นราธิวาส - พลังมวลชนนราธิวาสกว่า 3,000 คน ร่วมเผาทำลายยาเสพติด พร้อมประกาศเจตนารมณ์ต่อต้านยาเสพติด เนื่องในวันต่อต้านยาเสพติดโลก
วันนี้ (5 ก.ค.) บริเวณหาดนราทัศน์ เขตเทศบาลเมืองนราธิวาส นายสุรพร พร้อมมูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พร้อมด้วย นายธรรมรงค์ คงวัดใหม่ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ร่วมเป็นประธานเปิดงานรณรงค์ประชาสัมพันธ์เนื่องในวันต่อต้านยาเสพติดโลก ประจำปี 2560 โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ กลุ่มพลังมวลชน นักเรียน นักศึกษากว่า 3,000 คน เข้าร่วมกิจกรรม
ซึ่งนอกจากกิจกรรมในครั้งนี้จัดขึ้นเนื่องในวันต่อต้านยาเสพติดโลก 26 มิถุนายน แล้วยังเป็นการจัดขึ้นเพื่อถวายราชสักการะ และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยเป็นล้นพ้น ในด้านการแก้ไขปัญหายาเสพติดตามแนวทางศาสตร์พระราชา “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” และเพื่อแสดงเจตนารมณ์ร่วมต่อต้านยาเสพติดภายใต้แผน “ประชารัฐร่วมใจ สร้างหมู่บ้านชุมชนมั่นคง ปลอดภัยยาเสพติด” ภายใต้แนวคิด “ทำดีเพื่อพ่อ สานต่อแก้ปัญหายาเสพติด”
อย่างไรก็ตาม ในกิจกรรมที่จัดขึ้นครั้งนี้ นายสุรพร พร้อมมูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ได้อ่านคำปราศรัยของนายกรัฐมนตรี และมอบโล่ประกาศเกียรติคุณแก่หน่วยงาน และผู้ที่มีผลผลงานด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด พร้อมร่วมชมการแสดงจากชมรม To Be Number One การแสดงลิเกฮูลู ของเยาวชนสมาคมป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดจังหวัดชายแดนภาคใต้แล้ว
รวมถึงได้ร่วมกันเผาทำลายยาเสพติของกลางที่คดีถึงที่สุดแล้ว เช่น ยาแก้ไอที่มีส่วนผสมโคเดอีน รวม 6,371 ขวด 620 ซีซี กัญชา น้ำหนักรวมกว่า 157 กิโลกรัม พืชกระท่อม น้ำหนักรวมกว่า 8,200 กิโลกรัม และปล่อยขบวนรถจักรยาน และขบวนรณรงค์ต่อต้านยาเสพติด เพื่อร่วมรณรงค์ไปตามเส้นทางถนนเขตเทศบาลเมืองนราธิวาส
นายสุรพร พร้อมมูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวถึงสถานการณ์ยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ว่า สถานการณ์ในภาพรวมของจังหวัดนราธิวาสนั้นยังถือว่าเป็นพื้นที่ที่มีการระบาดของยาเสพติดอยู่ โดยเฉพาะพื้นที่ตามแนวตะเข็บชายแดน อ.ตากใบ อ.สุไหงโก-ลก และ อ.แว้ง ซึ่งมีการขนยาเสพติดไปยังประเทศเพื่อนบ้าน จากนั้นกลับมาขายในพื้นที่ แต่อย่างไรก็ตาม จังหวัดนราธิวาสนั้นยังมุ่งเน้นที่จะดำเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยได้กำหนดแผนการแก้ไขปัญหาออกเป็น 4 ด้าน ได้แก่ ด้านการป้องกัน ด้านการปราบปราม ด้านการบำบัดฟื้นฟู และด้านบริหารจัดการ โดยได้ดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้นำศาสนา
รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ได้กล่าวอีกด้วยว่า ที่ผ่านมา ทางจังหวัดนราธิวาสได้เน้นย้ำเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่ให้เข้าไปเกี่ยวข้องต่อยาเสพติด ซึ่งหากทราบ หรือพบหลักฐานก็จะมีการดำเนินการทางวินัย โดยที่ผ่านมา มีการดำเนินการในส่วนของเจ้าหน้าที่ภาครัฐแล้ว 28 ราย