรุ้ง ม.1 บ.ปากวีป ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ได้มีสุนัขประมาณ 4-5 ตัว วิ่งเข้ามาหา และ 1 ในนั้นได้กัดเข้าที่บริเวณน่องด้านซ้าย เป็นรอยเขี้ยว 4 เขี้ยว ก่อนจะมีผู้ชายมาไล่สุนัข และเรียกแท็กซี่มารับไปส่งโรงพยาบาลตะกั่วป่า
หลังจากรับแจ้งความ พ.ต.ท.กะเกณฑ์ นิกรหัสชัย รอง ผกก.สภ.เขาหลัก พร้อมด้วย ร.ต.อ.ปาลิตา กางสิ่ว พนง.สส. นายวิทยา บุญมี ผจก.โรงแรมบียอน รีสอร์ท เขาหลัก นายสุชาติ ไกรเลิศ ผู้ใหญ่บ้าน ม.1 และนักท่องเที่ยวที่ถูกกัดได้ลงพื้นที่เกิดเหตุ ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบสุนัขประมาณ 5 ตัว อยู่ริมถนนระหว่างทางเข้าน้ำตกสายรุ้ง แต่ไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นสุนัขของใคร
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้แล้วหลายครั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปตรวจสอบหลายครั้ง พบว่า สุนัขกลุ่มดังกล่าวไม่มีพฤติกรรมดุร้ายกับคนไทย แถมยังกระดิกหางเข้ามาหาอีก แต่ถ้าเป็นนักท่องเที่ยวจะวิ่งเข้าใส่ ที่ผ่านมา ได้แจ้งให้โรงแรมทราบเพื่อให้พนักงานเข้าไปตรวจสอบ พร้อมทั้งแจ้งเรื่องให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบเพื่อแก้ไขปัญหา จนกระทั่งมาเกิดเหตุการณ์ซ้ำขึ้นอีกครั้ง จากนี้ก็จะทำหนังสือถึงผู้ที่เกี่ยวข้องหาทางแก้ไขปัญหาในระยะยาวต่อไป
อย่างไรก็ตาม หลังจากเกิดเหตุการณ์ขึ้น ทางเจ้าหน้าที่จะสืบหาเจ้าของสุนัข หากพบว่าสุนัขเป็นของใคร เจ้าหน้าที่จะต้องดำเนินการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 377 ผู้ใดควบคุมสัตว์ดุหรือสัตว์ร้าย ปล่อยปละละเลยให้สัตว์นั้นเที่ยวไปโดยลำพัง ในประการที่อาจทำอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนั้น ยังต้องรับผิดชดใช้ทางแพ่งแก่ผู้ได้รับความเสียหายจากการที่สุนัขไปกระทำละเมิดผู้อื่นด้วย
ด้าน นายวิทยา บุญมี ผู้จัดการโรงแรมบียอน รีสอร์ท เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้เคยมีเหตุนักท่องเที่ยวโดนสุนัขกัดมาแล้วถึง 2 ครั้ง ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา และล่าสุดวันนี้ก็เกิดเหตุอีกและจุดที่โดนสุนัขกัดก็ที่เดิม รวมเป็น 3 ราย ทั้งหมดเป็นแขกของโรงแรม ซึ่งเกรงว่าจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวย่านเขาหลัก ซึ่งพบว่านักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักจะใช้ จักรยานยนต์ จักรยาน และเดินเท้าไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ จึงอยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขปัญหาระยะยาว เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว
รายงานเพิ่มเติมจากการลงพื้นที่สอบถามชาวบ้าน ทราบว่า เคยมีเหตุสุนัขกัดนักท่องเที่ยวค่อนข้างบ่อย แต่ไม่กัดคนไทย และพบว่าจุดท่องเที่ยวสำคัญในย่านเขาหลักจะมีสุนัขจรจัดพักอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก มีผู้ใจบุญนำอาหารมาให้อยู่เป็นประจำ บางส่วนจะพักอาศัยอยู่ที่อาคารร้าง ซึ่งอยู่ติดกับเรือตรวจการณ์ 813 และจะมาวิ่งเล่น และคอยเห่ารถยนต์ รวมถึงนักท่องเที่ยวที่เดินทางมา ส่วนบริเวณถนนสายน้ำตกโตนช่องฟ้า ก็จะมีสุนัขจรจัดคอยเห่านักท่องเที่ยวอยู่เป็นระยะ เช่นเดียวกับชายหาดนางทอง ก็จะมีสุนัขจรจัดคอยวิ่งไปมา และคอยเห่านักท่องเที่ยวบริเวณชายหาด
