ศูนย์ข่าวภาคใต้ - เผยภาพจากกล้องจิ๋ว วินาทีผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนดังสุดทน แฉยับ! ผอ.โรงเรียนชื่อดังย่านพระราม 6 เรียกรับเงินเข้า ม.1 จำนวน 4 แสนบาทต่อหัว ไร้ใบเสร็จ เรียกร้อง “บิ๊กตู่” ตรวจสอบรื้อระบบก่อนการศึกษาไทยพังพินาศ
วันนี้ (17 มิ.ย.) นี่คือภาพจากกล้องวิดีโอขนาดเล็กซึ่งถูกบันทึกโดยผู้ปกครองนักเรียนรายหนึ่ง ที่มีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดภาคใต้ ได้นำเข้าร้องเรียนต่อผู้สื่อข่าวเพื่อให้เป็นสื่อกลางไปถึงนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ โดยภาพนี้เป็นเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2560 ที่ผ่านมา ในการนำเงินสด จำนวน 4 แสนบาท ไปมอบให้แก่ผู้บริหารโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งย่านถนนพระราม 6 หลังจากที่ผู้บริหารได้ประสานงานการรับเด็กเข้าเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยวิธีพิเศษ ซึ่งผู้ปกครองต้องชำระเงินก่อนเข้าโดยที่ไม่มีใบเสร็จรับเงินจากโรงเรียน ซึ่งรายนี้ถูกเรียกรับสูงถึง 4 แสนบาท
ภาพเหตุการณ์นี้เริ่มต้นจากความคับแค้นใจของผู้ปกครองรายนี้ ซึ่งได้นำเงินสด จำนวน 4 แสนบาท โดยมีการบันทึกภาพไว้ทุกขั้นตอน และมีการติดต่อกับผู้บริหารผ่านทางโทรศัพท์ ตามนัดหมาย โดยให้นำเงินจำนวนนี้ไปด้วย หลังจากนั้น ได้นำเงินใส่ซองสีน้ำตาลเดินขึ้นไปบนชั้น 2 ของอาคารบริหารของโรงเรียนแห่งนี้ ก่อนที่จะเข้าไปพูดคุยกับผู้บริหาร ซึ่งทางผู้บริหารได้พูดคุยในทำนองว่า จะไม่สามารถออกใบเสร็จรับเงินให้ได้ และการเข้าเรียน นักเรียนจะต้องเริ่มสตาร์ทการเรียนอย่างตั้งใจตั้งแต่ต้น เมื่อถึงชั้น ม.4 ผู้ปกครองจะได้ไม่ต้องมาวุ่นวาย ก่อนที่ผู้ปกครองจะระบุถึงการสนับสนุนเงิน
ขณะที่ผู้บริหารได้บอกว่า “มอบให้รอง... เป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมดไปแล้ว ให้มอบให้รอง” ซึ่งหลังจากผู้ที่ถูกระบุ “รอง” มายืนข้างโต๊ะผู้บริหารรายนี้ ผู้ปกครองได้ส่งมอบซองสีน้ำตาลที่บรรจุเงินสด จำนวน 4 แสนบาท ซึ่งผู้ที่ถูกระบุจากผู้บริหารว่าเป็น “รอง” ได้นำซองเงินสดวางไว้บนโต๊ะ จากนั้นไม่นานผู้ปกครองได้ขอตัวกลับออกไปจากห้องผู้บริหารในทันที
ผู้ปกครองรายนี้ยังระบุด้วยว่า การเรียกรับเงินในกรณีกลุ่มเด็กเข้าเรียนแบบวิธีพิเศษ ในชั้น ม.1 มีจำนวนหลายราย ทราบว่า บางรายมีการจ่ายไปถึง 5 แสนบาท เพื่อให้ลูกได้เข้าเรียน โดยที่ไม่มีใบเสร็จรับเงิน และผู้ปกครองต่างไม่สบายใจว่า เงินจำนวนนี้เข้ามาพัฒนาโรงเรียน หรือถูกใช้ไปเพื่อการส่วนตัวไม่มีใครทราบได้ จึงวอนขอให้นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เข้าตรวจสอบในเรื่องนี้ เนื่องจากเป็นช่องว่างสำคัญในการเรียกรับผลประโยชน์เป็นส่วนตัวหรือไม่ และล่าสุด ทราบว่าทางผู้บริหารกลุ่มนี้อยู่ในระหว่างการเดินทางไปท่องเที่ยวในแถบประเทศยุโรป