ชุมพร - สุดอนาถ! นร.หญิงอายุแค่ 13 ทำร้าย นร.ต่างโรงเรียนถอดเสื้อถ่ายคลิปประจาน ผู้ปกครองไม่ยอมแจ้งความ 2 ข้อหา สาเหตุโกรธแค้นแทนเพื่อน
จากกรณีที่มีคลิปนักเรียนหญิงทำร้ายร่างกายนักเรียนหญิงด้วยกัน โดยคลิปดังกล่าวเป็นภาพขณะนักเรียนหญิงก้มลงกราบเท้านักเรียนหญิงอีกคน หลังจากนั้น ได้ใช้มือ และใช้เท้าทั้งเตะ และต่อยอย่างรุนแรง รวมทั้งถอดเสื้อผ้าท่อนบนจนล่อนจ้อน
โดยมีเพื่อนนักเรียนชายใช้โทรศัพท์มือถือยืนถ่ายคลิปวิดีโอให้ แล้วนำไปโพสต์ประจานทางสื่อออนไลน์ จนมีการแชร์ส่งต่อๆ กัน และกลายเป็นกระแสสังคมวิพากษ์วิจารณ์ถึงความรุนแรงของเด็กนักเรียนสมัยนี้ไปต่างๆ นานา โดยเหตุเกิดบนสะพานข้ามคลองถนนคอนกรีตในหมู่บ้านนาดอน หมู่ที่ 1 ตำบลท่าแซะ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ของช่วงเย็นวันที่ 8 กรกฎาคมที่ผ่านมา
ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (10 ก.ค.) ที่สถานีตำรวจภูธรท่าแซะ ผู้ปกครองของนักเรียนทั้ง 2 ฝ่าย ได้นำเด็กนักเรียนผู้เสียหาย คือ ด.ญ.น้ำ (นามสมมติ) อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนแห่งหนึ่ง และเด็กนักเรียนหญิงคู่กรณีที่ผู้ก่อเหตุ คือ ด.ญ.เก่ง (นามสมมติ) อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนแห่งหนึ่ง พร้อมกับเพื่อนนักเรียนชายอีก 3 คน ที่ร่วมก่อเหตุยืนถ่ายคลิปเหตุการณ์ดังกล่าวเข้าพบกับ พ.ต.ท.วิชัย ต้นกันยา รอง ผกก.สอบสวน สภ.ท่าแซะ
จากการสอบสวนทราบว่า สาเหตุมาจาก ด.ญ.เก่ง ผู้ก่อเหตุ กับ ด.ญ.น้ำ ผู้เสียหาย เป็นนักเรียนชั้น ม.1 ต่างโรงเรียนกัน โดย ด.ญ.เก่ง ผู้ก่อเหตุมีความโกรธแค้นแทนเพื่อนรัก ที่เห็น ด.ญ.น้ำ ผู้เสียหายได้ยืนคุยกับนักเรียนชายที่เป็นแฟนของเพื่อน ทำให้เข้าใจผิดคิดว่า ด.ญ.น้ำ จะแย่งแฟนของเพื่อนไป
จึงพาเพื่อนชาย 3 คน ขับรถจักรยานยนต์ไปตามหาจนเจอตัว ขณะปั่นรถจักรยานอยู่กับน้องชาย แล้วบังคับพาไปกลางสะพานข้ามคลองบนถนนในหมู่บ้าน แม้ขณะนั้น ด.ญ.น้ำ จะก้มลงกราบเท้าขอโทษบนพื้นถนนกลางสะพานแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่ฟังเสียงได้ลงมือทุบตีทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรงจนบาดเจ็บมีบาดแผลเขี้ยวช้ำไปทั่วตัว แล้วให้เพื่อนชายยืนถ่ายคลิป หลังจากนั้น ได้ส่งคลิปไปให้เพื่อนๆ ดู เพื่อประจาน จนมีการส่งต่อๆ กันกลายเป็นเรื่องใหญ่โตเผยแพร่ในสื่อออนไลน์ไปทั่วดังกล่าว
