สุราษฎร์ธานี - รอง ผบ.ตร.รรท.ผบช.ภาค 8 ควงผู้ว่าฯ สุราษฎร์ธานี หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโต้สื่อต่างชาติ โจมตีเกาะเต่าเป็นเกาะฆาตกร ยันไม่ใช่ความจริง ปฏิเสธมีมาเฟีย พร้อมแจงทุกคดีที่เกิดขึ้น ขณะที่หลายฝ่ายยังผวาหากสื่อนอกยังมุ่งเป้าโจมตีหวั่นกระทบการท่องเที่ยว
จากกรณีสื่อต่างชาติ และสื่อออนไลน์ประโคมข่าวโจมตีเกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี เป็น “เกาะแห่งความตาย” พร้อมระบุ 3 ปีที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวเสียชีวิตจากการถูกฆาตกรรมมีจำนวนถึง 7 คน สร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวของเกาะเต่า และประเทศไทยเป็นอย่างมาก
ล่าสุด เมื่อเวลา 13.30 น.วันนี้ (7 ก.ค.) ที่ห้องประชุมตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี พล.ต.ท.ธเนตร์ พิณเมืองงาม ผช.ผบ.ตร.รทท.ผบช.ภ.8 พร้อมด้วย นายอวยชัย อินทร์นาค ผวจ.สุราษฎร์ธานี พล.ต.ต.พรชัย สุธีรคุณ ผบก.สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ เดินทางมาร่วมกันแถลงข่าวถึงกรณี 7 นักท่องเที่ยวที่เสียชีวิต และสูญหายบนเกาะเต่า โดยมีการอธิบายลักษณะการเสียชีวิตของแต่คดีจนมาถึงคดีล่าสุด
โดยยืนยันว่า มีคดีเดียวที่นักท่องเที่ยวถูกฆาตกรรม ผู้ก่อเหตุก็ถูกจับกุม และศาลชั้นต้นได้ตัดสินลงโทษประหารชีวิตไปแล้ว และการทำงานของเจ้าหน้าที่ตรงไปตรงมา ผลการตรวจพิสูจน์เป็นไปตามขั้นตอนการตรวจพิสูจน์ศพ
ขณะที่กรณีนักท่องเที่ยวสาวชาวเบลเยียม ผลการตรวจชันสูตรพบเกิดจากการใช้เชือกผูกคอจนทำให้ขาดอากาศหายใจ ส่วนอาการฟกช้ำบางส่วนบนร่างกายไม่รุนแรงไม่ทำให้สลบ หรือช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
ส่วนการนำเสนอข่าวของสื่อต่างประเทศว่าเกาะเต่าเป็นเกาะแห่งความตาย และมีมาเฟียคุมเกาะนั้นไม่เป็นความจริง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานได้ทำงานดูแลความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวกันอย่างเต็มที่ ในส่วนการทำความเข้าใจต่อสื่อต่างประเทศ ทางผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ ได้มอบหมายให้ผู้อำนวยการสำนักงานประชาสัมพันธ์ เขต 5 กรมประชาสัมพันธ์ สุราษฎร์ธานี เร่งทำความเข้าใจ และเร่งประชาสัมพันธ์เพื่อกอบกู้ภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวเกาะเต่า โดยใช้เวลาการแถลงข่าวครั้งนี้นานกว่า 2 ชั่วโมง
ในขณะที่หลายภาคส่วน และชาวเกาะเต่ายังผวา ถ้าสื่อต่างประเทศยังมุ่งโจมตี และเปิดประเด็นหลายอย่างบนเกาะเต่าที่ยังไม่รับการแก้ไข เช่น ปัญหากล้องวงจรปิดที่ติดตั้งแล้วใช้ไม่หมด เรื่องความไม่ชอบมาพากลจอแอลซีดีขนาดใหญ่ที่ติดตั้งแล้วใช้ไม่ได้ ปัญหาขยะที่ล้นเกาะ อาจเป็นตัวส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของเกาะเต่าในอนาคต
