xs
xsm
sm
md
lg

เกษตรกรในจะนะตัดใจโค่นยางปลูก “มัลเบอร์รี่” ขายสร้างรายได้เดือนละ 4 หมื่น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เกษตรกรชาวสวนยางพารา ในพื้นที่ อ.จะนะ จ.สงขลา ตัดใจโค่นสวนยางพารา และหันมาทำสวน “มัลเบอร์รี่” จนประสบความสำเร็จ สร้างรายได้เดือนละประมาณ 4 หมื่นบาท

วันนี้ (17 ก.ค.) ที่สวนมัลเบอร์รี่ บ้านป่างาม ต.ตลิ่งชัน อ.จะนะ จ.สงขลา ของ นายเสกสรร ชูเขียว อายุ 46 ปี ซึ่งเดิมทีปลูกยางพาราประมาณ 8 ไร่ แต่หลังจากที่ราคายางพาราผันผวน และค่อนข้างตกต่ำ จึงหันมาปลูกพืชทางเลือกใหม่ เช่น มัลเบอร์รี่ ตามคำแนะนำของเกษตรอำเภอจะนะ เพื่อหารายได้เสริม

จากนั้นจึงลงทุนโค่นสวนยางพารา จำนวน 5 ไร่ จากที่มีอยู่ 8 ไร่ หันมาปลูกมัลเบอร์รี่ เมื่อ 4 ปีก่อน จากช่วงแรกที่ปลูกต้นแม่พันธุ์เพียงแค่ 3 ต้น จนขณะนี้ขยายพื้นที่ปลูกเต็มทั้ง 5 ไร่ จำนวน 800 ต้น และเป็นแปลงต้นแบบการปลูกมัลเบอร์รี่ใน อ.จะนะ จ.สงขลา ซึ่งมัลเบอร์รี่ปลูกง่าย ใช้เวลาแค่ 4-5 เดือน ก็สามารถเก็บผลขายได้แล้ว
 

 
โดยทุกวันนี้สามารถเก็บมัลเบอร์รี่ขายได้วันละ 10-20 กิโลกรัม หรือเฉลี่ยเดือนละประมาณ 200 กิโลกรัม ราคากิโลกรัมละ 200 บาท มีรายได้เฉลี่ยอยู่ที่ 4 หมื่นบาทต่อเดือน นอกจากนี้ ยังแปรรูปเป็นน้ำมัลเบอร์รี่ขายอีกด้วย

และยังทำการตอนกิ่งมัลเบอร์รี่ ส่งขายให้แก่เกษตรกรที่สนใจปลูกใน 3 ราคา คือ กิ่งขนาดเล็ก 100 บาท กิ่งขนาดกลาง 300 บาท และกิ่งขนาดใหญ่ 500 บาท ซึ่งแต่ละเดือนจะมีลูกค้าสั่งเข้ามาไม่ต่ำกว่า 100 กิ่ง ซึ่งเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่สามารถสร้างรายได้เพิ่ม

นอกจากนี้ ที่สวนของ นายเสกสรร ยังทำแบบเชิงเกษตรทฤษฎีใหม่ หรือเกษตรผสมผสานตามแนวพระราชดำริ โดยนอกเหนือจากสวนยางพารา และปลูกมัลเบอร์รี่แล้ว ยังมีพืชผัก และผลไม้อีกหลายชนิดตามฤดูกาล เพื่อสร้างรายได้ต่อเนื่องตลอดทั้งปี
 


กำลังโหลดความคิดเห็น