นครศรีธรรมราช - สุดรันทด! เด็กหญิงวัย 13 ปี ชาว อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครศรีธรรมราช เขียนจดหมายวอนขอความช่วยเหลือผ่านสังคมออนไลน์ หลังบ้านที่อาศัยถูกน้ำท่วมเกือบทั้งปี ขณะที่หลายฝ่ายเริ่มยื่นมือให้ความช่วยเหลือแล้วในเบื้องต้น
วันนี้ (30 พ.ค.) ภายหลังจากการแชร์ภาพจดหมายขอความช่วยเหลือครอบครัวที่กำลังประสบความยากลำบากของเด็กหญิงวัย 13 ปี ซึ่งเรียนอยู่ชั้น ม.1 โรงเรียนทางพูนวิทยาคาร อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครศรีธรรมราช โดยมีภาพประกอบเป็นบ้านเรือนที่อยู่ในสภาพทรุดโทรมอย่างหนัก รอบบริเวณบ้านเป็นโคลนโดยรอบ และมีน้ำท่วมขัง
ซึ่งเมื่อมีการติดตามข้อมูลพบว่า เด็กหญิงคนนี้คือ ด.ญ.ปิยะพร เหลี่ยมไตร อายุ 13 ปี อยู่บ้านเลขที่ 649/1 ม.3 ต.ทางพูน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครศรีธรรมราช โดยความในจดหมาย ระบุว่า “ที่บ้านเลขที่ 649/1 ม.3 ต.ทางพูน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครศรีธรรมราช เรียนผู้มีอุปการคุณที่เคารพ ดิฉันชื่อ ด.ญ.ปิยะพร เหลี่ยมไตร บิดาชื่อ นายสุนทร เหลี่ยมไตร มารดาชื่อ น.ส.จรรยา จิโสะ อยู่บ้านเลขที่ 649/1 ม.3 ต.ทางพูน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครศรีธรรมราช ปัจจุบันเรียนชั้น ม.1/3 โรงเรียนทางพูนวิทยาคาร มีน้อง 2 คน ชื่อ ด.ช.กฤษณพงศ์ เหลี่ยมไตร เรียนอยู่ชั้น ป.4 โรงเรียนบ้านกลอง และ ด.ช.จักพงศ์ เหลี่ยมไตร เรียนอยู่ชั้นอนุบาล 1”
“บ้านหนูอยู่ในที่ราบลุ่มน้ำท่วมทุกปี แต่ปีนี้น้ำท่วมเกือบทั้งปี เวลาเดินทางไปโรงเรียนก็ลำบาก ต้องใช้เรือ และต้องต่อรถไปอีก บางครั้งก็ไม่ได้ไป บางวันก็ไปสาย ฐานะที่บ้านยากจนมาก ค่าใช้จ่ายในครอบครัวพ่อเป็นคนหามา โดยการหาปลาได้คืนละไม่กี่บาท ไม่ค่อยพอกับค่าใช้จ่ายรายวัน บ้านที่หนูอาศัยอยู่นี้ก็ใกล้จะพังแล้วเพราะน้ำท่วมขังเป็นเวลานาน ทำให้บ้านผุพัง และเมื่อเวลาฝนตกลมก็แรงมากๆ ทำให้กระเบื้องหลังคาหล่นลงมาทีละแผ่นสองแผ่น เมื่อกระเบื้องหลังคาร่วงลงมาทำให้ไม้ผุ เมื่อฝนตกน้ำก็จะสาดเข้าบ้าน”
จดหมายฉบับนี้ยังบอกด้วยว่า “เวลาน้ำท่วมครอบครัวหนูอยู่กันอย่างลำบาก ปีนี้น้ำท่วมบนบ้าน 1 เมตร หนูเลยต้องต่อร้านขึ้นไปอีก จึงทำให้บ้านหนูมีสภาพทรุดโทรม การเดินทางไปกลับโรงเรียน น้องของหนูเดินทางไปกลับโรงเรียนด้วยรถจักรยาน น้องของหนูเดินทางจากบ้านไปโรงเรียนระยะทางประมาณ 4.3 กิโลเมตร ส่วนหนูผู้ปกครองไปส่งกับมอเตอร์ไซค์ อยากให้ผู้อุปการคุณช่วยเหลือด้านที่อยู่อาศัย และยานพาหนะ ขอขอบพระคุณผู้อุปการคุณที่ช่วยเหลือเรื่องทุนการศึกษา และรถจักรยาน และลงท้ายว่า ด้วยความเคารพอย่างสูง ด.ญ.ปิยะพร เหลี่ยมไตร”