ภายหลังการสอบสวน พ.ต.ท.วิชัย กล่าวว่า ผู้ปกครองได้นำเด็กนักเรียนหญิงผู้เสียหายมาให้ปากคำ รวมทั้งผู้ก่อเหตุ เบื้องต้น ได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อนักเรียนหญิงผู้ก่อเหตุ 2 ข้อหา คือ ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บ และความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เนื่องจากเด็กหญิงผู้ก่อเหตุเป็นผู้นำคลิปไปส่งต่อให้เพื่อนๆ ส่วนนักเรียนชายอีก 3 คน ที่อยู่ในเหตุการณ์ด้วยไม่ได้ร่วมกันทำร้ายแต่ยืนดู และถ่ายคลิปให้ผู้ก่อเหตุ จึงแจ้งข้อหาเป็นผู้ร่วมสนับสนุนให้ผู้อื่นกระทำความผิด
แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะต้องมีเจ้าหน้าที่จากสหวิชาชีพเข้าร่วมสอบสวนด้วย เพื่อความเป็นธรรม และเป็นไปตามขั้นตอนกระบวนการของกฎหมาย เพราะผู้เสียหายเป็นเด็กทั้งหมด
ด้าน นางน้อย อายุ 50 ปี และนายมาก อายุ 50 ปี (นามสมมติ) พ่อแม่ของ ด.ญ.เก่ง กล่าวว่า ตนรู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อตนทราบข่าว และเห็นคลิปที่ลูกสาวตนไปทำร้ายผู้อื่นถึงกับหมดเรี่ยวแรง ส่วนสาเหตุไม่ทราบรายละเอียดอะไรมากนัก รู้เพียงว่าลูกสาวตนเจ็บแค้นแทนเพื่อนแล้วไปก่อเหตุดังกล่าวขึ้น
ขณะที่ นายเย็น (นามสมมติ) อายุ 41 ปี บิดาของ ด.ญ.น้ำ ผู้เสียหาย กล่าวว่า หลังทราบข่าว และเห็นคลิปแล้วตนยอมรับว่าทำใจไม่ได้จริงๆ แต่ได้ถูกญาติๆ และผู้ใหญ่หลายฝ่ายห้ามปรามไว้ว่าให้ใจเย็นๆ อย่าทำอะไรวู่วาม ปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำเนินคดีไปตามกฎหมายจะดีกว่า โดยช่วงเกิดเหตุตนทราบจากลูกชาย อายุ 9 ขวบ มาบอกว่า ขณะที่ลูกชายตนออกไปปั่นรถจักรยานกับ ด.ญ.น้ำ ซึ่งเป็นพี่สาวอยู่บนถนนในหมู่บ้าน ได้มี ด.ญ.เก่ง คู่กรณีขับรถจักรยานยนต์มากัน 2 คัน พร้อมกับเด็กชาย 3 คน มาจอดขวางหน้ารถจักรยานที่ลูกสาวตนกำลังปั่น โดยมีน้องชายวัย 9 ขวบ นั่งซ้อนท้าย
แล้ว ด.ญ.เก่ง บังคับให้ลูกสาวตนนั่งซ้อนท้ายไปด้วย แล้วบอกแก่ลูกชายตนว่าห้ามไปบอกพ่อแม่เด็ดขาด แล้วได้ขับพา ด.ญ.น้ำ ลูกสาวตนออกไปอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้น ลูกชายตนได้ปั่นจักรยานไล่ตามไป และหาอยู่พักใหญ่แต่ไม่เจอตัว จนกลับมาบอกตนแล้วมาเห็นสภาพลูกสาวกลับมาในสภาพถูกทำร้ายจนบาดเจ็บเขียวช้ำไปทั่วตัว แล้วยังมีการส่งคลิปประจานไปทั่ว เมื่อตนเห็นภาพแล้วรับไม่ได้จริงๆ จึงต้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุดเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างอีกต่อไป
