xs
xsm
sm
md
lg

ธุรกิจซิปไลน์หนาว! กรมป่าไม้เข้ม อธิบดีนำทีมชุดพยัคฆ์ไพร ลงพื้นที่ จ.ภูเก็ต ลุยตรวจเอง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - กรมป่าไม้ตรวจเข้ม อธิบดีนำทีมชุดพยัคฆ์ไพร ลงพื้นที่ จ.ภูเก็ต ตรวจสอบธุรกิจซิปไลน์ รุกเขตป่าสงวนแห่งชาติ พบมีการกระทำผิด เจ้าของอ้างเช่าที่ดินดำเนินกิจการ



วันนี้ (3 ก.ค.) เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำโดย นายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ พร้อมด้วย นายอรรถพล เจริญชันษา รองอธิบดีกรมป่าไม้ นายชีวะภาพ ชีวะธรรม หัวหน้าชุดพยัคฆ์ไพร พ.ท.สุรศักดิ์ พึ่งแย้ม รอง ผบ.ร.25 พัน 2 คณะทำงานรักษาความสงบเรียบร้อย ชุดเฉพาะกิจ มทบ.44 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ดำเนินการลงพื้นที่ตรวจสอบการก่อสร้างเครื่องเล่นซิปไลน์ ที่ผิดกฎหมายในเขตป่าสงวนแห่งชาติทั่วประเทศ

ภายหลังได้รับการร้องเรียน จากกรณีนักท่องเที่ยวเสียชีวิตจากการเข้าไปใช้เครื่องเล่นดังกล่าวในจังหวัดเชียงใหม่ กรมป่าไม้ จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการตรวจสอบการดำเนินธุรกิจเครื่องเล่นซิปไลน์ทั่วประเทศ ซึ่งตรวจพบ และดำเนินคดีต่อผู้ประกอบการไปแล้ว จำนวน 7 ราย ได้แก่ จังหวัดระยอง 1 แห่ง ได้ดำเนินการรื้อถอนแล้ว จังหวัดเชียงใหม่ 6 ราย ดำเนินการรื้อถอนไปแล้ว จำนวน 2 ราย อีก 1 ราย อยู่ระหว่างการติดประกาศ ตามมาตรา 25

สำหรับในจังหวัดภูเก็ต เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบในเขตป่าสงวนแห่งชาติในเขตจังหวัดภูเก็ต เบื้องต้น พบการทำธุรกิจซิปไลน์ จำนวน 4 ราย 1 ราย อยู่ในพื้นที่กันออกจากป่าสงวนแห่งชาติ เป็นพื้นที่ ส.ป.ก. และอีก 3 ราย น่าจะผิดกฎหมายซึ่งจะมีการเข้าตรวจสอบดำเนินคดีในปฏิบัติการครั้งนี้

ทั้งนี้ เมื่อเวลา 15.00 น.วันนี้ (3 ก.ค.) อธิบดีกรมป่าไม้ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบการก่อสร้างเครื่องแล่นซิปไลน์ บนเทือกเขากมลา ซอยน้ำตกกะทู้ ต.กะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นการดำเนินการตรวจสอบการก่อสร้างเครื่องเล่นซิปไลน์ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติทั่วประเทศ

โดยมี นายสุสรัญ โต๊ะพาน แสดงตัวเป็นเจ้าของเครื่องเล่นซิปไลน์ บนเทือกเขากมลาดังกล่าว และให้รายละเอียดการเข้าใช้พื้นที่ที่ใช้ประกอบการ โดยเช่าที่ดินจากผู้ถือครองเอกสารสิทธิ ส.ค.1 โดยจ่ายค่าเช่าเดือนละ 120,000 บาท และยินดีที่จะรื้อถอนถ้าไม่ถูกต้อง

ขณะที่ นายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวถึงการลงพื้นที่ตรวจสอบการก่อสร้างเครื่องเล่นซิปไลน์ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ว่า สืบเนื่องจากมีการใช้ประโยชน์จากธุรกิจซิปไลน์ในหลายพื้นที่ ซึ่งอยู่ในความดูแลของกรมป่าไม้ ไม่ว่าจะเป็นที่ จ.เชียงใหม่ ระยอง ที่ภูเก็ตก็เป็นสถานที่แห่งหนึ่งที่ทราบมาว่ามีการก่อสร้างเครื่องเล่นซิปไลน์ ซึ่งได้รับข้อมูลในเบื้องต้นว่า ประชาชนผู้เป็นเจ้าของเครื่องเล่นดังกล่าวไม่มีเอกสารสิทธิในที่ดิน ตรงส่วนนี้ทางกรมป่าไม้จะต้องตรวจสอบ และดำเนินคดีต่อไป