ส่วนการแถลงข้อเท็จจริงกรณีนักท่องเที่ยวเสียชีวิตในพื้นที่เกาะเต่า คดีที่ปรากฏเป็นข่าวนั้นมีทั้งสิ้น จำนวน 7 คดี มีรายละเอียดดังต่อไปนี้ 1.นายนิโคลาส เจมส์ แพร์สัน อายุ 25 ปี สัญชาติอังกฤษ เมื่อวันที่ 1 ม.ค.57 เวลาประมาณ 14.00 น. พบศพลอยน้ำอยู่ในทะเลข้างสระน้ำ ชายหาดฮิลไซต์รีสอร์ท สถานที่พักของผู้ตาย พงส.ร่วมกับแพทย์ชันสูตรพลิกศพผู้ตาย ระบุสาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากภาวะการขาดอากาศหายใจ มีบาดแผลที่ร่างกาย ซึ่งพนักงานสอบสวนได้สอบสวนปากคำพยานแล้ว ไม่มีสิ่งบ่งชี้ว่าเกิดจากผู้อื่นทำให้ตาย บาดแผลตามร่างกายน่าจะเกิดจากคลื่นซัดศพกระทบกับสิ่งกีดขวางในทะเล บิดาผู้ตายให้การว่า ในคืนก่อนพบศพผู้ตายมีอาการมึนเมา และบิดาเป็นผู้ไปส่งผู้ตายที่ห้องเองก่อนเสียชีวิต ไม่ติดใจในสาเหตุการตาย และไม่ต้องการให้ผ่าศพตรวจพิสูจน์
2.นายเดวิด วิลเลียม และ น.ส.ฮันน่าห์ วิคทอเรีย วิทเธอริดจ์ สัญชาติอังกฤษ คดีนี้ นายซอลิน และนายเวพิว ผู้ต้องหาสัญชาติพม่า ถูกศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ ตัดสินประหารชีวิต จำเลยไม่ฎีกา คดีถึงที่สุด
3.นายดิมิทรี พอฟว์ อายุ 28 ปี สัญชาติฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 1 ม.ค.58 เวลาประมาณ 14.00 น. พบศพผู้ตายแขวนคอกับคานบ้าน เท้าพ้นพื้น หน้าระเบียงห้องพัก มือทั้งสองข้างไขว้หลัง ลักษณะของการผูกมือไขว้หลัง ใช้ปลายเชือกทั้งสองข้างผูกกับข้อมือด้านขวาให้เชือกเหลือเป็นบ่วง บิดข้อมือเพื่อให้บ่วงเชือกพันกันลักษณะหลวมๆ ซึ่งเป็นลักษณะที่ทำเองได้ ไม่ผิดธรรมชาติ และ พบจดหมายเขียนลาตายในที่เกิดเหตุ มีผู้หญิงพยานในคดีให้การว่า ผู้ตายแอบชอบตนเองอยู่ และตนเองไม่ได้รับโทรศัพท์ของผู้ตาย จำนวน 2 สาย เนื่องจากหลับอยู่ จากการรวบรวมพยานหลักฐานยังไม่มีพยานหลักฐานใดบ่งชี้ได้ว่าถูกผู้อื่นทำให้ตาย
4.น.ส.เนสลี่ คริสตินา มาเรียน อายุ 23 ปี สัญชาติอังกฤษ เมื่อวันที่ 21 ม.ค.58 เวลาประมาณ 12.00 น. พบศพนอนเสียชีวิตในห้องพัก ไม่มีร่องรอยการต่อสู้ ผลการชันสูตรพลิกศพ สาเหตุการตายเกิดจากระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว จากการได้รับสารเสพติดร่วมกันยาบางประเภท และ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่พบร่องรอยการถูกข่มขืน ไม่พบดีเอ็นเอของบุคคลอื่นที่เล็บมือของผู้ตาย สอบพยาน และตรวจสอบกล้องวงจรปิดไม่พบบุคคลใดทำร้ายผู้ตาย และไม่มีสิ่งบ่งชี้ว่าถูกผู้อื่นทำให้ตาย
