ยะลา - ราคายางในตลาดท้องถิ่น อ.เบตง จ.ยะลา ยังคงปรับตัวลดลง ในขณะที่ผู้รับซื้อน้ำยางสดในตลาดท้องถิ่นบางแห่งเริ่มปรับตัวด้วยการซื้อ และขายน้ำยางสดแทนการแปรรูปเป็นยางแผ่นรมควัน ลดความเสี่ยงขาดทุน วอนรัฐแก้ปัญหาราคายางพาราให้มีความเสถียร
วันนี้ (14 มิ.ย.) สถานการณ์ราคายางพาราในตลาดท้องถิ่นใน อ.เบตง จ.ยะลา ยังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ทำให้ชาวสวนยางยังคงมีความกังวล เนื่องจากยังไม่ชัดเจนว่าราคาจะหยุดที่กิโลกรัมละเท่าไหร่ หลังจากราคาร่วงลงมาต่อเนื่อง จากราคากิโลกรัมละ 70 บาทเศษ เหลือเพียงกิโลกรัมละ 52 บาทเศษ และในวันนี้ (14 มิ.ย.60) ราคาน้ำยางสดในตลาดท้องถิ่นปรับลดลงมาเหลือกิโลกรัมละ 45-46 บาทเท่านั้น ทำให้รายได้ของชาวสวนยางหายไปจำนวนมาก ในขณะที่ยังคงมีภาระค่าครองชีพเท่าเดิม
ทั้งนี้ ในส่วนของผู้รับซื้อน้ำยางสดหลายแห่ง ซึ่งก่อนหน้านี้เคยรับซื้อน้ำยางสดจากสมาชิกเพื่อนำไปแปรรูปเป็นยางแผ่นรมควัน เพื่อเพิ่มมูลค่า แต่เมื่อราคาน้ำยางสดกับยางแผ่นรมควันมีราคาต่างกันไม่ถึง 10-12 บาท จึงจำเป็นต้องปรับตัว ผู้รับซื้อน้ำยางสดในตลาดท้องถิ่น บอกว่า ในขณะนี้ได้ปรับตัวด้วยการรับซื้อน้ำยางสดจากสมาชิกแล้ว โดยนำน้ำยางไปส่งจำหน่ายต่อทันที เพื่อลดความเสี่ยงในการขาดทุนจากการแปรรูปเป็นยางแผ่นรมควัน แต่แม้จะจำหน่ายน้ำยางสดในขณะนี้ก็ถือว่าขาดทุน เนื่องจากผู้รับซื้อน้ำยางจะรับซื้อน้ำยางสดจากสมาชิกในราคาสูงกว่าตลาดท้องถิ่น เฉลี่ยกิโลกรัมละ 2-3 บาท
ผู้รับซื้อน้ำยางสดในตลาดท้องถิ่น บอกอีกว่า ขอฝากให้รัฐเข้ามาแก้ปัญหาราคายางพาราให้มีความเสถียรมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน และขอให้รัฐมีการทบทวนโครงการต่างๆ ที่ได้ดำเนินการมาแต่กลับไม่ได้ผล เช่น การทุ่มทุนในนิคมอุตสาหกรรมยางพารา หรือเมืองยาง หรือรับเบอร์ ซิตี้ ในนิคมอุตสาหกรรมภาคใต้ แต่ก็ยังคงทำให้ราคายางดิ่งตัวลงอย่างต่อเนื่อง
โดยเฉพาะในตลาดท้องถิ่น ได้สร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวสวนยางอย่างมาก โดยแม้ราคาจะตกต่ำลง แต่ชาวสวนยางก็ยังคงต้องกรีดยางเพราะถือเป็นอาชีพหลัก หากไม่กรีดก็จะไม่มีรายได้เลย โดยราคาที่ลดต่ำต่อเนื่องมา 2 สัปดาห์ในครั้งนี้นั้น ยังไม่มีผู้ออกมาบอกถึงสาเหตุที่แท้จริง ทำให้เกษตรกรมีความกังวล และนอกจากนี้ อยากถามว่าทำไมต้องอ้างอิงตลาดราคายางล่วงหน้าจากประเทศสิงคโปร์ ทั้งที่ประเทศสิงคโปร์ไม่มีสวนยางพารา ทำไมไทยเราไม่ตั้งราคายางเอง