นครศรีธรรมราช - ถก 4 ชม.รวดปัญหาต่อเติมศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช ท้ายสุดจบแก้ไข 12 เสาหินอ่อนเป็นรูป 12 นักกษัตร เตรียมบวงสรวงครั้งใหญ่ ส่วนการฟ้องคดีต่อศาลปกครองให้เป็นไปตามอำนาจศาล
วันนี้ (6 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า ปัญหาการบูรณะต่อเติมศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช ล่าสุด นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช และนายสกล จันทรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด ได้เชิญเทศบาลนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช นายสัมพันธ์ ทองสมัคร อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ คณะผู้ร้องเรียนให้มีการแก้ไขการบูรณะ ที่กลายเป็นการต่อเติม รวมทั้งฝ่ายผู้ทำการบูรณะ
โดยช่วงเช้าที่ประชุมได้ถกเถียงถึงปัญหา และที่มาในการบูรณะถึง 3 ชม. แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป กระทั่งมีการสรุปเบื้องต้น นายจำเริญ ได้เชิญผู้เกี่ยวข้องไปร่วมรับประทานอาหารด้วยกัน เพื่อหาข้อสรุปในเรื่องนี้กันต่ออีกกว่า 1 ชั่วโมง หลังจากนั้น นายสกล จันทรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้นำคณะทั้งหมดเข้ามาเปิดแถลงผลการหารือแนวทางแก้ไขเพื่อให้สอดรับต่อความตั้งใจของทุกฝ่าย
นายสัมพันธ์ ทองสมัคร อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า การดำเนินการบูรณะศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราชในครั้งนี้ยังมีการประกอบพิธีกรรมไม่ถูกต้องครบถ้วน และเชื่อว่าความไม่เข้าใจ ความกังวลใจที่เกิดขึ้นจะจบลงด้วยดีเมื่อมีการประกอบพิธีบวงสรวงครบถ้วนตามประเพณีโบราณ จึงได้มอบหมายให้ นายฉันทิพย์ ราชเดช บุตรชายคนโตของขุนพันธ์รักษ์ราชเดช เป็นผู้ดำเนินการด้านพิธีกรรมทั้งหมด
ส่วนจะมีการประกอบพิธีกรรมในวันไหนนั้นจะต้องดูฤกษ์ยามจากดวงของเจ้าเมือง การประกอบพิธีจะเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าร่วมอย่างทั่วถึง ในส่วนของการต่อเติม และปรับเปลี่ยนรูปแบบศาลหลักเมือง โดยการปรับเปลี่ยนเสา 12 ต้นนั้น เป็น “เสามหาราช” โดยจะดัดแปลงด้วยการแกะสลักรูป 12 นักษัตรเรียงจนครบทั้ง 12 ต้น เพื่อไม่ให้เป็นเสาค้ำดวงของใคร และจะต้องทำการบวงสรวงขอขมาครั้งใหญ่อีกครั้ง เพื่อให้ผู้ที่มีเจตนาเป็นอย่างอื่นต้องมีอันเสื่อมไป
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาการดำเนินการมีข้อจำกัดด้านงบประมาณ แม้ว่าศาลหลักเมืองนครจะมีความสวยงาม น่าเคารพสักการะ แต่เมื่อมีผู้มีจิตศรัทธาประสงค์จะบริจาคเงินเพื่อให้การก่อสร้างมีความสมบูรณ์ตามรูปแบบแท้จริง จึงเป็นการสานต่อศรัทธาของคณะผู้ก่อสร้างศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช พร้อมกับการบูรณะซ่อมแซมในส่วนที่ได้เกิดความชำรุดเสียหายตามระยะเวลา เพื่อให้ศาลหลักเมืองเป็นสถานที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของพี่น้องชาวนครศรีธรรมราช
นายสายัณห์ ยุติธรรม อดีตประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช ผู้ฟ้องคดีต่อศาลปกครองนครศรีธรรมราช ให้ระงับการก่อสร้างไว้ก่อนเพื่อให้มีการตรวจสอบแบบให้มีความชัดเจน ระบุในส่วนของข้อสรุปเวทีประชุมนั้นเป็นเรื่องหนึ่งเท่านั้น ส่วนเรื่องคดีนั้นขอให้เป็นไปตามการวินิจฉัยของศาลปกครอง และยืนยันว่าจะไม่มีการถอนฟ้องคดี