5.นายลุค มิลเลอร์ อายุ 26 ปี สัญชาติอังกฤษ เมื่อวันที่ 9 ม.ค.60 เวลาประมาณ 08.40 น.พบศพผู้ตายในสระน้ำซันเซทบาร์ มีการผ่าศพตรวจพิสูจน์ แพทย์สรุปสาเหตุการตายว่าจมน้ำ พนักงานได้สอบสวนปากคำทั้งนักท่องเที่ยว เพื่อนผู้ตาย และพนักงานในร้านกว่า 50 ปาก ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ไม่พบสิ่งบ่งชี้ว่าถูกผู้อื่นทำให้ตาย บาดแผลตามร่างกายที่ปรากฏตามรายงานแพทย์เชื่อว่ามีนักท่องเที่ยวกระโดดเล่นไดร์วิ่งบอร์ดลงมาในสระน้ำถูกผู้ตายที่เล่นน้ำอยู่ หรือผู้ตายกระโดดไดร์วิ่งบอร์ดลงมาถูกนักท่องเที่ยวที่เล่นน้ำอยู่ในสระ
เพราะมีพยานยืนยันว่า ในคืนเกิดเหตุเห็นนักท่องเที่ยวคนหนึ่งซึ่งจำไม่ได้ว่าเป็นใครกระโดดลงมาจากไดร์วิ่งบอร์ด กระแทกนักท่องเที่ยวที่เล่นน้ำอยู่ในสระ แล้วนักท่องเที่ยวที่โดนกระแทกได้ว่ายน้ำขึ้นจากสระ ส่วนคนที่กระโดดลงมาโดนคนอื่นได้จมน้ำลงไป แต่สักครู่หนึ่งก็โผล่ขึ้นมา พยานจึงไม่ได้สนใจอีก เพราะเข้าใจว่าไม่เป็นอะไรมาก
6.น.ส.วาเลนตินา โนโวเซโนวา อายุ 24 ปี สัญชาติรัสเซีย หายตัวไปจากที่พักพร้อมอุปกรณ์ดำน้ำ เมื่อวันที่ 16 ก.พ.60 เวลาประมาณ 14.00 น. ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ได้ตั้งชุดสืบสวน ร่วมกับฝ่ายปกครอง ตำรวจน้ำ และผู้ประกอบธุรกิจดำน้ำค้นหาผู้สูญหายทั้งทางบก และทางน้ำในทะเล เชื่อว่าสูญหายในขณะลงดำน้ำ เนื่องจากอุปกรณ์ดำน้ำหายไป และผู้สูญหายได้ติดต่อกับคนใกล้ชิดว่าตนเองทำลายสถิติในการดำน้ำลึกแบบไม่มีเครื่องช่วยหายใจ ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างสืบค้นหาตัวผู้สูญหาย
7.น.ส.เอลิเซ่ โซฟี วีนซีน เอ็มมานูเอล ดาเลเมกเน่ อายุ 30 ปี สัญชาติเบลเยียม เมื่อวันที่ 27 เม.ย.60 เวลาประมาณ 12.30 น. พบศพแขวนคออยู่บนต้นไม้ แพทย์ผ่าชันสูตรพลิกศพ ระบุสาเหตุการตายเกิดจากการขาดอากาศหายใจ จากการสืบสวนสอบสวนได้ความว่า เมื่อวันที่ 4 เม.ย.60 ผู้ตายพยายามจะฆ่าตัวตายเดินให้รถไฟชน แต่มีคนช่วยไว้ได้ และถูกส่งไปรักษาตัวที่สถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา กรมสุขภาพจิต
ต่อมา วันที่ 19 เม.ย.60 ผู้ตายได้ลงเรือของบริษัทเรือเร็วลมพระยา จากเกาะพะงัน ไปขึ้นที่เกาะเต่า โดยลืมกระเป๋าเดินทางแบบล้อลากสีแดง 1 ใบ ไว้ในเรือที่วิ่งไปชุมพร หลังจากนั้น ผู้ตายได้เข้าไปพักที่ทริปเปิ้ลบีบังกะโล และในคืนดังกล่าวเกิดไฟไหม้ที่พักของผู้ตาย แต่ผู้ตายวิ่งหนีออกมาได้
จนกระทั่งวันที่ 21 เม.ย.60 ผู้ตายไปที่ร้านอาหารโพเซดอน ซื้อข้าวเปล่ากิน 1 จาน และซื้อข้าวเปล่า 1 กล่อง พร้อมน้ำดื่ม 1 ขวด และซื้อตั๋วเรือ ตั๋วรถ ตั๋วแท็กซี่ เพื่อเดินทางไปกรุงเทพฯ ในวันที่ 24 เม.ย.60 จากนั้นออกจากร้านอาหารโพเซดอน เดินผ่านร้านอาหารมณฑะเล ไปทางที่เกิดเหตุ จนกระทั่งวันที่ 27 เม.ย.60 พบศพผู้ตายในลักษณะผูกคอด้วยเชือก ศพขึ้นอืด แพทย์ลงความเห็นว่าตายมาแล้วประมาณ 4-7 วัน จากการรวบรวมพยานหลักฐานมาทั้งหมด ยังไม่มีหลักฐานใดบ่งชี้ได้ว่าผู้ตายเสียชีวิตจากการกระทำของผู้อื่น
