ศูนย์ข่าวภูเก็ต - อนาถ! ซากวาฬหัวทุย ถูกคลื่นซัดเกยตื้นหาดสุรินทร์ แหล่งท่องเที่ยวมีชื่อเสียงของจังหวัดภูเก็ต เจ้าหน้าที่ประจำกลุ่มสัตว์ทะเลหายาก ลงเก็บตัวอย่าง ก่อนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปฝังกลบ เนื่องจากส่งกลิ่นเหม็นรุนแรง ระบุในรอบ 26 ปี พบเพียงแค่ 20 ครั้ง
เมื่อเวลา 10.50 น. วันนี้ (31 พ.ค.) เจ้าหน้าที่ไลฟ์การ์ด รวมทั้งนักท่องเที่ยวบริเวณชายหาดสุรินทร์ ต้องตกตะลึงเมื่อคลื่นขนาดใหญ่ซัดเข้าฝั่ง พร้อมนำซากสัตว์ทะเลไม่ทราบชนิดเข้ามาเกยตื้นบริเวณชายหาด พร้อมกับส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ
นายสายัญ บริรักษ์ หัวหน้าไลฟ์การ์ด หาดสุรินทร์ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต กล่าวว่า เมื่อช่วงสายวันนี้ขณะที่เจ้าหน้าที่ไลฟ์การ์ดกำลังเดินตรวจตราความเรียบร้อยบริเวณชายหาด รวมทั้งนักท่องเที่ยวที่ลงมาเดินเล่นบริเวณชายหาดเพื่อพักผ่อนอาบแดดตามปกติ ปรากฏว่า คลื่นได้ซัดซากสัตว์ทะเลขนาดใหญ่ สภาพเน่าเปื่อยลอยเข้ามาบริเวณอ่าวหน้าหาดสุรินทร์ จึงนำเรือเจ็ตสกีเข้าไปตรวจสอบ และช่วยกันลากซากสัตว์ดังกล่าวขึ้นมาบริเวณชายฝั่ง
พร้อมกับแจ้งให้เจ้าหน้าที่กลุ่มสัตว์ทะเลหายาก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบ และลงมาตรวจสอบ ซึ่งในเบื้องต้นคาดว่าซากสัตว์ทะเลดังกล่าวน่าจะเป็นซากวาฬหัวทุย ซึ่งเป็นสัตว์ทะเลหายาก ไม่สามารถพบได้บ่อยครั้งนัก นานๆ ถึงจะเห็น
ขณะที่เจ้าหน้าที่จากกลุ่มสัตว์ทะเลหายาก หลังจากได้รับแจ้งได้เดินทางลงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อเก็บตัวอย่างซากสัตว์ทะเลดังกล่าว และจากการสอบถามพบว่า ซากดังกล่าวคือ วาฬหัวทุย ซึ่งเป็นสัตว์ทะเลหายากตัวขนาดเต็มวัยจะมีความยาวอยู่ที่ประมาณ 10 กว่า เมตร และพบไม่บ่อยมากนักในทะเลอันดามัน จากสถิติการเก็บข้อมูลพบว่าตั้งแต่ปี 1991-2017 พบเพียง 20 ครั้งเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะดำเนินการเก็บตัวอย่างมาตรวจสอบ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำซากไปฝังกลบ เนื่องจากซากเน่าเปื่อย และส่งกลิ่นเหม็นรบกวนประชาชน และนักท่องเที่ยวที่อยู่บริเวณชายหาด
เมื่อเวลา 10.50 น. วันนี้ (31 พ.ค.) เจ้าหน้าที่ไลฟ์การ์ด รวมทั้งนักท่องเที่ยวบริเวณชายหาดสุรินทร์ ต้องตกตะลึงเมื่อคลื่นขนาดใหญ่ซัดเข้าฝั่ง พร้อมนำซากสัตว์ทะเลไม่ทราบชนิดเข้ามาเกยตื้นบริเวณชายหาด พร้อมกับส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ
นายสายัญ บริรักษ์ หัวหน้าไลฟ์การ์ด หาดสุรินทร์ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต กล่าวว่า เมื่อช่วงสายวันนี้ขณะที่เจ้าหน้าที่ไลฟ์การ์ดกำลังเดินตรวจตราความเรียบร้อยบริเวณชายหาด รวมทั้งนักท่องเที่ยวที่ลงมาเดินเล่นบริเวณชายหาดเพื่อพักผ่อนอาบแดดตามปกติ ปรากฏว่า คลื่นได้ซัดซากสัตว์ทะเลขนาดใหญ่ สภาพเน่าเปื่อยลอยเข้ามาบริเวณอ่าวหน้าหาดสุรินทร์ จึงนำเรือเจ็ตสกีเข้าไปตรวจสอบ และช่วยกันลากซากสัตว์ดังกล่าวขึ้นมาบริเวณชายฝั่ง
พร้อมกับแจ้งให้เจ้าหน้าที่กลุ่มสัตว์ทะเลหายาก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบ และลงมาตรวจสอบ ซึ่งในเบื้องต้นคาดว่าซากสัตว์ทะเลดังกล่าวน่าจะเป็นซากวาฬหัวทุย ซึ่งเป็นสัตว์ทะเลหายาก ไม่สามารถพบได้บ่อยครั้งนัก นานๆ ถึงจะเห็น
ขณะที่เจ้าหน้าที่จากกลุ่มสัตว์ทะเลหายาก หลังจากได้รับแจ้งได้เดินทางลงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อเก็บตัวอย่างซากสัตว์ทะเลดังกล่าว และจากการสอบถามพบว่า ซากดังกล่าวคือ วาฬหัวทุย ซึ่งเป็นสัตว์ทะเลหายากตัวขนาดเต็มวัยจะมีความยาวอยู่ที่ประมาณ 10 กว่า เมตร และพบไม่บ่อยมากนักในทะเลอันดามัน จากสถิติการเก็บข้อมูลพบว่าตั้งแต่ปี 1991-2017 พบเพียง 20 ครั้งเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะดำเนินการเก็บตัวอย่างมาตรวจสอบ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำซากไปฝังกลบ เนื่องจากซากเน่าเปื่อย และส่งกลิ่นเหม็นรบกวนประชาชน และนักท่องเที่ยวที่อยู่บริเวณชายหาด
