นราธิวาส - คณะมูลนิธิกฤษณา ไกรสินธุ์ ลงพื้นที่นราธิวาส ตรวจความคืบหน้าการส่งเสริมจังหวัดนราธิวาส เป็นเมืองสมุนไพร แห่งที่ 2 ในพื้นที่ภาคใต้ เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้น
วันนี้ (19 ก.ค.) ศาสตราจารย์ ดร.กฤษณา ไกรสินธุ์ ประธานมูลนิธิกฤษณา ไกรสินธุ์ พร้อมคณะกรรมการ และเจ้าหน้าที่ในมูลนิธิกฤษณา เข้าพบ นายสิทธิชัย ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เพื่อนำเสนอความคืบหน้าของการดำเนินการเมืองสมุนไพร ซึ่งจังหวัดนราธิวาสนั้นมีการผลักดันให้เป็นเมืองสมุนไพร แห่งที่ 2 ในพื้นที่ของภาคใต้ ต่อจากจังหวัดสงขลา ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนในพื้นที่มีรายได้เพิ่มขึ้น พัฒนาคุณภาพชีวิตในภาพรวม ต่อยอดองค์ความรู้ด้านการเกษตรที่ประชาชนมีอยู่ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง
ในการพูดคุยครั้งนี้มีการกล่าวถึงการดำเนินงานในการส่งเสริมเมืองสมุนไพร ซึ่งจังหวัดนราธิวาสได้รับงบประมาณสนับสนุนในการจัดทำเมืองสมุนไพรในปี 2560 และปี 2561 เพื่อส่งเสริมและต่อยอดความสำเร็จของโครงการ
ศาสตราจารย์ ดร.กฤษณา ไกรสินธุ์ ประธานมูลนิธิกฤษณา ไกรสินธุ์ กล่าวถึงการดำเนินการเมืองสมุนไพรในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ว่า พื้นที่จังหวัดนราธิวาสนั้นถือว่าเป็นพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์มาก ทั้งดิน น้ำ และแร่ธาตุ โดยดินนั้นไม่พบสารเคมีเจือปน จึงทำให้การปลูกสมุนไพรเพื่อผลิตเป็นยาน่าจะทำได้ดี จึงมีการลองปลูกมาแล้วระยะหนึ่งในพื้นที่ของ บ.จะแนะ ต.จะแนะ อ.จะแนะ รวมพื้นที่ประมาณ 15 ไร่
ประธานมูลนิธิกฤษณา ไกรสินธุ์ กล่าวด้วยว่า การจัดทำเมืองสมุนไพรนั้นจะส่งเสริมให้ประชาชนในพื้นที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถสร้างรายได้จากความรู้ด้านการเกษตรที่ตนเองมีอยู่ อีกทั้งเป็นการสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้แก่จังหวัดนราธิวาสด้วย เพราะนอกจากปัญหาความไม่สงบที่เกิดขึ้นได้ส่งผลกระทบทุกอย่างแล้ว แต่ความเป็นจริงในพื้นที่ยังมีความอุดมสมบูรณ์อยู่มากที่จะสร้างงาน สร้างอาชีพให้แก่ประชาชนได้
สำหรับเมืองสมุนไพรที่จัดสร้างขึ้นในพื้นที่ อ.จะแนะ ขณะนี้มีการส่งเสริมให้ปลูกต้นไพล เถาวัลย์เปรียง และมะแว้ง ซึ่งทั้งหมดสามารถส่งต่อเพื่อผลิตเป็นสมุนไพร และถือว่าเป็นที่ต้องการของท้องตลาดด้วย