จากกรณีที่มีคลิปนักเรียนหญิงทำร้ายร่างกายนักเรียนหญิงด้วยกัน โดยคลิปดังกล่าวเป็นภาพขณะนักเรียนหญิงก้มลงกราบเท้านักเรียนหญิงอีกคน หลังจากนั้น ได้ใช้มือ และใช้เท้าทั้งเตะ และต่อยอย่างรุนแรง รวมทั้งถอดเสื้อผ้าท่อนบนจนล่อนจ้อน
โดยมีเพื่อนนักเรียนชายใช้โทรศัพท์มือถือยืนถ่ายคลิปวิดีโอให้ แล้วนำไปโพสต์ประจานทางสื่อออนไลน์ จนมีการแชร์ส่งต่อๆ กัน และกลายเป็นกระแสสังคมวิพากษ์วิจารณ์ถึงความรุนแรงของเด็กนักเรียนสมัยนี้ไปต่างๆ นานา โดยเหตุเกิดบนสะพานข้ามคลองถนนคอนกรีตในหมู่บ้านนาดอน หมู่ที่ 1 ตำบลท่าแซะ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ของช่วงเย็นวันที่ 8 กรกฎาคมที่ผ่านมา
ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (10 ก.ค.) ที่สถานีตำรวจภูธรท่าแซะ ผู้ปกครองของนักเรียนทั้ง 2 ฝ่าย ได้นำเด็กนักเรียนผู้เสียหาย คือ ด.ญ.น้ำ (นามสมมติ) อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนแห่งหนึ่ง และเด็กนักเรียนหญิงคู่กรณีที่ผู้ก่อเหตุ คือ ด.ญ.เก่ง (นามสมมติ) อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนแห่งหนึ่ง พร้อมกับเพื่อนนักเรียนชายอีก 3 คน ที่ร่วมก่อเหตุยืนถ่ายคลิปเหตุการณ์ดังกล่าวเข้าพบกับ พ.ต.ท.วิชัย ต้นกันยา รอง ผกก.สอบสวน สภ.ท่าแซะ
จากการสอบสวนทราบว่า สาเหตุมาจาก ด.ญ.เก่ง ผู้ก่อเหตุ กับ ด.ญ.น้ำ ผู้เสียหาย เป็นนักเรียนชั้น ม.1 ต่างโรงเรียนกัน โดย ด.ญ.เก่ง ผู้ก่อเหตุมีความโกรธแค้นแทนเพื่อนรัก ที่เห็น ด.ญ.น้ำ ผู้เสียหายได้ยืนคุยกับนักเรียนชายที่เป็นแฟนของเพื่อน ทำให้เข้าใจผิดคิดว่า ด.ญ.น้ำ จะแย่งแฟนของเพื่อนไป
จึงพาเพื่อนชาย 3 คน ขับรถจักรยานยนต์ไปตามหาจนเจอตัว ขณะปั่นรถจักรยานอยู่กับน้องชาย แล้วบังคับพาไปกลางสะพานข้ามคลองบนถนนในหมู่บ้าน แม้ขณะนั้น ด.ญ.น้ำ จะก้มลงกราบเท้าขอโทษบนพื้นถนนกลางสะพานแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่ฟังเสียงได้ลงมือทุบตีทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรงจนบาดเจ็บมีบาดแผลเขี้ยวช้ำไปทั่วตัว แล้วให้เพื่อนชายยืนถ่ายคลิป หลังจากนั้น ได้ส่งคลิปไปให้เพื่อนๆ ดู เพื่อประจาน จนมีการส่งต่อๆ กันกลายเป็นเรื่องใหญ่โตเผยแพร่ในสื่อออนไลน์ไปทั่วดังกล่าว
