สุราษฎร์ธานี - เจ้าพนักงานที่ดินสุราษฎร์ธานี เตรียมใช้ประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา 61 เพิกถอน น.ส.3ก.จำนวน 3 ฉบับ ที่ออกมาโดยมิชอบของสนามบินพาณิชย์บนเกาะพะงัน พร้อมเตรียมเสนอกรมที่ดินเอาผิดเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องหากมีเจตนาร่วมกระทำความผิดออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบ ในขณะที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี เตรียมลงดำเนินการตรวจสอบพื้นที่บ้านหาดเทียน และหาดญวนให้แล้วเสร็จในสัปดาห์นี้
จากกรณีที่ทีมศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า (ศปก.พป.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สนธิกำลังลงพื้นที่เพื่อปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายต่อกลุ่มนายทุนที่บุกรุกยึดถือครอบครองที่ดินในเขตป่าไม้ และพื้นที่อุทยานแห่งชาติธารเสด็จ พร้อมทั้งมีการปลูกโฮมสเตย์รุกล้ำแนวเขตทะเล บนเกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี และจากการตรวจสอบจุดก่อสร้างท่าอากาศยานพาณิชย์บนเกาะพะงัน พบว่า มีการตัดภูเขาเพื่อเปิดเป็นพื้นที่สำหรับสร้างเป็นลานจอดเครื่องบิน ประมาณ 140 ไร่ ผู้ประกอบการนำเอกสารสิทธิ น.ส.3 ก. นำมาแสดง แต่จากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่าเป็นเอกสารที่ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และไม่มีเอกสารสิทธิมาแสดงอีกจำนวนหนึ่งจึงดำเนินการเสนอขอเพิกถอน และแจ้งความดำเนินคดีนั้น
ล่าสุด วันนี้ (31 พ.ค.) นายสุรชัย บุณฤทธิชัยกิจ เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า จากการตรวจสอบเอกสารสิทธิ น.ส.3 ก.ผู้ประกอบการสนามบินพาณิชย์บนเกาะพะงันมาแสดง พบว่าบริเวณก่อสร้างสนามบินมี น.ส.3 ก.จำนวน 3 ฉบับ เลขที่ 1244 1245 1446 ในช่วงที่ผ่านมา ทางจังหวัดได้มีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาตรวจสอบ และเมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมาได้ประชุม และมีมติว่าเป็นการออก น.ส.3.ก.โดยมิชอบด้วยกฎหมาย และยังอยู่ในระหว่างการดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงของเจ้าพนักงานที่ดินส่วนแยกสาขาเกาะพะงัน
ล่าสุด ทางกรมที่ดินได้ส่งเจ้าหน้าที่จากสำนักมาตรฐานการออกหนังสือสำคัญเข้ามาดูแลเรื่องนี้โดยตรงจำนวน 3 นาย ซึ่งขณะนี้ได้ลงพื้นที่ทำการตรวจสอบ คาดว่าจะสามารถสรุปเรื่องดังกล่าวได้ภายใน 3 วัน แต่ก็มีแนวโน้มจะเพิกถอนทั้ง 3 แปลง โดยใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 61 มาดำเนินการเพิกถอนพร้อมทั้งดำเนินการเอาผิดต่อเจ้าหน้าที่ที่ไปเกี่ยวข้องต่อการออกเอกสารโดยไม่ชอบต่อไป
นายสุรชัย ระบุอีกว่า ทางผู้ประกอบการสนามบินพาณิชย์ยังได้ยื่นคำขอออก น.ส.3 ก.อีกจำนวน 2 แปลง โดยนำเอกสาร ส.ค.1 จำนวน 2 ฉบับ มาประกอบการยื่นขอออกโฉนดประกอบด้วย ส.ค.1 เลขที่ 101 เนื้อที่ตามหลักฐานแจ้งการครอบครอง จำนวน 22 ไร่เศษ แต่นำรังวัดได้ 55 ไร่เศษ และ ส.ค.1 เลขที่ 102 เนื้อที่ครอบครอง จำนวน 13 ไร่ 1 งาน นำรังวัดได้ 75 ไร่ ทางคณะกรรมการตามกฎกระทรวงฉบับที่ 43 ได้เข้าไปตรวจสอบและได้พิจารณาสมควรให้ออก น.ส.3 ก.ตามเนื้อที่การแจ้งหลักฐานการครอบครอง ส.ค.1 เลขที่ 101 จำนวน 21 ไร่ 1 งาน 89 ตารางวา และ ส.ค.1 เลขที่ 102 ให้ออก น.ส.3.ก. จำนวน 13 ไร่ 1 งาน 60 ตารางวา
