ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ทีเส็บ จับมือภูเก็ต จัดงานไทยแลนด์ โดเมสติก ไมซ์ มาร์ท ปี 4 กระตุ้นการจัดประชุมในประเทศ ยกทัพผู้ประกอบการไมซ์เจรจาธุรกิจซื้อ-ขาย หวังสร้างเม็ดเงินให้ประเทศ 75 ล้านบาท
เมื่อเวลา 14.30 น.วันนี้ (31 พ.ค.) นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดงาน “Thailand Domestic MICE Mart 2017” ครั้งที่ 4 มี นายศรัญญู เสมา หัวหน้าสำนักงานจังหวัดภูเก็ต นายชัยรัตน์ ไตรรัตน์จรัสพร ประธานสมาพันธ์การท่องเที่ยวส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย นายประชุม ตันติประเสริฐกุล เลขาธิการสมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติไทย (TICA) นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือทีเส็บ ผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมไมซ์ในจังหวัดภูเก็ต และกลุ่มจังหวัดใกล้เคียง แขกผู้มีเกียรติ และสื่อมวลชนเข้าร่วม ณ ห้องดวงชนก 1-3 โรงแรมดวงจิตต์รีสอร์ท แอนด์ สปา จังหวัดภูเก็ต
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือทีเส็บ เปิดเผยถึงการจัดโครงการไทยแลนด์ โดเมสติก ไมซ์ มาร์ท ว่า ปีนี้ ทีเส็บ ได้ดำเนินการสานต่อโครงการดังกล่าวต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 เป็นกิจกรรมส่งเสริมการตลาด และส่งเสริมการขายเชิงรุกสำหรับธุรกิจดีไมซ์ โดยการจัดงานในครั้งนี้ ทีเส็บ ได้ยกระดับการจัดงาน ขยายความร่วมมือ และสร้างโอกาสทางธุรกิจในกลุ่มผู้ประกอบการอุตสาหกรรมไมซ์ ทั้งกลุ่มผู้ขาย และผู้ซื้อ ให้มานำเสนอสินค้า และบริการไมซ์ภายในประเทศ พร้อมทั้งเจรจาธุรกิจระหว่างกันโดยตรง โดยในกลุ่มผู้ขายได้ขยายความร่วมมือไปยังกลุ่มคลัสเตอร์อันดามัน (ภูเก็ต กระบี่ พังงา ระนอง และตรัง) จังหวัดในกลุ่มภาคใต้ โดยเฉพาะจังหวัดที่มีศักยภาพในการรองรับตลาดไมซ์ อย่างนครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ชุมพร สตูล เป็นต้น และกลุ่มผู้ซื้อจากทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ซึ่งจะช่วยสร้างโอกาสให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นการผลักดันให้เกิดการจัดงาน และเกิดการกระจายรายได้ไปทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ
สำหรับการจัดงานไทยแลนด์ โดเมสติก ไมซ์ มาร์ท 2017 ณ จังหวัดภูเก็ต มีผู้เข้าร่วมงานทั้งสิ้น 300 ราย แบ่งเป็นผู้ขายจำนวน 100 ราย ได้แก่ โรงแรม ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวจากภูเก็ต และจังหวัดต่างๆ ในภาคใต้ รวมทั้งธุรกิจสายการบิน 4 สาย ส่วนผู้ซื้อ จำนวน 200 ราย ได้แก่ ผู้แทนผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว และไมซ์จากทั่วประเทศ จำนวน 120ราย ผู้แทนจากหน่วยงาน และองค์กรเอกชน 30 ราย ผู้แทนจากผู้ประกอบการท้องถิ่น ผู้แทนจากหน่วยราชการ สมาคมต่างๆ ประจำจังหวัด และจากจังหวัดใกล้เคียง 50 ราย
