xs
xsm
sm
md
lg

แม่ค้าลูกโป่งสุดคูล! ขายไปอ่านหนังสือไป เผยนำติดตัวมาอ่านด้วยทุกครั้งในยามว่าง (ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
ตรัง - สุดคูล! แม่ค้าลูกโป่งวัย 40 ได้ฉายา “ขายไปอ่านไป” เพราะเป็นแม่ค้าคนแรก และคนเดียวของ จ.ตรัง ที่นำหนังสือติดตัวมาอ่านด้วยทุกครั้งในยามว่าง แทนที่จะเล่นโทรศัพท์มือถือ โดยที่ไม่ได้แคร์สายตาของใครเลยแม้แต่น้อย

วันนี้ (22 มิ.ย.) นางภานุรัศมิ์ โมทะกุล หรือเจ้หนู อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40/4 ถนนบ้านหนองยวน ต.ทับเที่ยง ในเขตเทศบาลนครตรัง ซึ่งโดยปกติจะประกอบอาชีพขายซาลาเปา ในตลาดท่ากลาง นับตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณตี 1 ของทุกคืนจนถึงรุ่งเช้า จากนั้นจะใช้เวลาในช่วงเย็นของทุกวันมาขายลูกโป่งที่ตลาดชินตา หรือตามคลินิกเด็กต่างๆ แต่สิ่งที่แปลกตาต่อผู้พบเห็น และน่าจะเป็นแม่ค้าคนแรก และคนเดียวของ จ.ตรัง ก็คือ จะนำหนังสือติดตัวมาอ่านด้วยทุกครั้งในยามว่าง ขณะกำลังยืนรอลูกค้ามาซื้อลูกโป่ง แทนที่จะเล่นสมาร์ทโฟน หรือโทรศัพท์มือถืออย่างที่ผู้คนยุคใหม่นิยมทำกันในเวลานี้ จนลูกค้าต่างอดสงสัยไม่ได้ และถึงกับขนาดเข้าไปถามไถ่ถึงพฤติกรรมดังกล่าว และเมื่อบางรายเห็นว่าตนเองมีนิสัยรักการอ่าน ก็จะนำหนังสือมามอบให้ด้วย
 

 
นางภานุรัศมิ์ กล่าวว่า เนื่องจากพ่อแม่ชอบอ่านหนังสือมาตั้งแต่ไหนแต่ไร จึงทำให้ตนเกิดความซึมซับเรื่องนี้มาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว รวมทั้งได้สืบทอดอาชีพขายลูกโป่งมาด้วย ดังนั้น แทบทุกวันตนจะเดินทางไปยังห้องสมุดเทศบาลนครตรัง และห้องสมุดประชาชนจังหวัดตรัง เพื่อยืมหนังสือประเภทต่างๆ ทั้งเรื่องสั้น เรื่องแปล นิตยสาร หรือนวนิยาย ครั้งละ 2-3 เล่ม ก่อนนำไปยืนอ่านขณะขายลูกโป่ง โดยที่ไม่ได้แคร์สายตาของใครที่เดินผ่านไปมา จนบางคนมาแซวแบบติดตลกว่า ขยันอ่านหนังสือจังจะเตรียมไปสอบที่ไหน แต่ตนจะไม่นำหนังสือที่ยืมมาไปอ่านที่บ้านอย่างที่คนอื่นๆ ทำกัน เพราะรู้สึกว่าการอ่านหนังสือไปแล้วทำงานไปได้บรรยากาศมากกว่า ซึ่งเมื่ออ่านจนจบแล้วก็จะนำไปคืนห้องสมุด แล้วยืมเล่มใหม่มาอีก
 

 
นางภานุรัศมิ์ กล่าวอีกว่า หากตนไปพบเจอหนังสือเล่มไหนที่ชอบมากจริงๆ ก็จะลงทุนไปซื้อมาเก็บไว้ที่บ้านเป็นที่ระลึกบ้าง หรือถ้าเห็นว่าหนังสือเล่มใดที่ห้องสมุดไม่มี ก็จะยอมสละเงินไปซื้อมาให้เพื่อหวังให้คนอื่นได้อ่านด้วย จนถึงกับทำให้ตนเองได้รับรางวัลนักอ่านดีเด่นของห้องสมุดประชาชนจังหวัดตรัง มาเมื่อ 2 ปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ตนมองว่าผู้คนยุคปัจจุบันกำลังให้ความสนใจอ่านหนังสือลดน้อยลงทุกวัน จนร้านหนังสือหลายแห่งใน จ.ตรัง ต้องปิดตัวลง ส่วนร้านที่ยังเหลือก็มียอดขายตกลงเรื่อยๆ เพราะผู้คนยุคนี้หันไปอ่านหนังสือผ่านโทรศัพท์มือถือกันแทบหมดแล้ว ทั้งที่การอ่านจากหนังสือโดยตรงจะให้ความสุข หรืออรรถรสในการเสพมากกว่า จึงอยากให้คนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะเด็ก และเยาวชนได้หวนกลับมาอ่านหนังสือกันมากขึ้น
 

กำลังโหลดความคิดเห็น