จากกรณีสื่อต่างชาติ และสื่อออนไลน์ประโคมข่าวโจมตีเกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี เป็น “เกาะแห่งความตาย” พร้อมระบุ 3 ปีที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวเสียชีวิตจากการถูกฆาตกรรมมีจำนวนถึง 7 คน สร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวของเกาะเต่า และประเทศไทยเป็นอย่างมาก
ล่าสุด เมื่อเวลา 13.30 น.วันนี้ (7 ก.ค.) ที่ห้องประชุมตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี พล.ต.ท.ธเนตร์ พิณเมืองงาม ผช.ผบ.ตร.รทท.ผบช.ภ.8 พร้อมด้วย นายอวยชัย อินทร์นาค ผวจ.สุราษฎร์ธานี พล.ต.ต.พรชัย สุธีรคุณ ผบก.สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ เดินทางมาร่วมกันแถลงข่าวถึงกรณี 7 นักท่องเที่ยวที่เสียชีวิต และสูญหายบนเกาะเต่า โดยมีการอธิบายลักษณะการเสียชีวิตของแต่คดีจนมาถึงคดีล่าสุด
โดยยืนยันว่า มีคดีเดียวที่นักท่องเที่ยวถูกฆาตกรรม ผู้ก่อเหตุก็ถูกจับกุม และศาลชั้นต้นได้ตัดสินลงโทษประหารชีวิตไปแล้ว และการทำงานของเจ้าหน้าที่ตรงไปตรงมา ผลการตรวจพิสูจน์เป็นไปตามขั้นตอนการตรวจพิสูจน์ศพ
ขณะที่กรณีนักท่องเที่ยวสาวชาวเบลเยียม ผลการตรวจชันสูตรพบเกิดจากการใช้เชือกผูกคอจนทำให้ขาดอากาศหายใจ ส่วนอาการฟกช้ำบางส่วนบนร่างกายไม่รุนแรงไม่ทำให้สลบ หรือช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
ส่วนการนำเสนอข่าวของสื่อต่างประเทศว่าเกาะเต่าเป็นเกาะแห่งความตาย และมีมาเฟียคุมเกาะนั้นไม่เป็นความจริง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานได้ทำงานดูแลความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวกันอย่างเต็มที่ ในส่วนการทำความเข้าใจต่อสื่อต่างประเทศ ทางผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ ได้มอบหมายให้ผู้อำนวยการสำนักงานประชาสัมพันธ์ เขต 5 กรมประชาสัมพันธ์ สุราษฎร์ธานี เร่งทำความเข้าใจ และเร่งประชาสัมพันธ์เพื่อกอบกู้ภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวเกาะเต่า โดยใช้เวลาการแถลงข่าวครั้งนี้นานกว่า 2 ชั่วโมง
ในขณะที่หลายภาคส่วน และชาวเกาะเต่ายังผวา ถ้าสื่อต่างประเทศยังมุ่งโจมตี และเปิดประเด็นหลายอย่างบนเกาะเต่าที่ยังไม่รับการแก้ไข เช่น ปัญหากล้องวงจรปิดที่ติดตั้งแล้วใช้ไม่หมด เรื่องความไม่ชอบมาพากลจอแอลซีดีขนาดใหญ่ที่ติดตั้งแล้วใช้ไม่ได้ ปัญหาขยะที่ล้นเกาะ อาจเป็นตัวส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของเกาะเต่าในอนาคต
