กระบี่ - ผู้ใหญ่บ้านที่กระบี่ ข้องใจกร่างตรงไหน หลัง ตร.ทางหลวง ส.ทล.1 กก.7 บก.ทล. (พังงา, ภูเก็ต, กระบี่) จับกุมอาวุธปืน อ้างอยู่ในขณะปฎิบัติหน้าที่ตามหาวัวหายให้ลูกบ้าน งง! หลังถูกจับยังให้ข่าวว่าเป็นผู้มีอิทธิพล นำชายฉกรรจ์ 10 คน ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ยืนยันไม่มีแน่นอน
นายมานิตย์ บรรพบุตร อายุ 52 ปี ผู้ใหญ่บ้าน ม.2 ต.นาเหนือ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ กล่าวถึงกรณีมีสื่อบางฉบับลงข่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์เจ้าตำรวจทางหลวง ส.ทล.1 กก.7 บก.ทล. (พังงา, ภูเก็ต, กระบี่) จับกุมผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ จ.กระบี่ พกพาอาวุธปืน และมีสื่อบางสื่อจนมีข่าวออกไปทางสื่อโซเชียล บางสื่อมีการระบุว่า ผู้ใหญ่บ้านทำตัวเป็นผู้มิอิทธิพล กร่าง แต่ไม่ออกชื่อว่าผู้ใหญ่บ้านชื่ออะไร
สำหรับผู้ใหญ่บ้านที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.1 กก.7 บก.ทล. (พังงา, ภูเก็ต, กระบี่) จับกุมอาวุธปืนดังกล่าว ก็คือตนเอง โดยในวันเกิดเหตุเวลาประมาณ 10.00 น.ของวันที่ 20 มิ.ย.ขณะตนได้ออกปฎิบัติหน้าที่ตามหาวัวให้ลูกบ้าน หลังจากที่ลูกบ้านมาแจ้งว่าวัวที่เลี้ยงไว้หายไป
แต่ขณะที่ขับรถมาบนถนนสายดังกล่าว ก็พบกับด่านตรวจของตำรวจทางหลวง พร้อมกับได้ขอตรวจค้น และเจอปืนขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุน 6 นัด วางอยู่ในรถ ซึ่งตนก็ได้แจ้งว่าตนเป็นผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่นี้ กำลังออกปฏิบัติหน้าที่เช่นเดียวกัน
แต่หลังจากเจรจากันอยู่นาน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงชุดจับกุมไม่ยอม โดยบอกว่าตนไม่มีใบพกพาอาวุธปืนมาแสดง และได้ลงบันทึกจับกุม พร้อมนำตนส่งพนักงานสอบสวน สภ.อ่าวลึก ดำเนินคดี ข้อหาพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ซึ่งตนก็ไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใด และต่อมา ได้อ่านเจอข่าวจากสื่อบางฉบับ ทำให้ตนถึงกับนอนไม่หลับ และเป็นกังวลอย่างมาก เพราะข้อมูลผิดเพี้ยนไปจากข้อเท็จจริงหลายประเด็น
โดยเฉพาะประเด็นที่กล่าวหาว่า มีชายฉกรรจ์จำนวนประมาณ 10 คน ไปรอที่ทำการพนักงานสอบสวน คล้ายกับไปกดดัน ข่มขู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ซึ่งตนยืนยันว่าไม่มี คนที่ไปก็คือ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ได้เอาเอกสารสำคัญไปให้ตน และคนที่รู้จักกัน รวม 2-3 คนเท่านั้น
นอกจากนี้ ตำรวจทางหลวง ยังให้ข่าวว่า ตนจะพาเจ้าหน้าที่ไปจับตำรวจทางหลวงบ้าง ขอยืนยันว่าตนไม่ได้พูด แต่ที่พูดก็คือ ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงมาเข้าประชุมร่วมกับชาวบ้านบ้าง เพราะเห็นว่าต่างคนต่างทำหน้าที่ ยืนยันว่าไม่มีการข่มขู่ใดๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง และตนเคารพกฎหมาย แต่ตนไม่เข้าใจว่าทำไมตำรวจทางหลวง จึงไปให้ข่าวลักษณะให้ร้ายตน
