สุราษฎร์ธานี - รอง ผบช.ภ.8 ระบุ สาวเบลเยียมเสียชีวิตบนเกาะเต่า เคยเข้าร่วมลัทธิ “สัตยา ไสบาบา” สอนเกี่ยวกับโลกหลังความตาย การสะกดจิต ตำรวจ สภ.เกาะพะงัน ลงพื้นที่หาตัวหนุ่มเยอรมันผู้คลั่งลัทธิ แต่ไร้วี่แวว ทราบเพียงเดินทางไปอินเดียเมื่อ 2 เดือนก่อน
วันนี้ (2 ก.ค.) พล.ต.ต.ชลิต ถิ่นธานี รอง ผบช.ภ.8 ลงพื้นที่เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสือบสวน ตำรวจภูธรภาค 8 เพื่อติดตามความคืบหน้าคดี และคลี่คลายคดี น.ส.เอลิส ดัลเลอมาเน อายุ 30 ปี สัญชาติเบลเยียม ที่เสียชีวิตบนเกาะเต่า และพบศพเมื่อวันที่ 27 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งตำรวจระบุสาเหตุการเยชีวิตเกิดจากผูกคอตาย
ต่อมา ได้มีสื่อออนไลน์ สมุยไทม์ และเฟซบุ๊ก เพจ CSI LAได้นำเสนอข่าวว่าการเสียชีวิตของ น.ส.เอลิส น่าจะเป็นการเสียชีวิตที่มีพิรุธ เช่นเดียวกับทางนางมิเชล ฟาน เอทเทน มารดาของผู้ตาย ที่ไม่เชื่อว่าลูกสาวเสียชีวิตเนื่องจากการผูกคอตาย
โดย พล.ต.ต.ชลิต กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบพยานหลักฐาน และพยานแวดล้อม พยานบุคคล และสถานที่เกิดเหตุยังไม่พบข้อบ่งชี้ว่าการเสียชีวิตของ น.ส.เอลิส จะเป็นเรื่องของการฆาตกรรม แต่ได้เร่งรัดชุดสืบสวน ภ.จว.สุราษฎร์ธานี หาพยานหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุการตายของนักท่องเที่ยวรายดังกล่าวโดยเร็วที่สุด ซึ่งจะตอบคำถามสังคม และมารดาของผู้เสียชีวิตได้ดีที่สุด
จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า ก่อนที่ น.ส.เอลิส จะเสียชีวิตเคยเข้าร่วมกลุ่มลัทธิสัตยา ไสบาบาด้วย ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบว่า นายรามัน อันเดรียส สัญชาติเยอรมัน ผู้คลั่งไคล้ลัทธิสัตยา ไสบาบา เป็นแกนนำ ซึ่งลัทธิสัตยา ไสบาบา เป็นลัทธิหนึ่งของอินเดีย ที่มีคำสอนเกี่ยวกับโลกหลังความตาย การสะกดจิต และการรักษาโรคโดยใช้จิต
ขณะนี้ได้มีการประสานยังกับตำรวจกองปราบปราม ตำรวจสันติบาล ตำรวจท่องเที่ยว และตรวจคนเข้าเมือง เร่งติดตามตัว นายรามัน อันเดรียส ซึ่งจากการสืบสวนทราบว่า พักอยู่ที่อ่าวศรีธนู บนเกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี หากเราพบตัว นายรามัน อาจจะทำให้ทราบถึงสาเหตุการเสียชีวิต ของ น.ส.เอลิส ดัลเลอมาเน ได้
ด้าน พ.ต.อ.สมชาย นพศรี ผกก.สภ.เกาะพะงัน ได้สั่งการให้ตำรวจชุดสืบสวนเข้าตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 22 ม.5 ต.เกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นบ้านที่ นายรามัน สัญชาติเยอรมัน เปิดเป็นที่ตั้งลัทธิ สัตยา ไสบาบา จากการตรวจสอบไม่พบตัว นายรามัน พบเพียงสมาชิกของลัทธิสัตยา ไสบาบา ที่เป็นชาวต่างชาติอยู่ในบ้าน 2 คน ชื่อว่า MR.NAVED ALI และ MISS NIRU SAI
จากการสอบถามทราบว่า นายรามัน ได้เดินทางออกจากประเทศไทย ไปที่ประเทศอินเดีย เมื่อประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา และก็จะเดินทางไปยังประเทศศรีลังกา แต่ไม่ทราบว่าจะเดินทางกลับมาประเทศไทยเมื่อไร
ผู้สื่อข่าวรายงานอีก ว่า เฟซบุ๊กของนายรามัน ที่ใช้ชื่อว่า RAAMAN ANDREAS ได้เผยแพร่ข้อมูลเฉพาะของปี พ.ศ.2557 อัปเดตภาพหน้าปกในวันที่ 21 ก.ค.2559 และมีแชร์คลิปวิดีโอในวันที่ 4 มี.ค.60 เท่านั้น และไม่พบรายชื่อเพื่อนในเฟซบุ๊ก ซึ่งคาดว่าจะมีการปิดกั้นบุคคลภายนอกที่จะเข้าไปชม