ส่วนการแถลงข้อเท็จจริงกรณีนักท่องเที่ยวเสียชีวิตในพื้นที่เกาะเต่า คดีที่ปรากฏเป็นข่าวนั้นมีทั้งสิ้น จำนวน 7 คดี มีรายละเอียดดังต่อไปนี้ 1.นายนิโคลาส เจมส์ แพร์สัน อายุ 25 ปี สัญชาติอังกฤษ เมื่อวันที่ 1 ม.ค.57 เวลาประมาณ 14.00 น. พบศพลอยน้ำอยู่ในทะเลข้างสระน้ำ ชายหาดฮิลไซต์รีสอร์ท สถานที่พักของผู้ตาย พงส.ร่วมกับแพทย์ชันสูตรพลิกศพผู้ตาย ระบุสาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากภาวะการขาดอากาศหายใจ มีบาดแผลที่ร่างกาย ซึ่งพนักงานสอบสวนได้สอบสวนปากคำพยานแล้ว ไม่มีสิ่งบ่งชี้ว่าเกิดจากผู้อื่นทำให้ตาย บาดแผลตามร่างกายน่าจะเกิดจากคลื่นซัดศพกระทบกับสิ่งกีดขวางในทะเล บิดาผู้ตายให้การว่า ในคืนก่อนพบศพผู้ตายมีอาการมึนเมา และบิดาเป็นผู้ไปส่งผู้ตายที่ห้องเองก่อนเสียชีวิต ไม่ติดใจในสาเหตุการตาย และไม่ต้องการให้ผ่าศพตรวจพิสูจน์
2.นายเดวิด วิลเลียม และ น.ส.ฮันน่าห์ วิคทอเรีย วิทเธอริดจ์ สัญชาติอังกฤษ คดีนี้ นายซอลิน และนายเวพิว ผู้ต้องหาสัญชาติพม่า ถูกศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ ตัดสินประหารชีวิต จำเลยไม่ฎีกา คดีถึงที่สุด
3.นายดิมิทรี พอฟว์ อายุ 28 ปี สัญชาติฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 1 ม.ค.58 เวลาประมาณ 14.00 น. พบศพผู้ตายแขวนคอกับคานบ้าน เท้าพ้นพื้น หน้าระเบียงห้องพัก มือทั้งสองข้างไขว้หลัง ลักษณะของการผูกมือไขว้หลัง ใช้ปลายเชือกทั้งสองข้างผูกกับข้อมือด้านขวาให้เชือกเหลือเป็นบ่วง บิดข้อมือเพื่อให้บ่วงเชือกพันกันลักษณะหลวมๆ ซึ่งเป็นลักษณะที่ทำเองได้ ไม่ผิดธรรมชาติ และ พบจดหมายเขียนลาตายในที่เกิดเหตุ มีผู้หญิงพยานในคดีให้การว่า ผู้ตายแอบชอบตนเองอยู่ และตนเองไม่ได้รับโทรศัพท์ของผู้ตาย จำนวน 2 สาย เนื่องจากหลับอยู่ จากการรวบรวมพยานหลักฐานยังไม่มีพยานหลักฐานใดบ่งชี้ได้ว่าถูกผู้อื่นทำให้ตาย
4.น.ส.เนสลี่ คริสตินา มาเรียน อายุ 23 ปี สัญชาติอังกฤษ เมื่อวันที่ 21 ม.ค.58 เวลาประมาณ 12.00 น. พบศพนอนเสียชีวิตในห้องพัก ไม่มีร่องรอยการต่อสู้ ผลการชันสูตรพลิกศพ สาเหตุการตายเกิดจากระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว จากการได้รับสารเสพติดร่วมกันยาบางประเภท และ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่พบร่องรอยการถูกข่มขืน ไม่พบดีเอ็นเอของบุคคลอื่นที่เล็บมือของผู้ตาย สอบพยาน และตรวจสอบกล้องวงจรปิดไม่พบบุคคลใดทำร้ายผู้ตาย และไม่มีสิ่งบ่งชี้ว่าถูกผู้อื่นทำให้ตาย
