โดย...ศูนย์ข่าวภาคใต้
--------------------------------------------------------------------------
ภายหลังตำรวจมาเลเซีย รวบ “เตียว วุย ฮวด” เจ้าของอาณาจักร “เอ็มบีไอกรุ๊ป” หรือธุรกิจในเครือบริษัท เอ็มบีไอ กรุ๊ป จำกัด (MBI GROUP) ซึ่งตั้งอยู่บริเวณชายแดนฝั่งไทยในพื้นที่บ้านด่านนอก ต.สำนักข้าม อ.สะเดา จ.สงขลา อันเป็นผลสืบเนื่องจากถูกพลเมืองดีร้องเรียนผ่านสื่อมวลชนไทยให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบว่า อาณาจักรของเขาได้มีก่อสร้างอาคารต่างๆ และถนนหนทางทับลำคลองสาธารณะเป็นพื้นที่ยาวกว่า 1 กิโลเมตร
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าในเรื่องนี้ว่า วันนี้ (9 ก.ค.) ได้มีพลเมืองดี (ขอไม่เปิดเผยชื่อเพื่อความปลอดภัย) ซึ่งอาศัยอยู่ในพื้นที่บ้านด่านนอก ในเขตเทศบาลตำบลสำนักขาม ได้ขอให้ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบโครงการก่อสร้างโรงแรม อาคารพาณิชย์ และสิ่งสาธารณูปโภคต่างๆ ในเครือของเอ็มบีไอกรุ๊ป ซึ่งเป็นอาณาจักรของ นายเตียว วุย ฮวด ชาวมาเลเซียอีกครั้ง เพื่อการพิสูจน์ข้อเท็จจริงบางอย่าง
สำหรับอาณาจักรเอ็มบีไอ กรุ๊ป ดังกล่าวนั้น บริษัท เอ็มบีไอ กรุ๊ป ได้เข้าไปกว้านซื้อที่ดินในบริเวณบ้านด่านนอก เขตเทศบาลตำบลสำนักขาม ไว้จำนวนมาก แล้วมีการสร้างสถานบันเทิง อาคารพาณิชย์ โรงแรม รีสอร์ต สวนสนุก จนสร้างเสียงร่ำลือว่าเป็นอาณาจักรของชาวต่างชาติที่ทำธุรกิจอยู่เหนือกฎหมายไทย มีการให้คนไทยเป็น “นอมินี” ในการถือหุ้น และมีการแต่งตั้งข้าราชการระดับสูง ทั้งฝ่ายปกครอง ตำรวจ และหน่วยงานอื่นๆ เป็นที่ปรึกษาเพื่อสร้างอิทธิพลในพื้นที่
เมื่อผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงไปตรวจสอบตามที่ได้รับแจ้งเรื่อง พร้อมทั้งได้ทำการถ่ายภาพในพื้นที่ ซึ่งพลเมืองดีระบุว่า แต่เดิมเป็น “คลองพรวน” แต่เวลานี้ถูกโครงการของเอ็มบีไอ กรุ๊ปแปรสภาพไปแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม สภาพของคลองยังพอสังเกตเห็นได้ในบางช่วงที่ยังไม่มีการก่อสร้างอาคารทับไว้ แต่ส่วนใหญ่สภาพของลำคลองถูกถมเพื่อสร้างเป็นถนนหลายสายไปแล้ว
นอกจากนี้ ยังมีการสร้างอาคารทับลำคลองไว้หลายแห่ง จนลำคลองดังกล่าวไม่เหลือให้เห็น เหลือเพียงส่วนที่อยู่หลังโครงการ ซึ่งยังเป็นคลองขนาดกลางไว้เป็นหลักฐานที่ชัดเจนว่า มีการถมคลองในส่วนที่ผ่านโครงการของเอ็มบีไอ กรุ๊ป ซึ่งถือเป็นหลักฐานสำคัญ
