ตรัง - สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรากูร พระราชทานพวงมาลา และหีบพระเพลิงให้หนุ่มชาว ต.นาโยงใต้ อ.เมืองตรัง ที่ช่วยเหลือผู้อื่นทั้งๆ ที่ว่ายน้ำไม่เป็น จนตัวเองต้องจมน้ำเสียชีวิต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ที่วัดโคกพิกุล ต.นาโยงใต้ อ.เมือง จ.ตรัง นายศิริพัฒ พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ได้เชิญพวงมาลา และหีบพระเพลิงพระราชทาน (กรณีพิเศษ) สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรากูร วางหน้าหีบศพ นายขันติ โยธารักษ์ อายุ 19 ปี คนดีของชาว ต.นาโยงใต้ อ.เมือง จ.ตรัง ที่กระโดดน้ำช่วยเหลือผู้อื่นทั้งๆ ที่ว่ายน้ำไม่เป็น จนตัวเองต้องจมน้ำเสียชีวิต
โดยเหตุเกิดบริเวณอ่างเก็บน้ำบ้านพรุพลูเถื่อน ต.นาโยงใต้ เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา ทั้งนี้ การเสียชีวิตของ นายขันติ โยธารักษ์ ฮีโร่ของชุมชนได้สร้างความเสียใจให้แก่ครอบครัว ญาติๆ บุคคลใกล้ชิด และคนในชุมชนเป็นอย่างมาก เนื่องจากผู้ตายเป็นเด็กที่มีความประพฤติดี มีนิสัยชอบช่วยเหลือผู้อื่น และที่สำคัญเป็นเด็กกตัญญูต่อมารดาเป็นอย่างมาก อีกทั้งเป็นคนจิตสาธารณะ ยามว่างจะช่วยถากหญ้า ทำความสะอาดบริเวณถนนสองข้างทางเข้าหมู่บ้าน จนสะอาดเรียบร้อยอยู่เสมอ จนชุมชนต่างพากันชื่นชมในความดีงามที่ผู้ตายได้กระทำเสมอมา
แต่เหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้นในวันเกิดเหตุ ขณะที่เด็กๆ ในหมู่บ้านที่รู้จักกันกับผู้ตายกระโดดน้ำเล่นกัน ปรากฏว่า 1 ใน 3 เกิดจมน้ำ ผู้ตายซึ่งนั่งเล่นอยู่ริมสระน้ำเห็นเหตุการณ์ จึงกระโดดลงไปช่วย พร้อมทั้งพยุงขึ้นมาจนรอดชีวิต แต่ตนเองได้พลาดท่าตกลงน้ำ และสันนิษฐานว่าโคลนคงดูดร่างลงไปในอ่างเก็บน้ำ ก่อนหมดแรงจมหายไป ประกอบกับผู้ตายว่ายน้ำไม่เป็น จึงเป็นเหตุทำให้เสียชีวิตดังกล่าว
สำหรับการได้รับพวงมาลา และหีบพระเพลิงพระราชทานในครั้งนี้ ยังความปลาบปลื้มแก่ครอบครัว ญาติพี่น้อง และประชาชนในชุมชนของ นายขันติ โยธารักษ์ เป็นอย่างมาก ต่างรู้สึกซาบซึ้ง และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรากูร อย่างหาที่สุดมิได้ ในการนี้ ในหลวงรัชกาลที่ 10 โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมทรงรับศพไว้ในพระราชานุเคราะห์โดยตลอด และพระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษ โดยกำหนดจะพระราชทานเพลิงศพในวันพฤหัสบดีที่ 20 ก.ค.นี้ เวลา 13.00 น. ณ วัดโคกพิกุล อ.เมือง จ.ตรัง
นายวิกาศ ช่วยนวล อายุ 54 ปี เพื่อนบ้านคนสนิทเหมือนญาติของ นายขันติ กล่าวว่า ตนรู้สึกชื่นชมในคุณงามความดีที่ นายขันติ โยธารักษ์ ได้ทำไว้ตอนยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งเป็นเด็กดีที่หาไม่ได้ง่ายๆ ในยุคปัจจุบัน ทุกวันก่อนออกไปทำงานจะสวดมนต์ และกราบบูชาพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทุกวัน พร้อมทั้งจะปั่นจักรยานคู่ใจเดินทางไปทำงาน ทำกิจวัตรเป็นประจำ และดูแลแม่ที่แก่ชราอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง
โดยจะสนิทกับลูกชายของตนเองที่มีอายุไล่เลี่ยกัน และจะมานั่งเล่นที่บ้านของตนอยู่เสมอแทบทุกวัน จนถึงตอนนี้ความรู้สึกบอกไม่ถูก ทั้งดีใจ และเสียใจในการจากไป ที่ดีใจเพราะความดีของ นายขันติ โยธารักษ์ ทำให้ทุกคนในชุมชนได้ชื่นชม และพลอยมีหน้ามีตาที่ได้รับพวงมาลา และหีบพระเพลิงพระราชทานในครั้งนี้ ส่วนที่เสียใจคือ คนดีๆ ไม่น่าจากไปเร็วขนาดนี้ พร้อมกล่าวว่า หากชาติหน้ามีจริงขอให้ผู้ตายได้กลับมาเกิดอีก หรือกลับมาเกิดเป็นลูกของตนเองก็ได้