ตรัง - ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ลงพื้นที่ตรัง จี้ ตร.เร่งจับคนร้ายคดีฆ่าข่มขืนแม่ลูกอ่อน อ.รัฎษา หลังเกิดเหตุ 2 เดือน คดีไม่คืบ ขณะนี้ครอบครัวผวาหนักต้องอยู่ท่ามกลางความหวาดกลัว ชีวิตลูกน้อย 2 คน กำพร้าแม่ ภาระตกที่ยายเพียงผู้เดียว
วันนี้ (6 ก.ค.) นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.สมพงศ์ ทองใบ ผบก.ภ.จว.ตรัง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัษฎา ณ ห้องประชุม ภ.จว.ตรัง เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีฆ่าบีบคอสาวแม่ลูกสองชาวสวนยาง วัย 21 ปี แล้วทิ้งศพอำพรางคดีริมอ่างน้ำคลองไพ ม.3 ต.เขาไพร อ.รัษฎา จ.ตรัง เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 11 พฤษภาคม 2560 ที่ผ่านมา แต่คดีกลับไม่มีความคืบหน้า ทั้งที่ผ่านพ้นมานานเกือบ 2 เดือนแล้ว อีกทั้งหลังผลการตรวจทางนิติเวชก็ไม่ปรากฏพบร่องรอยถูกข่มขืน ท่ามกลางความกังขาของครอบครัว ญาติพี่น้อง ตลอดจนชาวบ้านในพื้นที่ อ.รัษฎา
ทั้งนี้ นางปวีณา ได้นำแม่ และพี่สาวของสาวแม่ลูกสอง รวมทั้งหลานวัย 2 ขวบ และ 4 ขวบ มาเข้าพบ ผบก.ภ.จว.ตรัง เพื่อทวงถามถึงความคืบหน้าของคดีนี้ด้วย เนื่องจากเป็นลักษณะของการฆาตกรรมที่โหดเหี้ยม แต่กลับไม่สามารถจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีได้ ทำให้ครอบครัวเหยื่อต้องอยู่กันอย่างหวาดผวา จนส่งผลกระทบต่อสภาพขวัญ และจิตใจ เนื่องจากไม่ทราบว่าคนฆ่าคือใคร อยู่ใกล้บ้านหรือไม่ ซึ่งจากการสอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ทราบว่า ได้มีการนำตัวผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำ ตรวจร่างกาย และดีเอ็นเอหลายคนแล้ว แต่ครอบคัวของเหยื่อก็ยังอยากให้มีการตรวจสอบผลการตรวจทางนิติเวชอย่างแน่ชัดอีกครั้ง
นางปวีณา เชื่อมั่นว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยายามเร่งดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมแล้ว เพียงแต่ทางมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ต้องการให้คดีมีความคืบหน้ามากขึ้นกว่านี้ และมีหน่วยงานเข้าไปดูแลความเป็นอยู่ครอบครัวของสาวแม่ลูกสอง เพื่อให้เกิดความสบายใจและความปลอดภัย ซึ่งกรณีนี้ส่วนหนึ่งเจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จะเข้าไปดำเนินการควบคู่กับการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัษฎา ในการจัดกำลังไปคุ้มครองครอบครัวนี้
ขณะที่แม่ของผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นยายของหลานทั้งสอง กล่าวว่า เนื่องจากพวกตนไม่มีทางเลือก จึงจำเป็นต้องเดินทางไป กทม. เพื่อร้องต่อมูลนิธิวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เพราะระยะเวลา 2 เดือนที่ผ่านมาช่างยาวนานเหมือนกับ 2 ปี และทุกคนต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างหวาดผวา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีความคืบหน้าใดๆ เรียกคนนั้นคนนี้มาสอบแล้วก็เงียบไป อย่างไรก็ตาม ล่าสุดตนและครอบครัวรู้สึกมีกำลังใจมากขึ้น และดีใจที่มูลนิธิให้ความสำคัญต่อคดีฆ่าลูกสาว ซึ่งหวังว่าทุกอย่างจะได้คลี่คลายเสียที
พล.ต.ต.สมพงษ์ ทองใบ ผบภ.ตร.จว.ตรัง กล่าว ตนได้ติดตามความคืบหน้าคดีนี้ทุกสัปดาห์ พนักงานสืบสวนสอบสวนลงพื้นที่ทำงานบูรณาการกับทุกฝ่ายที่มีประโยชน์ต่อรูปคดี และจากตรวจสอบพบว่า การทำงานติดตามคนร้ายมาถูกทางแล้ว แต่ต้องมีความรัดกุมรอบคอบทุกขั้นตอน ที่อาจมองว่าล่าช้าเนื่องจากคดีนี้มีพยานหลักฐานน้อยมาก แต่คดีมีความคืบหน้าไปมากแล้ว โดยหลังเกิดเหตุได้มีการสอบสวนพยาน และผู้ที่ใกล้ชิดไปแล้ว จำนวน 32 ปาก มีการส่งตัวผู้ต้องสงสัยชุดแรก 16 คน ทางพิสูจน์หลักฐานตรัง และโรงพยาบาลศูนย์ตรัง ได้เก็บตัวอย่าง DNA ส่วนผู้ต้องสงสัยชุดที่ 2 จำนวน 14 คน มีการส่งตรวจร่างกาย และ DNAไปแล้วเช่นกัน ซึ่งคาดว่าจะสามารถติดตามตัวคนร้ายตัวจริงมาดำเนินคดีได้ในที่สุด