5.นายลุค มิลเลอร์ อายุ 26 ปี สัญชาติอังกฤษ เมื่อวันที่ 9 ม.ค.60 เวลาประมาณ 08.40 น.พบศพผู้ตายในสระน้ำซันเซทบาร์ มีการผ่าศพตรวจพิสูจน์ แพทย์สรุปสาเหตุการตายว่าจมน้ำ พนักงานได้สอบสวนปากคำทั้งนักท่องเที่ยว เพื่อนผู้ตาย และพนักงานในร้านกว่า 50 ปาก ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ไม่พบสิ่งบ่งชี้ว่าถูกผู้อื่นทำให้ตาย บาดแผลตามร่างกายที่ปรากฏตามรายงานแพทย์เชื่อว่ามีนักท่องเที่ยวกระโดดเล่นไดร์วิ่งบอร์ดลงมาในสระน้ำถูกผู้ตายที่เล่นน้ำอยู่ หรือผู้ตายกระโดดไดร์วิ่งบอร์ดลงมาถูกนักท่องเที่ยวที่เล่นน้ำอยู่ในสระ
เพราะมีพยานยืนยันว่า ในคืนเกิดเหตุเห็นนักท่องเที่ยวคนหนึ่งซึ่งจำไม่ได้ว่าเป็นใครกระโดดลงมาจากไดร์วิ่งบอร์ด กระแทกนักท่องเที่ยวที่เล่นน้ำอยู่ในสระ แล้วนักท่องเที่ยวที่โดนกระแทกได้ว่ายน้ำขึ้นจากสระ ส่วนคนที่กระโดดลงมาโดนคนอื่นได้จมน้ำลงไป แต่สักครู่หนึ่งก็โผล่ขึ้นมา พยานจึงไม่ได้สนใจอีก เพราะเข้าใจว่าไม่เป็นอะไรมาก
6.น.ส.วาเลนตินา โนโวเซโนวา อายุ 24 ปี สัญชาติรัสเซีย หายตัวไปจากที่พักพร้อมอุปกรณ์ดำน้ำ เมื่อวันที่ 16 ก.พ.60 เวลาประมาณ 14.00 น. ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ได้ตั้งชุดสืบสวน ร่วมกับฝ่ายปกครอง ตำรวจน้ำ และผู้ประกอบธุรกิจดำน้ำค้นหาผู้สูญหายทั้งทางบก และทางน้ำในทะเล เชื่อว่าสูญหายในขณะลงดำน้ำ เนื่องจากอุปกรณ์ดำน้ำหายไป และผู้สูญหายได้ติดต่อกับคนใกล้ชิดว่าตนเองทำลายสถิติในการดำน้ำลึกแบบไม่มีเครื่องช่วยหายใจ ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างสืบค้นหาตัวผู้สูญหาย
7.น.ส.เอลิเซ่ โซฟี วีนซีน เอ็มมานูเอล ดาเลเมกเน่ อายุ 30 ปี สัญชาติเบลเยียม เมื่อวันที่ 27 เม.ย.60 เวลาประมาณ 12.30 น. พบศพแขวนคออยู่บนต้นไม้ แพทย์ผ่าชันสูตรพลิกศพ ระบุสาเหตุการตายเกิดจากการขาดอากาศหายใจ จากการสืบสวนสอบสวนได้ความว่า เมื่อวันที่ 4 เม.ย.60 ผู้ตายพยายามจะฆ่าตัวตายเดินให้รถไฟชน แต่มีคนช่วยไว้ได้ และถูกส่งไปรักษาตัวที่สถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา กรมสุขภาพจิต
ต่อมา วันที่ 19 เม.ย.60 ผู้ตายได้ลงเรือของบริษัทเรือเร็วลมพระยา จากเกาะพะงัน ไปขึ้นที่เกาะเต่า โดยลืมกระเป๋าเดินทางแบบล้อลากสีแดง 1 ใบ ไว้ในเรือที่วิ่งไปชุมพร หลังจากนั้น ผู้ตายได้เข้าไปพักที่ทริปเปิ้ลบีบังกะโล และในคืนดังกล่าวเกิดไฟไหม้ที่พักของผู้ตาย แต่ผู้ตายวิ่งหนีออกมาได้
จนกระทั่งวันที่ 21 เม.ย.60 ผู้ตายไปที่ร้านอาหารโพเซดอน ซื้อข้าวเปล่ากิน 1 จาน และซื้อข้าวเปล่า 1 กล่อง พร้อมน้ำดื่ม 1 ขวด และซื้อตั๋วเรือ ตั๋วรถ ตั๋วแท็กซี่ เพื่อเดินทางไปกรุงเทพฯ ในวันที่ 24 เม.ย.60 จากนั้นออกจากร้านอาหารโพเซดอน เดินผ่านร้านอาหารมณฑะเล ไปทางที่เกิดเหตุ จนกระทั่งวันที่ 27 เม.ย.60 พบศพผู้ตายในลักษณะผูกคอด้วยเชือก ศพขึ้นอืด แพทย์ลงความเห็นว่าตายมาแล้วประมาณ 4-7 วัน จากการรวบรวมพยานหลักฐานมาทั้งหมด ยังไม่มีหลักฐานใดบ่งชี้ได้ว่าผู้ตายเสียชีวิตจากการกระทำของผู้อื่น