นายมานิตย์ บรรพบุตร อายุ 52 ปี ผู้ใหญ่บ้าน ม.2 ต.นาเหนือ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ กล่าวถึงกรณีมีสื่อบางฉบับลงข่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์เจ้าตำรวจทางหลวง ส.ทล.1 กก.7 บก.ทล. (พังงา, ภูเก็ต, กระบี่) จับกุมผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ จ.กระบี่ พกพาอาวุธปืน และมีสื่อบางสื่อจนมีข่าวออกไปทางสื่อโซเชียล บางสื่อมีการระบุว่า ผู้ใหญ่บ้านทำตัวเป็นผู้มิอิทธิพล กร่าง แต่ไม่ออกชื่อว่าผู้ใหญ่บ้านชื่ออะไร
สำหรับผู้ใหญ่บ้านที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.1 กก.7 บก.ทล. (พังงา, ภูเก็ต, กระบี่) จับกุมอาวุธปืนดังกล่าว ก็คือตนเอง โดยในวันเกิดเหตุเวลาประมาณ 10.00 น.ของวันที่ 20 มิ.ย.ขณะตนได้ออกปฎิบัติหน้าที่ตามหาวัวให้ลูกบ้าน หลังจากที่ลูกบ้านมาแจ้งว่าวัวที่เลี้ยงไว้หายไป
แต่ขณะที่ขับรถมาบนถนนสายดังกล่าว ก็พบกับด่านตรวจของตำรวจทางหลวง พร้อมกับได้ขอตรวจค้น และเจอปืนขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุน 6 นัด วางอยู่ในรถ ซึ่งตนก็ได้แจ้งว่าตนเป็นผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่นี้ กำลังออกปฏิบัติหน้าที่เช่นเดียวกัน
แต่หลังจากเจรจากันอยู่นาน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงชุดจับกุมไม่ยอม โดยบอกว่าตนไม่มีใบพกพาอาวุธปืนมาแสดง และได้ลงบันทึกจับกุม พร้อมนำตนส่งพนักงานสอบสวน สภ.อ่าวลึก ดำเนินคดี ข้อหาพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ซึ่งตนก็ไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใด และต่อมา ได้อ่านเจอข่าวจากสื่อบางฉบับ ทำให้ตนถึงกับนอนไม่หลับ และเป็นกังวลอย่างมาก เพราะข้อมูลผิดเพี้ยนไปจากข้อเท็จจริงหลายประเด็น
โดยเฉพาะประเด็นที่กล่าวหาว่า มีชายฉกรรจ์จำนวนประมาณ 10 คน ไปรอที่ทำการพนักงานสอบสวน คล้ายกับไปกดดัน ข่มขู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ซึ่งตนยืนยันว่าไม่มี คนที่ไปก็คือ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ได้เอาเอกสารสำคัญไปให้ตน และคนที่รู้จักกัน รวม 2-3 คนเท่านั้น
นอกจากนี้ ตำรวจทางหลวง ยังให้ข่าวว่า ตนจะพาเจ้าหน้าที่ไปจับตำรวจทางหลวงบ้าง ขอยืนยันว่าตนไม่ได้พูด แต่ที่พูดก็คือ ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงมาเข้าประชุมร่วมกับชาวบ้านบ้าง เพราะเห็นว่าต่างคนต่างทำหน้าที่ ยืนยันว่าไม่มีการข่มขู่ใดๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง และตนเคารพกฎหมาย แต่ตนไม่เข้าใจว่าทำไมตำรวจทางหลวง จึงไปให้ข่าวลักษณะให้ร้ายตน