วานนี้ (20 ก.ค.) Mrs.Janet Frances Heath อายุ 68 ปี นักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลีย เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.ปาลิตา กางสิ่ว พนง.สส.สภ.เขาหลัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ว่า ระหว่างเดินออกจากน้ำตกสายรุ้ง ม.1 บ.ปากวีป ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ได้มีสุนัขประมาณ 4-5 ตัว วิ่งเข้ามาหา และ 1 ในนั้นได้กัดเข้าที่บริเวณน่องด้านซ้าย เป็นรอยเขี้ยว 4 เขี้ยว ก่อนจะมีผู้ชายมาไล่สุนัข และเรียกแท็กซี่มารับไปส่งโรงพยาบาลตะกั่วป่า
หลังจากรับแจ้งความ พ.ต.ท.กะเกณฑ์ นิกรหัสชัย รอง ผกก.สภ.เขาหลัก พร้อมด้วย ร.ต.อ.ปาลิตา กางสิ่ว พนง.สส. นายวิทยา บุญมี ผจก.โรงแรมบียอน รีสอร์ท เขาหลัก นายสุชาติ ไกรเลิศ ผู้ใหญ่บ้าน ม.1 และนักท่องเที่ยวที่ถูกกัดได้ลงพื้นที่เกิดเหตุ ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบสุนัขประมาณ 5 ตัว อยู่ริมถนนระหว่างทางเข้าน้ำตกสายรุ้ง แต่ไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นสุนัขของใคร
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้แล้วหลายครั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปตรวจสอบหลายครั้ง พบว่า สุนัขกลุ่มดังกล่าวไม่มีพฤติกรรมดุร้ายกับคนไทย แถมยังกระดิกหางเข้ามาหาอีก แต่ถ้าเป็นนักท่องเที่ยวจะวิ่งเข้าใส่ ที่ผ่านมา ได้แจ้งให้โรงแรมทราบเพื่อให้พนักงานเข้าไปตรวจสอบ พร้อมทั้งแจ้งเรื่องให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบเพื่อแก้ไขปัญหา จนกระทั่งมาเกิดเหตุการณ์ซ้ำขึ้นอีกครั้ง จากนี้ก็จะทำหนังสือถึงผู้ที่เกี่ยวข้องหาทางแก้ไขปัญหาในระยะยาวต่อไป
อย่างไรก็ตาม หลังจากเกิดเหตุการณ์ขึ้น ทางเจ้าหน้าที่จะสืบหาเจ้าของสุนัข หากพบว่าสุนัขเป็นของใคร เจ้าหน้าที่จะต้องดำเนินการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 377 ผู้ใดควบคุมสัตว์ดุหรือสัตว์ร้าย ปล่อยปละละเลยให้สัตว์นั้นเที่ยวไปโดยลำพัง ในประการที่อาจทำอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนั้น ยังต้องรับผิดชดใช้ทางแพ่งแก่ผู้ได้รับความเสียหายจากการที่สุนัขไปกระทำละเมิดผู้อื่นด้วย
ด้าน นายวิทยา บุญมี ผู้จัดการโรงแรมบียอน รีสอร์ท เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้เคยมีเหตุนักท่องเที่ยวโดนสุนัขกัดมาแล้วถึง 2 ครั้ง ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา และล่าสุดวันนี้ก็เกิดเหตุอีกและจุดที่โดนสุนัขกัดก็ที่เดิม รวมเป็น 3 ราย ทั้งหมดเป็นแขกของโรงแรม ซึ่งเกรงว่าจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวย่านเขาหลัก ซึ่งพบว่านักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักจะใช้ จักรยานยนต์ จักรยาน และเดินเท้าไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ จึงอยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขปัญหาระยะยาว เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว
รายงานเพิ่มเติมจากการลงพื้นที่สอบถามชาวบ้าน ทราบว่า เคยมีเหตุสุนัขกัดนักท่องเที่ยวค่อนข้างบ่อย แต่ไม่กัดคนไทย และพบว่าจุดท่องเที่ยวสำคัญในย่านเขาหลักจะมีสุนัขจรจัดพักอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก มีผู้ใจบุญนำอาหารมาให้อยู่เป็นประจำ บางส่วนจะพักอาศัยอยู่ที่อาคารร้าง ซึ่งอยู่ติดกับเรือตรวจการณ์ 813 และจะมาวิ่งเล่น และคอยเห่ารถยนต์ รวมถึงนักท่องเที่ยวที่เดินทางมา ส่วนบริเวณถนนสายน้ำตกโตนช่องฟ้า ก็จะมีสุนัขจรจัดคอยเห่านักท่องเที่ยวอยู่เป็นระยะ เช่นเดียวกับชายหาดนางทอง ก็จะมีสุนัขจรจัดคอยวิ่งไปมา และคอยเห่านักท่องเที่ยวบริเวณชายหาด