ยะลา - ไปดูเป็นอุทาหรณ์เตือนใจ! โจรชั่วไม่ละอายต่อบาป ลงมือก่อเหตุขโมยโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหาย ขณะร่วมพิธีละหมาดในมัสยิดแห่งหนึ่งใน อ.บันนังสตา จ.ยะลา โดยภาพวงจรปิดบันทึกพฤติกรรมเอาไว้ได้ชัด
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 2 กรกฎาคม 2560 ที่ผ่านมา เวลาประมานเที่ยงคืน โดยเฟซบุ๊กของคุณเอ (ขอสงวนนาม) ได้โพสต์คลิปวิดีโอเตือนภัยถึงพฤติกรรมของหัวขโมยรายหนึ่ง โดยมีข้อความระบุว่า
“มีผู้ชายคนหนึ่ง ตั้งใจเข้ามาในมัสยิด เพื่อมาย่องแหวกม่านดูฝั่งผู้หญิงก่อน พอเห็นว่าไม่มีอะไร ก็กวาดสายตามาทางฝั่งผู้ชาย จนพบเป้าหมาย ก็เดินเข้ามานั่งอยู่ห่างๆ แล้วมองซ้ายมองขวา ลุกขึ้น และค่อยๆ เลื่อนเข้ามานั่งข้างหลังเหยื่อ รอจังหวะเหยื่อทำพิธีละหมาด ก็ใช้มื้อลอดใต้หว่างขา หยิบโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหาย แล้ววิ่งออกทางประตูมัสยิดไปอย่างรวดเร็ว โดยที่ไม่คิดว่าจะมีคนสังเกตอาการของตนเอง จนขี่มอเตอร์ไซค์ออกกลับบ้านไป (ดีที่ไม่เอากุญแจรถยนต์รถฉันไปด้วย) พยานบุคคลก็ต่างอาสาพาพ่อไป และอาสาไปกับพ่อ ตามไปขอพบถึงที่บ้าน ขออนุญาต ขอโทษ พูดดีอธิบายทุกอย่าง จะไม่เอาความอะไรใดๆ ทั้งสิ้น ถ้าคืนโทรศัพท์มาให้และยอมรับ สุดท้ายแม่เค้าเองต้องเค้นถาม ในที่สุดก็ไม่ยอมรับ ตีหน้าซื่อย้อนกลับมาอีกว่า “มั่วรึป่าว หลงรึป่าว ผิดคนแล้ว ไม่เคยเล่นอะไรแบบนั้นเลย” ใช่ค่ะ ดิฉันตัดสินใจพาพ่อไปขออนุญาตโต๊ะอิหม่าม เพื่อขอเปิดดูกล้องวงจรปิดภายในของมัสยิด และทำการบันทึกทั้งภาพ และวิดีโอพร้อมเวลาปัจจุบัน ณ ขณะนั้นไว้ทั้งหมดเรียบร้อย คุณไม่เล่นอะไรแบบนั้นจริงๆ ด้วยค่ะ แต่คุณตั้งใจที่จะลงมือขโมยของคนอื่น ที่ไม่ใช่ของคุณเองภายในบ้านของพระเจ้าบนพื้นพิภพแห่งนี้ ชัดเจนมากๆ ค่ะ ขอให้อัลลอฮเปิดใจเค้าไวๆ เนอะ กลับใจซะเถอะคะ พรุ่งนี้โอกาสดีๆ ของคุณรออยู่นะคะ ขอให้คุณโชคดี”
จนเช้าวันจันทร์ ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปทางเจ้าของเฟซบุ๊กเพื่อสอบถามรายละเอียดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งผู้ที่โพสต์นั้นเป็นลูกของผู้เสียหาย จึงได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 กรกฎคม 2560 เวลาประมาณ 16.00 น. พ่อของตนได้ไปละหมาดในมัสยิดกลางอิสลามเมียะห์ อ.บันนังสตา จ.ยะลา ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามกับสถานีตำรวจภูธรบันนังสตา ห่างกันเพียง 30 เมตร โดยขณะที่กำลังละหมาดอยู่นั้น โทรศัพท์มือถือที่วางอยู่ได้หายไป จึงได้ไปสถานีตำรวจเพื่อลงบันทึกประจำวัน ก่อนที่จะย้อนกลับมาที่มัสยิดเพื่อขออนุญาตอิหม่ามดูภาพจากกล้องวงจรปิด จึงได้เห็นผู้ชายผิวคล้ำ สูงประมาณ 170 เซนติเมตร สวมเสื้อสีน้ำเงิน อายุประมาน 25-30 ปี เดินเข้ามานั่งข้างหลังของผู้เสียหาย ก่อนอาศัยจังหวะที่กำลังละหมาดรีบก้มหยิบมือถือ และวิ่งออกจากมัสยิดอย่างรวดเร็วไปสตาร์ทจักรยานยนต์สีชมพูขับขี่ออกไป
หลังจากนั้น จึงได้สอบถามชาวบ้านในละแวกมัสยิด ถึงลักษณะผู้ก่อเหตุ และรถจักรยานยนต์ ซึ่งมีจุดเด่นสีชมพู และน่าจะมีไม่กี่คันในอำเภอ จนในที่สุดมีคนจำได้ว่าเป็น อดีต อส.ในอำเภอบันนังสตา จึงได้นำไปที่บ้าน จนพบผู้ต้องสงสัยซึ่งอยู่กับพ่อแม่ โดยผู้เสียหายได้พูดขอร้องขอโทรศัพท์คืน และพร้อมที่จะให้เงินเพื่อแลกกับโทรศัพท์ แต่ก็ถูกปฏิเสธว่าไม่มี ไม่ได้เอา และไม่รู้เรื่องดังกล่าว จนต้องมีการเปิดคลิปภาพวงจรปิดให้พ่อแม่ของผู้ต้องสงสัยดู เมื่อจำนนด้วยหลักฐาน สุดท้ายแม่ของชายคนดังกล่าวจึงได้นำโทรศัพท์มาคืนให้ โดยผู้เสียหายไม่ได้ติดใจเอาความ เพียงแค่ลงบันทึกประจำวันไว้เท่านั้น
ซึ่งเจ้าของโพสต์ยังบอกอีกว่า อยากให้เป็นอุทาหรณ์ ขนาดที่มัสยิดซึ่งเป็นสถานที่ทางศาสนา ก็ยังมีการลักขโมย ไม่ได้เกรงกลัวต่อบาปที่เกิดขึ้น ดังนั้น ไม่ว่าที่ไหนก็ควรต้องระมัดระวังตัวให้มากขึ้น
