ตรัง - เกษตรกรชาวสวนทุเรียนพันธุ์หมอนทอง ในพื้นที่ อ.นาโยง จ.ตรัง ยอมขายส่งให้แก่พ่อค้าในราคาถูก แทนการวางขายหน้าบ้านเหมือนทุกปี หลังเจอปัญหาฝนตก ลมแรงบ่อยครั้ง จนเกรงว่าจะเสียหายไปมากกว่านี้
วันนี้ (19 ก.ค.) เกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนพันธุ์หมอนทอง ในหลายตำบลของ อ.นาโยง และอำเภอต่างๆ ของ จ.ตรัง กำลังประสบปัญหาภัยธรรมชาติ ทั้งฝนตกหนัก และลมกระโชกแรง นับตั้งแต่ช่วงที่ทุเรียนกำลังออกดอก มาจนกระทั่งติดผลอ่อน และร่วงหล่นจำนวนมาก ทำให้เกษตรกรหวั่นว่าผลผลิตทุเรียนที่เหลือ และกำลังแก่จัดในช่วงนี้อาจจะร่วงหล่นหมดต้นจากภัยธรรมชาติอีกครั้ง จึงตัดสินใจขายส่งให้แก่พ่อค้าคนกลางที่เดินทางมารับซื้อถึงสวน แทนการวางขายหน้าบ้าน หรือหน้าร้านค้าเหมือนกับทุกปีที่ผ่านมา
โดยเฉพาะเกษตรกรในพื้นที่หมู่ 5 ต.นาโยงเหนือ แหล่งผลิตทุเรียนพันธุ์หมอนทองของ อ.นาโยง จ.ตรัง กำลังเข้าคิวรอให้พ่อค้าคนกลางขึ้นไปตัดทุเรียนที่สุกประมาณ 80-90% และได้ราคาแค่กิโลกรัมละ 65-68 บาท ต่างไปจากการนำมาวางขายหน้าบ้านหน้าร้าน ที่จะได้ราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 100-120 บาท แต่เกษตรกรต้องยอม เพราะดีกว่าปล่อยให้กิ่งทุเรียนหักร่วงหล่นลงมาจากฝนฟ้าอากาศที่แปรปรวนมานานนับเดือนแล้ว อย่างไรก็ตาม แม้ในปีนี้ทั้งราคาทุเรียน และผลผลิตทุเรียนจะร่วงหล่นไปบ้าง แต่เกษตรกรก็ยังมีรายได้เป็นกอบเป็นกำ
นายประกิจ จิตรใจภักดิ์ เกษตรกรเจ้าของสวนทุเรียนพันธุ์หมอนทอง กล่าวว่า ปีนี้ต้องจำใจขายทุเรียนให้แก่พ่อค้าคนกลาง เนื่องจากกลัวว่าสภาพฝนตกหนัก และลมพัดแรง จะทำให้ได้รับความเสียหายทั้งหมด แต่เนื่องจากทุเรียนที่นี่ปลอดภัยจากการใช้สารเคมี และยังดีต่อสุขภาพของผู้บริโภคเหมือนเดิม จึงยังคงได้รับความนิยม แต่ก็ส่งผลให้ลูกค้าในพื้นที่หาทุเรียนเจ้าประจำกินได้ยาก เพราะเกษตรกรต่างพากันขายให้แก่พ่อค้าคนกลางเกือบทุกราย จะเสี่ยงเหลือไว้เฉพาะที่กินเองในครอบครัว และแจกญาติพี่น้องเพียงคนละ 1 ต้นเท่านั้น
ด้าน นายพีระ เชยชื่นจิตร อายุ 29 ปี พ่อค้ารับซื้อทุเรียนชาว จ.กระบี่ กล่าวว่า ปีนี้ทุเรียนออกลูกเยอะกว่าปีที่ผ่านมา และยังออกพร้อมกันในหลายๆ จังหวัด จึงทำให้ราคาตกลงเหลือกิโลกรัมละ 65-68 บาท ซึ่งลูกค้าของตนคือ แหล่งท่องเที่ยวใน จ.กระบี่ และขายส่งให้แก่พ่อค้าแม่ค้ารายอื่นๆ ด้วย โดยเฉพาะทุเรียนพันธุ์หมอนทอง ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เนื่องจากกลิ่นไม่แรง เนื้อแน่น หวาน เม็ดลีบ ขณะที่ทุเรียนพันธุ์อื่นๆ เนื้อจะเละ กลิ่นแรง และบางพันธุ์ต้องรอให้สุกจากต้นถึงจะกินได้