อีกทั้งการจัดงานในปีนี้ได้ยกระดับการจัดงานโดยนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้เพื่อส่งเสริมนโยบายไทยแลนด์ 4.0 และเป็นการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไมซ์เริ่มปรับตัวเข้าสู่การเป็นสมาร์ท ไมซ์ (Smart MICE) ตั้งแต่การประชาสัมพันธ์งานผ่านทางเว็บไซต์ และโซเชียลมีเดีย การลงทะเบียนเข้าร่วมงานแบบออนไลน์ การจัดทำแอปพลิเคชันให้ข้อมูลงาน สร้างการมีส่วนร่วมของผู้เข้าร่วมงานในรูปแบบดิจิทัล และการประเมินผลความพึงพอใจของการจัดงาน ซึ่งก็สอดรับต่อแผนพัฒนาของทางจังหวัดภูเก็ต ที่จะผลักดันให้ภูเก็ตเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมแห่งภูมิภาคจากทางรัฐบาล และหน่วยงานส่วนกลางที่สนับสนุนให้ภูเก็ตเป็นเมืองอัจฉริยะ หรือ Smart City อีกด้วย
“การจัดงานไทยแลนด์ โดเมสติก ไมซ์ มาร์ท ในปีนี้ ทีเส็บ คาดการณ์ว่า จะส่งผลให้ปีงบประมาณ 2560-2561 มีจำนวนนักเดินทางกลุ่มไมซ์เดินทางเข้าสู่จังหวัดภูเก็ต และจังหวัดในกลุ่มภาคใต้เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 15,000 คน จากปีงบประมาณ2559 ที่ผ่านมา ก่อให้เกิดรายได้กว่า 75 ล้านบาท และสำหรับเป้าหมายการดำเนินงานตลาดโดเมสติกไมซ์ในปีงบประมาณ 2560 นี้ ทีเส็บ ตั้งเป้าหมายมีจำนวนนักเดินทางกลุ่มไมซ์ในประเทศ 26 ล้านคน สร้างรายได้จำนวน 54,000 ล้านบาท” นายจิรุตถ์ กล่าว
ด้าน นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ตได้กำหนดวิสัยทัศน์ที่สำคัญในปี พ.ศ.2557-2560 เพื่อส่งเสริมให้เป็น “ภูเก็ต เมืองท่องเที่ยวนานาชาติ บนพื้นฐานการพัฒนาที่ยั่งยืน” โดยสร้างความพร้อมในการเป็นสมาร์ท ซิตี (Smart City) และไมซ์ ซิตี (MICE City) ที่สมบูรณ์ เพื่อเป็นต้นแบบแห่งการพัฒนาศักยภาพความพร้อมสู่การรองรับอุตสาหกรรมไมซ์ทั้งในระดับประเทศ และระดับนานาชาติ โดยในปีงบประมาณ 2559 จังหวัดภูเก็ต มีโอกาสต้อนรับนักเดินทางไมซ์ จำนวน 142,000 ราย สร้างรายได้จำนวนกว่า 356.44 ล้านบาท
ภูเก็ตเป็นจังหวัดที่มีความพร้อมหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นทำเลที่ตั้งของจังหวัด การเดินทางมีความสะดวกทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ โรงแรมที่พักที่มีศักยภาพในการรองรับนักเดินทาง เป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยวซึ่งมีกิจกรรมที่หลากหลายทั้งทางธรรมชาติ และวัฒนธรรม ซึ่งสามารถสร้างประสบการณ์ และความประทับใจให้แก่ผู้มาเยือน ขณะเดียวกัน ยังเป็นเมืองที่ถูกพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางนวัตกรรมแห่งภูมิภาค ภายใต้นโยบายแผนพัฒนาเศรษฐกิจไทยแลนด์ 4.0 มีนโยบายของรัฐบาล และหน่วยงานส่วนกลางในการสนับสนุนให้ภูเก็ตเป็นเมืองอัจฉริยะ (Smart City) และการเป็นเมืองที่พร้อมเปิดรับนักเดินทางกลุ่มไมซ์ระดับไฮเอนด์ (Hi-end) ในจำนวนที่เพิ่มมากขึ้น และทางจังหวัดเองยังมีแผนพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานด้านคมนาคม ได้แก่ แผนการพัฒนาท่าอากาศยานให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้เพิ่มมากขึ้น และแผนพัฒนารถรางเบา ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี พ.ศ.2565 ด้วย
ทั้งหมดนี้คือแนวทางการดำเนินงานของจังหวัดที่เตรียมพร้อม และส่งเสริมให้ภูเก็ตเป็นเมืองไมซ์ที่เป็นจุดหมายปลายทางแห่งการประชุมองค์กร และท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัลในระดับโลก ควบคู่ไปกับการดำเนินงานของทีเส็บ