“กรณีรายนี้อ้างว่ามี ส.ค.1 ซึ่งออกมาตั้งแต่ปี 96 มีเนื้อที่ประมาณ 4 ไร่เศษ แต่จากการตรวจสอบพบว่า เข้าทำประโยชน์ มีพื้นที่กว่า 30 ไร่ ก็จะต้องตรวจสอบต่อไป เพื่อให้ความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย และจากข้อมูลในการรายงานของเจ้าหน้าที่ป่าไม้

ส่วนเรื่องของเอกสารสิทธิที่ดินแปลงนี้ ทราบว่า รายนี้เคยมีการขอออกเอกสารสิทธิ แต่ขั้นตอนการออกเอกสารสิทธิ โดยเฉพาะในเรื่องของกระบวนการทางกฎกระทรวง ฉบับที่ 43 จะต้องมีการลงนามรับรองของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ กรณีนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่มีการลงนาม จึงมีความสงสัยและอยู่ระหว่างให้คณะกรรมการป้องกันการบุกรุกของจังหวัดตรวจสอบเพื่อแปรภาพถ่ายทางอากาศอีกครั้ง

นายชลธิศ กล่าวต่อไป โดยข้อเท็จจริงในพื้นที่ป่าไม้ซึ่งเป็นที่ดินของรัฐ การเข้าใช้ประโยชน์ใดๆ ต้องขออนุญาต เพราะฉะนั้น ถ้าใครเข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของรัฐ แต่ไม่มีการขออนุญาตก็จะเป็นความผิดทุกฐาน ไม่ว่าจะเป็นการใช้ตัดถนน หรือสิ่งก่อสร้างใดๆ กรณีของซิปไลน์ แม้ว่าจะไม่มีการตัดต้นไม้ แต่เป็นการเข้าไปใช้ประโยชน์ที่แสวงหาผลประโยชน์โดยส่วนตน ก็ต้องมีการตรวจสอบเพื่อดำเนินคดี ซึ่งทางกรมป่าไม้ จะทำการรวบรวมพยานหลักฐานส่งให้พนักงานสอบสวนต่อไป

ในส่วนของการดำเนินคดี ก็จะมีทั้งในความผิดทางแพ่ง และอาญา อ้างว่ามีการเช่าต่อมาอีกทีหนึ่ง ซึ่งมีหลักฐานการเช่ามาจากที่ดินที่มี ส.ค.1 ทางกรมป่าไม้ ก็ต้องคุยกับทางกรมที่ดินอีกครั้งว่า ส.ค.1 ที่ออกจะดำเนินการต่อไปอย่างไร ขั้นตอนแรกต้องตรวจสอบก่อนว่าเอกสารสิทธิออกโดยชอบหรือไม่ ถ้าออกโดยมิชอบ ก็ต้องไปดูต่อไปว่า เมื่อออกโดยมิชอบ ยังมีการให้เช่าต่อไป เป็นเรื่องของเจตนาหรือไม่เจตนาก็คงจะต้องตรวจสอบในชั้นรายละเอียดต่อไป ขณะที่ผู้เช่ามีเจตนาที่รู้เห็นเป็นใจต่อเจ้าของเอกสารสิทธิหรือไม่ ซึ่งพนักงานสอบวนก็จะมีการพิจารณาในรายละเอียดต่อไป

อย่างไรก็ตาม อธิบดีกรมป่าไม้ ได้ฝากถึงผู้ประกอบการโดยเฉพาะที่เกี่ยวกับธุรกิจเครื่องเล่นซิปไลน์ ซึ่งวันนี้มีการแพร่กระจายไปในหลายที่ เราตรวจสอบแล้ว พบว่า บางแห่งมีความน่าเชื่อได้ว่าเอกสารสิทธิอาจจะไม่ชอบ หรืออาจจะมีเอกสารสิทธิบางส่วน และอาจมีการใช้ประโยชน์เอกสารสิทธิ

ดังนั้น ขอฝากเตือนผู้ประกอบการก่อนจะดำเนินการขอให้มีการตรวจสอบก่อน เพราะจริงๆ แล้วเจ้าหน้าที่รัฐพร้อมจะให้การสนับสนุน สามารถที่จะติดต่อทางเจ้าหน้าที่ ไม่ว่าเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ กรมที่ดิน หรือกรมปกครอง ได้ว่าเอกสารเหล่านี้มีความน่าชื่อถือมากน้อยเพียงใด ก่อนที่จะลงทุนดำเนินธุรกิจ เพราะว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐสามารถที่จะตรวจสอบสืบค้นข้อมูลได้เพื่อให้แน่ใจว่าที่ดินเหล่านี้มีความเป็นมาอย่างไร
กำลังโหลดความคิดเห็น