ศูนย์ข่าวภูเก็ต - กลุ่มผู้ค้าในตลาดนัดเกาะสิเหร่ จ.ภูเก็ต ร้องขอจังหวัดช่วยแก้ปัญหาความเดือดร้อน หลังบริษัทคานเรือฯ สร้างรั้วสังกะสีปิดกั้นตลาด อ้างยอดขายตก คนไม่เดินตลาด การจราจรติดขัด ขณะที่ตัวแทนจากการเรือยันการทำรั้วสังกะสีเพื่อแบ่งพื้นที่ให้ชัดเจน และเพื่อความสงบเรียบร้อยของสถานที่ แต่พร้อมจะเปิดทางให้บางส่วน รอผู้บริหารเดินทางกลับมาก่อน
วันนี้ (19 มิ.ย.) ที่ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต กลุ่มตัวแทนผู้ค้าในตลาดนัดเกาะสิเหร่ บริเวณริมคลองท่าจีน ม.7 ต.รัฎษา อ.เมือง จ.ภูเก็ต นำโดย นายสนทยา จุลพุม และพ่อค้าแม่ค้าเข้ายื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ผ่านทาง นางศิวพร ฉั่วสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ช่วยแก้ปัญหาให้แก่กลุ่มผู้ค้าในตลาดนัดเกาะสิเหร่ ซึ่งมีประมาณ 100 ราย อ้างว่าได้รับความเดือดร้อน
หลังจากบริษัทคานเรือรุ่งสยาม ได้ทำการกั้นรั้วสังกะสีคั่นกลาง แยกตลาดออกเป็น 2 ส่วนยาวตลอดแนว ทำให้ผู้ค้าทั้ง 2 ฝั่ง คือ ฝั่งคานเรือ กับฝั่ง อบจ.ได้รับความเดือดร้อน ขายของไม่ได้ ยอดขายตกมากกว่าครึ่ง การนำสินค้าเข้าออกเป็นไปด้วยความลำบาก รวมทั้งประชาชนผู้มาจ่ายตลาดเข้าออกลำบากต้องเดินเลาะรั้วสังกะสี ทำให้ไม่อยากลงมาซื้อของ มีปัญหาการจราจรติดขัดในชั่วโมงเร่งรีบ
โดยทางผู้ค้าทั้ง 2 ฝั่ง ได้แจ้งปัญหานี้ให้บริษัทคานเรือ ทราบ และขอให้เปิดรั้วสังกะสีออก แต่ยังไม่ได้รับความร่วมมือ จึงได้รวมตัวกันมายื่นเรื่องความเดือดร้อนให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดลงมาแก้ปัญหาเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด
ทั้งนี้ ภายหลังรับเรื่องจากกลุ่มตัวแทนผู้ค้าดังกล่าว นางศิวพร ฉั่วสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นายวัชรินทร์ ปฐมวัฒนพงศ์ ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ได้ประชุมร่วมกับตัวแทนกลุ่มผู้ค้า ตัวแทนจากบริษัทคานเรือรุ่งสยาม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อรับทราบข้อเท็จจริงทั้งหมด และหาทางออกร่วมกัน โดยในการประชุมได้ข้อสรุปดังนี้ ในส่วนของการแก้ไขปัญหาทาง อบจ.ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่จะเข้าไปบริหารจัดการเพื่อให้เกิดความเรียบร้อย ระหว่างหาผู้เช่ารายใหม่ เนื่องจากที่ดินที่เป็นตลาดขณะนี้กำหลังอยู่ในช่วงหมดสัญญาเช่ากับทาง อบจ. ในเบื้องต้น จะประสานไปยังคานเรือขอให้เปิดช่องบางส่วนเป็นการชั่วคราว เพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกันได้
นายสนทยา จุลพุม ตัวแทนผู้ค้าในตลาดนัดเกาะสิเหร่ กล่าวภายหลังการประชุมว่า วันนี้ตนนำผู้ค้าในตลาดนัดมาร่วมเรียกร้องขอความเป็นธรรม เพราะได้รับความเดือดร้อนจากการที่บริษัทกั้นรั้วสังกะสีตลอดแนวทำให้ขายของไม่ได้ มีความลำบากในการนำสินค้าเข้าออก อยากจะให้ทางจังหวัดช่วยลงพื้นที่ไปแก้ปัญหาให้แก่กลุ่มผู้ค้า อยากให้มีการรื้อรั้วออกทั้งหมด เพราะถ้ารื้อรั้วสังกะสี ฝั่งถนนวานิชออกจะช่วยระบายการจราจรด้านถนนศรีสุทัศน์ ที่ติดขัดในเวลาเร่งรีบได้ด้วย ซึ่งข้อสรุปของจังหวัด เบื้องต้น ประมาณวันพุธที่ 21 มิ.ย.นี้ ทางจังหวัดจะลงพื้นที่ตลาดนัด และทางตัวแทนของคานเรือจะนำปัญหานี้ไปแจ้งต่อผู้บริหารอีกครั้ง
