กระบี่ - ระดมเจ้าหน้าที่ตำรวจกระจายกำลังออกค้นหลายจุดในพื้นที่กระบี่ และใกล้เคียง คลี่คลายคดีปม 8 ศพ ขณะที่ผลตรวจกระสุนพบเป็นกระบอกเดียวกันทั้งหมด โดยคนร้ายใช้ปืนของผู้ใหญ่บ้านปลิดชีพ ส่วนผลดีเอ็นเออยู่ระหว่างรวบรวม
ความคืบหน้ากรณีคนร้ายฆ่าโหด นายวรยุทธ สังหลัง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ พร้อมครอบครัว และญาติๆ รวม 8 ศพ บาดเจ็บ 3 คน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา
ล่าสุด วันนี้ (14 ก.ค.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เดินทางมาติดตามคลี่คลายคดีตั้งแต่ช่วงเย็นของวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยได้เรียกชุดสืบสวนมือดีที่ระดมมาจากภาคต่างๆ ทั้งกองปราบปราม สอบสวนกลางภาค 1 ภาค 7 ภาค 9 และภาค 8 เพื่อร่วมสืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิด
มีรายงานว่า ทาง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ได้ยกเลิกกำหนดการที่จะเดินทางกลับกรุงเทพฯ หลังจากได้ค้างคืนที่โรงแรมในพื้นที่ จ.กระบี่ เพื่อบัญชาการการติดตามตัวคนร้ายด้วยตนเองอย่างใกล้ชิด โดยเมื่อช่วงเวลา 05.00 น.วันนี้ ทาง ผบ.ตร.ได้เรียกประชุมชุดสืบสวนระดับผู้บังคับการทั้งหมด จากนั้นได้ให้กระจายกำลังออกติดตามหาเบาะแส และหลักฐาน กลุ่มผู้ต้องสงสัยในพื้นที่ จ.กระบี่ และจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งรายงานข่าวเชื่อว่า น่าจะมีความคืบหน้าทางด้านคดีมากขึ้นในวันนี้
ขณะเดียวกัน มีรายงานจากกองพิสูจน์หลักฐานว่า จากการเก็บหัวกระสุนจากร่างผู้เสียชีวิต และที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ พบหัวกระสุน 13 หัว และปลอกกระสุน 11 ปลอก ขณะนี้ผลการตรวจยืนยันแล้วว่า เป็นกระสุนที่ยิงจากปืนกระบอกเดียวกัน คือ อาวุธปืนขนาด .38 ของ นายวรยุทธ สังหลัง ผู้ใหญ่บ้านที่เสียชีวิต นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ได้เก็บหลักฐานเป็นขวดน้ำดื่ม และกล่องข้าวที่ซื้อจากร้านสะดวกซื้อ 4 กล่อง ซึ่งเชื่อว่าเป็นของคนร้ายอยู่ระหว่างการเก็บดีเอ็นเอ
ส่วนการเปรียบเทียบวีถีการยิงนั้น พบว่า คนร้ายก่อเหตุในลักษณะจ่อยิงทั้ง 11 ราย โดยในจำนวนนี้ มี 3 ราย ที่รอดชีวิตรวมทั้งเด็ก 2 คน วัย 13 ปี และ 5 ขวบ พบว่านั่งอยู่บนพื้นแล้วคนร้ายจ่อยิง เด็กได้ยกมือขึ้นมาบังทำให้กระสุนยิงเข้าที่ฝ่ามือก่อนกระสุนจะพุ่งไปถูกศีรษะทำให้รอดชีวิตเนื่องจากลดแรงกระแทก และกระสุนเฉี่ยวไป
ความคืบหน้ากรณีคนร้ายฆ่าโหด นายวรยุทธ สังหลัง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ พร้อมครอบครัว และญาติๆ รวม 8 ศพ บาดเจ็บ 3 คน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา
ล่าสุด วันนี้ (14 ก.ค.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เดินทางมาติดตามคลี่คลายคดีตั้งแต่ช่วงเย็นของวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยได้เรียกชุดสืบสวนมือดีที่ระดมมาจากภาคต่างๆ ทั้งกองปราบปราม สอบสวนกลางภาค 1 ภาค 7 ภาค 9 และภาค 8 เพื่อร่วมสืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิด
มีรายงานว่า ทาง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ได้ยกเลิกกำหนดการที่จะเดินทางกลับกรุงเทพฯ หลังจากได้ค้างคืนที่โรงแรมในพื้นที่ จ.กระบี่ เพื่อบัญชาการการติดตามตัวคนร้ายด้วยตนเองอย่างใกล้ชิด โดยเมื่อช่วงเวลา 05.00 น.วันนี้ ทาง ผบ.ตร.ได้เรียกประชุมชุดสืบสวนระดับผู้บังคับการทั้งหมด จากนั้นได้ให้กระจายกำลังออกติดตามหาเบาะแส และหลักฐาน กลุ่มผู้ต้องสงสัยในพื้นที่ จ.กระบี่ และจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งรายงานข่าวเชื่อว่า น่าจะมีความคืบหน้าทางด้านคดีมากขึ้นในวันนี้
ขณะเดียวกัน มีรายงานจากกองพิสูจน์หลักฐานว่า จากการเก็บหัวกระสุนจากร่างผู้เสียชีวิต และที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ พบหัวกระสุน 13 หัว และปลอกกระสุน 11 ปลอก ขณะนี้ผลการตรวจยืนยันแล้วว่า เป็นกระสุนที่ยิงจากปืนกระบอกเดียวกัน คือ อาวุธปืนขนาด .38 ของ นายวรยุทธ สังหลัง ผู้ใหญ่บ้านที่เสียชีวิต นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ได้เก็บหลักฐานเป็นขวดน้ำดื่ม และกล่องข้าวที่ซื้อจากร้านสะดวกซื้อ 4 กล่อง ซึ่งเชื่อว่าเป็นของคนร้ายอยู่ระหว่างการเก็บดีเอ็นเอ
ส่วนการเปรียบเทียบวีถีการยิงนั้น พบว่า คนร้ายก่อเหตุในลักษณะจ่อยิงทั้ง 11 ราย โดยในจำนวนนี้ มี 3 ราย ที่รอดชีวิตรวมทั้งเด็ก 2 คน วัย 13 ปี และ 5 ขวบ พบว่านั่งอยู่บนพื้นแล้วคนร้ายจ่อยิง เด็กได้ยกมือขึ้นมาบังทำให้กระสุนยิงเข้าที่ฝ่ามือก่อนกระสุนจะพุ่งไปถูกศีรษะทำให้รอดชีวิตเนื่องจากลดแรงกระแทก และกระสุนเฉี่ยวไป