ภายหลังการสอบสวน พ.ต.ท.วิชัย กล่าวว่า ผู้ปกครองได้นำเด็กนักเรียนหญิงผู้เสียหายมาให้ปากคำ รวมทั้งผู้ก่อเหตุ เบื้องต้น ได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อนักเรียนหญิงผู้ก่อเหตุ 2 ข้อหา คือ ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บ และความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เนื่องจากเด็กหญิงผู้ก่อเหตุเป็นผู้นำคลิปไปส่งต่อให้เพื่อนๆ ส่วนนักเรียนชายอีก 3 คน ที่อยู่ในเหตุการณ์ด้วยไม่ได้ร่วมกันทำร้ายแต่ยืนดู และถ่ายคลิปให้ผู้ก่อเหตุ จึงแจ้งข้อหาเป็นผู้ร่วมสนับสนุนให้ผู้อื่นกระทำความผิด
แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะต้องมีเจ้าหน้าที่จากสหวิชาชีพเข้าร่วมสอบสวนด้วย เพื่อความเป็นธรรม และเป็นไปตามขั้นตอนกระบวนการของกฎหมาย เพราะผู้เสียหายเป็นเด็กทั้งหมด
ด้าน นางน้อย อายุ 50 ปี และนายมาก อายุ 50 ปี (นามสมมติ) พ่อแม่ของ ด.ญ.เก่ง กล่าวว่า ตนรู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อตนทราบข่าว และเห็นคลิปที่ลูกสาวตนไปทำร้ายผู้อื่นถึงกับหมดเรี่ยวแรง ส่วนสาเหตุไม่ทราบรายละเอียดอะไรมากนัก รู้เพียงว่าลูกสาวตนเจ็บแค้นแทนเพื่อนแล้วไปก่อเหตุดังกล่าวขึ้น
ขณะที่ นายเย็น (นามสมมติ) อายุ 41 ปี บิดาของ ด.ญ.น้ำ ผู้เสียหาย กล่าวว่า หลังทราบข่าว และเห็นคลิปแล้วตนยอมรับว่าทำใจไม่ได้จริงๆ แต่ได้ถูกญาติๆ และผู้ใหญ่หลายฝ่ายห้ามปรามไว้ว่าให้ใจเย็นๆ อย่าทำอะไรวู่วาม ปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำเนินคดีไปตามกฎหมายจะดีกว่า โดยช่วงเกิดเหตุตนทราบจากลูกชาย อายุ 9 ขวบ มาบอกว่า ขณะที่ลูกชายตนออกไปปั่นรถจักรยานกับ ด.ญ.น้ำ ซึ่งเป็นพี่สาวอยู่บนถนนในหมู่บ้าน ได้มี ด.ญ.เก่ง คู่กรณีขับรถจักรยานยนต์มากัน 2 คัน พร้อมกับเด็กชาย 3 คน มาจอดขวางหน้ารถจักรยานที่ลูกสาวตนกำลังปั่น โดยมีน้องชายวัย 9 ขวบ นั่งซ้อนท้าย
แล้ว ด.ญ.เก่ง บังคับให้ลูกสาวตนนั่งซ้อนท้ายไปด้วย แล้วบอกแก่ลูกชายตนว่าห้ามไปบอกพ่อแม่เด็ดขาด แล้วได้ขับพา ด.ญ.น้ำ ลูกสาวตนออกไปอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้น ลูกชายตนได้ปั่นจักรยานไล่ตามไป และหาอยู่พักใหญ่แต่ไม่เจอตัว จนกลับมาบอกตนแล้วมาเห็นสภาพลูกสาวกลับมาในสภาพถูกทำร้ายจนบาดเจ็บเขียวช้ำไปทั่วตัว แล้วยังมีการส่งคลิปประจานไปทั่ว เมื่อตนเห็นภาพแล้วรับไม่ได้จริงๆ จึงต้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุดเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างอีกต่อไป