ขณะที่นายไพรัตน์ ทุบชุม นายอำเภอเฉลิมพระเกียรติ พร้อมฝ่ายช่างเทศบาลตำบลทางพูน กำลังทหารจาก มทบ.41 กองทัพภาคที่ 4 รวมทั้งพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เดินทางไปที่บ้านดังกล่าว พร้อมมอบสิ่งของ หม้อหุงข้าว เครื่องอุปโภคบริโภค และเงินสดจำนวนหนึ่ง เพื่อช่วยเหลือครอบครัวดังกล่าวเป็นการเบื้องต้น และได้เข้าทำการตรวจสอบเพื่อเตรียมที่จะให้การช่วยเหลือในด้านอื่นๆ โดยมี นายสุนทร เหลี่ยมไตร อายุ 45 ปี พ่อของ ด.ญ.ปิยะพร มาต้อนรับ โดยลูกๆ ทั้ง 3 คนไปเรียนหนังสือ ส่วนภรรยานั้นไปพบแพทย์ตามหมอนัดเนื่องจากป่วย
ส่วนการช่วยเหลือครอบครัวของ ด.ญ.ปิยะพร ในเบื้องต้น มีรถรับส่งไปโรงเรียนฟรี และให้ทุนการศึกษา ขณะที่เทศบาลตำบลทางพูน นั้นบริจาคกระเบื้องในการสร้างบ้านให้ทั้งหลัง ส่วนอำเภอเฉลิมพระเกียรติ และผู้ใหญ่บ้านจะร่วมกันบริจาควัสดุก่อสร้างอื่นๆ ในขณะที่ทาง มทบ.41 จะสร้างสะพานเข้าออกบ้านให้สะดวกยิ่งขึ้น โดยครอบครัวของ ด.ญ.ปิยะพร อาศัยอยู่ด้วยกัน 5 คนพ่อแม่ลูก นายสุนทร พ่อของเด็กมีอาชีพหาปลาขาย รายได้พอเลี้ยงครอบครัวไปวันๆ บ้านที่อาศัยเป็นบ้านไม้ยกสูงขนาด 3 คูณ 6 เมตร สภาพเก่าทรุดโทรม
นายไพรัตน์ ทับชุม นายอำเภอเฉลิมพระเกียรติ กล่าวว่า มาเห็นสภาพบ้านของนายสุนทร ก็เห็นอย่างที่ได้เห็น ซึ่งทรุดโทรมหนัก และได้ร่วมกับเทศบาลตำบลทางพูน รวมทั้งผู้ใหญ่บ้านเพื่อเตรียมการให้ความช่วยเหลือ โดยบ้านทั้งหลังที่อยู่ในบริเวณดังกล่าวนั้นเป็นที่ลุ่ม จึงจำเป็นต้องยกให้สูงกว่าเดิม และทาง มทบ.41 จะเข้ามาก่อสร้างสะพานทางเข้าบ้านกว้าง 2 เมตร ยาว 10 เมตร รวมทั้งสร้างห้องน้ำเพื่อให้เด็กๆ สะดวกมากขึ้น นอกจากนั้น เรื่องยานพาหนะนั้นทราบว่า ทางโรงเรียนของเด็กจะจัดการให้
ทางด้าน นายสุนทร เจ้าของบ้าน กล่าวว่า ขอบคุณทั้งผู้ว่าฯ นายอำเภอ เทศบาล ทหาร และส่วนอื่นๆ ที่มีความกรุณามาช่วยเหลือครอบครัว ที่ผ่านมา บ้านพังเสียหายอย่างหนักในช่วงน้ำท่วมหนักตั้งแต่ปลายปี 2559 และหนักสุดเมื่อต้นปี 2560 ซึ่งตัวบ้านตอนนี้ผุหมดแล้ว ที่ต้องการความช่วยเหลือเรื่องที่อยู่อาศัยอย่างเดียว นอกจากนั้น ไม่มีอะไรแล้ว ส่วนการก่อสร้างบ้านมีญาติพี่น้องจะมาให้การช่วยเหลือ สำหรับคนที่จะบริจาคสิ่งของ หรืออะไรก็แล้วแต่ ตอนนี้ตนไม่มีบัญชีธนาคาร แต่สามารถโทร.มาประสานตนได้ที่หมายเลข 08-8442-0453