วันนี้ (2 ก.ค.) พล.ต.ต.ชลิต ถิ่นธานี รอง ผบช.ภ.8 ลงพื้นที่เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสือบสวน ตำรวจภูธรภาค 8 เพื่อติดตามความคืบหน้าคดี และคลี่คลายคดี น.ส.เอลิส ดัลเลอมาเน อายุ 30 ปี สัญชาติเบลเยียม ที่เสียชีวิตบนเกาะเต่า และพบศพเมื่อวันที่ 27 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งตำรวจระบุสาเหตุการเยชีวิตเกิดจากผูกคอตาย
ต่อมา ได้มีสื่อออนไลน์ สมุยไทม์ และเฟซบุ๊ก เพจ CSI LAได้นำเสนอข่าวว่าการเสียชีวิตของ น.ส.เอลิส น่าจะเป็นการเสียชีวิตที่มีพิรุธ เช่นเดียวกับทางนางมิเชล ฟาน เอทเทน มารดาของผู้ตาย ที่ไม่เชื่อว่าลูกสาวเสียชีวิตเนื่องจากการผูกคอตาย
โดย พล.ต.ต.ชลิต กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบพยานหลักฐาน และพยานแวดล้อม พยานบุคคล และสถานที่เกิดเหตุยังไม่พบข้อบ่งชี้ว่าการเสียชีวิตของ น.ส.เอลิส จะเป็นเรื่องของการฆาตกรรม แต่ได้เร่งรัดชุดสืบสวน ภ.จว.สุราษฎร์ธานี หาพยานหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุการตายของนักท่องเที่ยวรายดังกล่าวโดยเร็วที่สุด ซึ่งจะตอบคำถามสังคม และมารดาของผู้เสียชีวิตได้ดีที่สุด
จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า ก่อนที่ น.ส.เอลิส จะเสียชีวิตเคยเข้าร่วมกลุ่มลัทธิสัตยา ไสบาบาด้วย ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบว่า นายรามัน อันเดรียส สัญชาติเยอรมัน ผู้คลั่งไคล้ลัทธิสัตยา ไสบาบา เป็นแกนนำ ซึ่งลัทธิสัตยา ไสบาบา เป็นลัทธิหนึ่งของอินเดีย ที่มีคำสอนเกี่ยวกับโลกหลังความตาย การสะกดจิต และการรักษาโรคโดยใช้จิต
ขณะนี้ได้มีการประสานยังกับตำรวจกองปราบปราม ตำรวจสันติบาล ตำรวจท่องเที่ยว และตรวจคนเข้าเมือง เร่งติดตามตัว นายรามัน อันเดรียส ซึ่งจากการสืบสวนทราบว่า พักอยู่ที่อ่าวศรีธนู บนเกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี หากเราพบตัว นายรามัน อาจจะทำให้ทราบถึงสาเหตุการเสียชีวิต ของ น.ส.เอลิส ดัลเลอมาเน ได้
ด้าน พ.ต.อ.สมชาย นพศรี ผกก.สภ.เกาะพะงัน ได้สั่งการให้ตำรวจชุดสืบสวนเข้าตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 22 ม.5 ต.เกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นบ้านที่ นายรามัน สัญชาติเยอรมัน เปิดเป็นที่ตั้งลัทธิ สัตยา ไสบาบา จากการตรวจสอบไม่พบตัว นายรามัน พบเพียงสมาชิกของลัทธิสัตยา ไสบาบา ที่เป็นชาวต่างชาติอยู่ในบ้าน 2 คน ชื่อว่า MR.NAVED ALI และ MISS NIRU SAI
จากการสอบถามทราบว่า นายรามัน ได้เดินทางออกจากประเทศไทย ไปที่ประเทศอินเดีย เมื่อประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา และก็จะเดินทางไปยังประเทศศรีลังกา แต่ไม่ทราบว่าจะเดินทางกลับมาประเทศไทยเมื่อไร
ผู้สื่อข่าวรายงานอีก ว่า เฟซบุ๊กของนายรามัน ที่ใช้ชื่อว่า RAAMAN ANDREAS ได้เผยแพร่ข้อมูลเฉพาะของปี พ.ศ.2557 อัปเดตภาพหน้าปกในวันที่ 21 ก.ค.2559 และมีแชร์คลิปวิดีโอในวันที่ 4 มี.ค.60 เท่านั้น และไม่พบรายชื่อเพื่อนในเฟซบุ๊ก ซึ่งคาดว่าจะมีการปิดกั้นบุคคลภายนอกที่จะเข้าไปชม