นายสุรชัย กล่าวว่า ในอดีตสมัยปี 2497-2498 จะมีการแจ้ง ส.ค.1 โดยประมาณ ซึ่งในปัจจุบันมีการเปลี่ยนมือการครอบครองมาหลายมือ เจ้าของใหม่อาจจะนำรังวัดพื้นที่ออกไปเกินกว่าการแจ้งครอบครองไว้จริง เนื่องจากพื้นที่เกาะพะงันเป็นแหล่งท่องเที่ยวมีราคาสูง จึงมีคนพยายามวิ่งเต้นออกเอกสารสิทธิครอบครองเพื่อเพิ่มมูลค่าขึ้น แต่กระบวนการการออกเอกสารสิทธิมีการตรวจสอบอย่างเข้มงวด และรอบคอบ หากการตรวจสอบพบว่าการออกสารสิทธิโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายทางเจ้าหน้าที่ก็จะใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 61 มาดำเนินการเพิกถอนพร้อมทั้งดำเนินการเอาผิดต่อเจ้าหน้าที่ที่ไปเกี่ยวข้องต่อการออกเอกสารโดยไม่ชอบต่อไป
ส่วนผลการเข้าตรวจสอบผู้ประกอบการรีสอร์ตที่ก่อสร้างบ้านพักรีสอร์ตบนโขดหิน จำนวน 8 แห่ง ที่บริเวณหาดญวน ในเบื้องต้นผู้ประกอบการนำเอกสารสิทธิการครอบครองที่ดินเป็น น.ส.3 ก.มาแสดง จำนวน 7 แปลง และไม่มีเอกสารสิทธิการครอบครองที่ดิน จำนวน 1 แปลง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้ดำเนินการตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิมาโดยชอบหรือไม่ ในส่วนที่ไม่มีเอกสารสิทธิมาแสดงทางเจ้าหน้าที่จะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
การตรวจสอบในพื้นที่บริเวณบ้านหาดเทียน หมู่ที่ 4 ตำบลบ้านใต้ นั้น ทางผู้ครอบครองได้อ้างเอกสาร ส.ค.1 มาแสดง จำนวน 4 ฉบับ จากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่าผู้ครอบครองที่ดินได้นำ ส.ค.1จำนวน 4 ฉบับ มายื่นขอออก น.ส.3ก.จำนวน 2 แปลง ซึ่งยื่นขอไว้นานแล้ว แต่พอถึงวันนัดทางเจ้าของขอเลื่อนการนำรังวัดออกไปก่อน เนื่องจากไม่สามารถนำรังวัดพื้นที่ได้
ในขณะที่เจ้าหน้าที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 11 (สุราษฎร์ธานี) เปิดเผยว่า ในวันที่ 6 มิถุนายนนี้ ทางจังหวัดจะจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการร่วมขึ้นบนเกาะพะงัน โดยมีคณะกรรมการตรวจสอบที่ดินระดับจังหวัด และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อตรวจสอบการกระทำความผิดให้แน่ชัดอีกครั้ง ตามพระราชบัญญัติป่าไม้
ส่วนความคืบหน้ารีสอร์ตบุกรุกตามแนวโขดหิน ชายหาด บนเกาะพะงัน กรมป่าไม้ และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จะดำเนินการเพื่อกวาดล้างเอาผิดผู้ประกอบการบุกรุกสร้างรีสอร์ต และจะขยายผลไปยังเกาะสมุยต่อไป
สำหรับสนามบินบนเกาะพะงัน ที่กำลังมีการตรวจสอบ เป็นของ บริษัทกานต์นิธิ เอวิเอชั่น จำกัด สายการบินกานต์แอร์ ที่เข้าไปปรับสภาพที่ดินบนภูเขาอ่าวท้องนายปาน หมู่ 5 ต.บ้านใต้ อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อเตรียมสร้างสนามบินบนเกาะพะงัน ขณะนี้ได้หยุดดำเนินการก่อสร้างชั่วคราวน เมื่อวันที่ 15 ก.ย. ที่ผ่านมา
นายผดุงศักดิ์ อินทรักษ์ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9 มู่ 4 ต.ลิปะน้อย อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เปิดเผย ว่า ที่ดินแปลงดังกล่าว มีเนื้อที่ทั้งหมด 55 ไร่ ส่วนหนึ่งอยู่ในโครงการการก่อสร้างสนามบินเกาะพะงัน ซึ่งตนเป็นผู้ครอบครอง ได้รับโอนมรดก จากรุ่นสู่รุ่น รุ่นแรกคือตาของตนได้เข้าทำกินในที่ดินดังกล่าว ตั้งแต่ปี 2489 มีเอกสารสิทธิ สค. 1