พลเมืองดีผู้ร้องเรียนเปิดเผยว่า ที่ผ่านมา ไม่เคยมีหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นเจ้าพนักงานที่ดิน หรือหน่วยงานในท้องถิ่น อย่างเทศบาลตำบลสำนักขาม ได้เข้าไปตรวจสอบดูแลในการพัฒนาพื้นที่ของเอ็มบีไอ กรุ๊ป โดยเฉพาะในส่วนของการถมคลองสาธารณะแล้วยึดที่ดินเอาไปหาประโยชน์แต่อย่างใด
“เรื่องนี้เป็นข้อกังขาของคนในพื้นที่อย่างมากว่า ในการออกโฉนดที่ดินบริเวณพื้นที่ดังกล่าวให้แก่โครงการของเอ็มบีไอ กรุ๊ป เจ้าพนักงานที่ดินได้มีการสำรวจหรือไม่ว่ามีลำคลองธรรมชาติอยู่ตรงนั้นด้วย”
พลเมืองดีผู้ร้องเรียนยังกล่าวว่า จุดประสงค์ที่ทำการร้องเรียนให้ผ่านสื่อ เพื่อให้ได้ไปดูข้อเท็จจริงในการถมลำคลองสร้างถนนและอาคารของเอ็มบีไอกรุ๊ปว่า เป็นการดำเนินการที่ถูกต้องหรือไม่ และหากไม่ถูกต้องจะดำเนินการอย่างไรกับความเสียหายต่อรัฐที่เกิดขึ้น ซึ่งต้องการให้เจ้าพนักงานที่ดินทำการตรวจสอบ รวมทั้งให้สำนักงานเทศบาลตำบลสำนักขาม ซึ่งเป็นหน่วยงานท้องถิ่นต้องมีส่วนในการรับผิดชอบด้วย เพราะการสร้างถนน สร้างอาคาร ถมลำคลองที่เป็นสิ่งสาธารณะ ย่อมต้องผ่านการตรวจสอบของท้องถิ่นหรือเทศบาล
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า การร้องเรียนครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ นายเตียว วุย ฮวด เจ้าของโครงการธุรกิจเครือเอ็มบีไอ กรุ๊ป ซึ่งเป็นธุรกิจมูลค่าหลายหมื่นล้านบาท รวมทั้งการเข้ามาแผ่อิทธิพลสร้างอาณาจักรที่มีลักษณะของการเป็นมาเฟียในพื้นที่บ้านด่านนอก ซึ่งมีมูลค่าหลายพันล้าน อันเป็นลักษณะของนายทุนข้ามชาติที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเลเซียจับกุมในข้อหาค้ายาเสพติด โดยมีส่วนพัวพันต่อเครือข่ายของ “นายชัยซะนะ” ราชายาเสพติดจากประเทศลาว และ “นายอุสมาน สะแลแม” เจ้าพ่อยาเสพติดชาว จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นเครือข่ายใหญ่ของ นายชัยซะนะ ซึ่งขณะนี้หลบหนีไปยังต่างประเทศแล้ว
สำหรับเรื่องนี้ “MGR Online ภาคใต้” จะได้ติดตามตรวจสอบมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งกับเจ้าพนักงานที่ดิน จ.สงขลา และท้องถิ่นจังหวัด เทศบาลสำนักขาม รวมทั้งหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งติดตามความคืบหน้าในประเด็นอื่นๆ ของเอ็มบีไอ กรุ๊ป ที่เคยนำเสนอไปแล้ว เช่น มีการพบว่าในอาณาจักรบันเทิงมีการนำหญิงสาวชาวจีนแผ่นดินใหญ่จำนวนหลายพันคนเข้ามาขายบริการในรูปแบบต่างๆ โดยถือหนังสือเดินทางถูกต้อง แต่ใช้วิธีการขออนุญาตทำงานเป็น “แม่บ้าน” จากจัดหางานจังหวัดสงขลา จนกลายเป็นที่สงสัยของคนทั่วไปว่า แม่บ้านอะไรถึงมีมากเป็นพันๆ คนในอาณาจักรแห่งนี้