สำหรับข้อเรียกร้องที่ยื่นในครั้งนี้ มี 4 ข้อ ประกอบด้วย 1.ขอให้ทางจังหวัดทำการรื้อถอนรั้วกั้นกลางตลาด และทางเดินหลักออกทั้งหมดโดยเร็วที่สุด เพราะผู้ค้าทั้ง 2 ฝั่ง และชาวบ้านโดยรอบชุมชนไม่สามารถดำเนินชีวิตตามที่เคยเป็นมาได้ตลอด 20 กว่าปี 2.ให้ทางจังหวัดตรวจสอบสัญญาการเช่าพื้นที่ของ อบจ.กับบริษัทว่า เป็นไปอย่างถูกต้องหรือไม่
3.ให้ทางจังหวัดสนับสนุนพื้นที่ทำกินให้ชาวบ้านในชุมชนได้ทำมาหากินตามแต่เดิมที่เคยเป็นมา โดยต่อไปให้พื้นที่ตลาดนัดทั้งหมดไม่ขึ้นต่อบริษัทคานเรือรุ่งสยาม ให้กันพื้นที่ออกมาต่างหาก แล้วเปิดให้ประมูลใหม่ และ 4.ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดลงพื้นที่โดยเร็วที่สุด เพราะผู้ค้าทั้ง 2 ฝ่าย และประชาชนเดือดร้อนหนัก เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหา และคืนความสุขให้แก่ประชาชนอย่างแท้จริง
ขณะที่ตัวแทนจากบริษัทคานเรือ กล่าวว่า การทำรั้วสังกะสีเพื่อกันที่ดินทั้ง 2 แปลง เป็นการดำเนินการเพื่อแสดงให้เห็นแนวเขตของที่ดินทั้ง 2 แปลงให้ชัดเจน เพราะที่ดินทั้ง 2 แปลง ขณะนี้เป็นคนละเจ้าของชัดเจน ถึงแม้จะเช่าจาก อบจ.ภูเก็ต เหมือนกัน เนื่องจากที่ดินในส่วนของตลาดเจ้าของเดิมได้หมดสัญญาเช่าแล้ว และกำลังอยู่ระหว่างการหาผู้เช่ารายใหม่
โดยรั้วดังกล่าวเพิ่งทำประมาณ 1 เดือน วัตถุประสงค์ก็เพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อย แต่อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้น ได้นำเสนอปัญหานี้ให้ทางบริษัททราบแล้วถึงข้อเสนอ และแนวทางการแก้ปัญหาของทาง อบจ.และทางจังหวัด แต่จะต้องรอให้ผู้บริหารเดินทางกลับมาก่อน
วันนี้ (19 มิ.ย.) ที่ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต กลุ่มตัวแทนผู้ค้าในตลาดนัดเกาะสิเหร่ บริเวณริมคลองท่าจีน ม.7 ต.รัฎษา อ.เมือง จ.ภูเก็ต นำโดย นายสนทยา จุลพุม และพ่อค้าแม่ค้าเข้ายื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ผ่านทาง นางศิวพร ฉั่วสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ช่วยแก้ปัญหาให้แก่กลุ่มผู้ค้าในตลาดนัดเกาะสิเหร่ ซึ่งมีประมาณ 100 ราย อ้างว่าได้รับความเดือดร้อน
หลังจากบริษัทคานเรือรุ่งสยาม ได้ทำการกั้นรั้วสังกะสีคั่นกลาง แยกตลาดออกเป็น 2 ส่วนยาวตลอดแนว ทำให้ผู้ค้าทั้ง 2 ฝั่ง คือ ฝั่งคานเรือ กับฝั่ง อบจ.ได้รับความเดือดร้อน ขายของไม่ได้ ยอดขายตกมากกว่าครึ่ง การนำสินค้าเข้าออกเป็นไปด้วยความลำบาก รวมทั้งประชาชนผู้มาจ่ายตลาดเข้าออกลำบากต้องเดินเลาะรั้วสังกะสี ทำให้ไม่อยากลงมาซื้อของ มีปัญหาการจราจรติดขัดในชั่วโมงเร่งรีบ
โดยทางผู้ค้าทั้ง 2 ฝั่ง ได้แจ้งปัญหานี้ให้บริษัทคานเรือ ทราบ และขอให้เปิดรั้วสังกะสีออก แต่ยังไม่ได้รับความร่วมมือ จึงได้รวมตัวกันมายื่นเรื่องความเดือดร้อนให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดลงมาแก้ปัญหาเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด
ทั้งนี้ ภายหลังรับเรื่องจากกลุ่มตัวแทนผู้ค้าดังกล่าว นางศิวพร ฉั่วสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นายวัชรินทร์ ปฐมวัฒนพงศ์ ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ได้ประชุมร่วมกับตัวแทนกลุ่มผู้ค้า ตัวแทนจากบริษัทคานเรือรุ่งสยาม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อรับทราบข้อเท็จจริงทั้งหมด และหาทางออกร่วมกัน โดยในการประชุมได้ข้อสรุปดังนี้ ในส่วนของการแก้ไขปัญหาทาง อบจ.ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่จะเข้าไปบริหารจัดการเพื่อให้เกิดความเรียบร้อย ระหว่างหาผู้เช่ารายใหม่ เนื่องจากที่ดินที่เป็นตลาดขณะนี้กำหลังอยู่ในช่วงหมดสัญญาเช่ากับทาง อบจ. ในเบื้องต้น จะประสานไปยังคานเรือขอให้เปิดช่องบางส่วนเป็นการชั่วคราว เพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกันได้
นายสนทยา จุลพุม ตัวแทนผู้ค้าในตลาดนัดเกาะสิเหร่ กล่าวภายหลังการประชุมว่า วันนี้ตนนำผู้ค้าในตลาดนัดมาร่วมเรียกร้องขอความเป็นธรรม เพราะได้รับความเดือดร้อนจากการที่บริษัทกั้นรั้วสังกะสีตลอดแนวทำให้ขายของไม่ได้ มีความลำบากในการนำสินค้าเข้าออก อยากจะให้ทางจังหวัดช่วยลงพื้นที่ไปแก้ปัญหาให้แก่กลุ่มผู้ค้า อยากให้มีการรื้อรั้วออกทั้งหมด เพราะถ้ารื้อรั้วสังกะสี ฝั่งถนนวานิชออกจะช่วยระบายการจราจรด้านถนนศรีสุทัศน์ ที่ติดขัดในเวลาเร่งรีบได้ด้วย ซึ่งข้อสรุปของจังหวัด เบื้องต้น ประมาณวันพุธที่ 21 มิ.ย.นี้ ทางจังหวัดจะลงพื้นที่ตลาดนัด และทางตัวแทนของคานเรือจะนำปัญหานี้ไปแจ้งต่อผู้บริหารอีกครั้ง
สำหรับข้อเรียกร้องที่ยื่นในครั้งนี้ มี 4 ข้อ ประกอบด้วย 1.ขอให้ทางจังหวัดทำการรื้อถอนรั้วกั้นกลางตลาด และทางเดินหลักออกทั้งหมดโดยเร็วที่สุด เพราะผู้ค้าทั้ง 2 ฝั่ง และชาวบ้านโดยรอบชุมชนไม่สามารถดำเนินชีวิตตามที่เคยเป็นมาได้ตลอด 20 กว่าปี 2.ให้ทางจังหวัดตรวจสอบสัญญาการเช่าพื้นที่ของ อบจ.กับบริษัทว่า เป็นไปอย่างถูกต้องหรือไม่
3.ให้ทางจังหวัดสนับสนุนพื้นที่ทำกินให้ชาวบ้านในชุมชนได้ทำมาหากินตามแต่เดิมที่เคยเป็นมา โดยต่อไปให้พื้นที่ตลาดนัดทั้งหมดไม่ขึ้นต่อบริษัทคานเรือรุ่งสยาม ให้กันพื้นที่ออกมาต่างหาก แล้วเปิดให้ประมูลใหม่ และ 4.ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดลงพื้นที่โดยเร็วที่สุด เพราะผู้ค้าทั้ง 2 ฝ่าย และประชาชนเดือดร้อนหนัก เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหา และคืนความสุขให้แก่ประชาชนอย่างแท้จริง
ขณะที่ตัวแทนจากบริษัทคานเรือ กล่าวว่า การทำรั้วสังกะสีเพื่อกันที่ดินทั้ง 2 แปลง เป็นการดำเนินการเพื่อแสดงให้เห็นแนวเขตของที่ดินทั้ง 2 แปลงให้ชัดเจน เพราะที่ดินทั้ง 2 แปลง ขณะนี้เป็นคนละเจ้าของชัดเจน ถึงแม้จะเช่าจาก อบจ.ภูเก็ต เหมือนกัน เนื่องจากที่ดินในส่วนของตลาดเจ้าของเดิมได้หมดสัญญาเช่าแล้ว และกำลังอยู่ระหว่างการหาผู้เช่ารายใหม่
โดยรั้วดังกล่าวเพิ่งทำประมาณ 1 เดือน วัตถุประสงค์ก็เพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อย แต่อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้น ได้นำเสนอปัญหานี้ให้ทางบริษัททราบแล้วถึงข้อเสนอ และแนวทางการแก้ปัญหาของทาง อบจ.และทางจังหวัด แต่จะต้องรอให้ผู้บริหารเดินทางกลับมาก่อน