ศูนย์ข่าวภูเก็ต - วอนอย่าทุบหม้อข้าวชาวบ้านทิ้งแบบไม่แยแส กลุ่มชาวประมงพื้นบ้านเพื่อการท่องเที่ยว และการอนุรักษ์ พร้อมกลุ่มแปรรูปสัตว์น้ำ บ้านท่าฉัตรไชย อ.ถลาง จ.ภูเก็ต รวมตัวร้องขอความเป็นธรรมให้หน่วยงานราชการช่วยหาทางออกแก้ปัญหาความเดือดร้อน หลังสำนักงานประมงจังหวัดทำหนังสือให้หยุดกิจการ “ร้านอาหารสารสินซีฟูด” เหตุดำเนินการไม่ตรงกับวัตถุประสงค์การใช้งบประมาณ
เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. วันนี้ (29 พ.ค.) สมาชิกกลุ่มประมงพื้นบ้านเพื่อการท่องเที่ยวและการอนุรักษ์ รวมทั้งกลุ่มแปรรูปสัตว์น้ำ บ้านท่าฉัตรไชย ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ประมาณ 30 คน นำโดย นายรณกร หงส์สา ประธานกลุ่มแปรรูปสัตว์น้ำ บ้านท่าฉัตรไชย รวมตัวกันเดินทางมายื่นหนังสือถึงศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต เพื่อยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมจากทางหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง และขอความช่วยเหลือ และหาทางออกในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของสมาชิกในกลุ่มทั้ง 2 กลุ่ม
เนื่องจากทางกลุ่มแปรรูปสัตว์น้ำฯ ได้รับหนังสือแจ้งจากทางสำนักงานประมงจังหวัดภูเก็ต ว่า การใช้อาคารซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของประมงจังหวัด เป็นการใช้อาคารผิดประเภท เนื่องจากอาคารดังกล่าวเป็นอาการที่ขอใช้งบประมาณจากกรมประมงที่สร้างขึ้นมาเพื่อใช้เป็นอาคารแปรรูปสัตว์น้ำ แต่ทางกลุ่มแปรรูปสัตว์น้ำนำไปใช้เป็นร้านอาหาร โดยทางสำนักงานประมงจังหวัดได้ส่งหนังสือถึงกลุ่มเมื่อวันที่ 26 ที่ผ่านมา และให้ยกเลิกการใช้อาคารดังกล่าวโดยเร็วที่สุด
สำหรับการเดินทางมายื่นหนังสือในครั้งนี้ นายนนทศักดิ์ บุนนาค ผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต ได้รับเรื่องร้องเรียนจากตัวแทนกลุ่มแล้ว รวมทั้งได้มีการสอบถาม และชี้แจงถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ว่า ตามกฎหมายแล้วการใช้อาคารของกลุ่มนั้นเป็นการใช้ผิดวัตถุประสงค์ของการของบประมาณจริง ซึ่งงบที่มามาใช้ก่อสร้างอาคารในครั้งนี้เป็นงบเร่งด่วนที่ทางกรมประมงสนับสนุน และช่วยเหลือในการสร้างอาคารสำหรับแปรรูปสัตว์น้ำเพื่อให้มีการใช้ประโยชน์ร่วมกัน
แต่พบว่า การใช้อาคารดังกล่าวเป็นเพียงบางกลุ่มมาใช้ประโยชน์ รวมทั้งมีการใช้พื้นที่เกินจากที่กำหนด และมีการใช้อาคารผิดวัตถุประสงค์ โดยการนำอาคารดังกล่าวเป็นร้านอาหาร โดยอาคารดังกล่าวยังอยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงานประมง ประกอบกับมีการร้องเรียน ทางประมงจึงได้สั่งให้ทางกลุ่มหยุดใช้อาคาร
ขณะที่ นายรณกร หงส์สา ประธานกลุ่มแปรรูปสัตว์น้ำ บ้านท่าฉัตรไชย กล่าวว่า กลุ่มแปรรูปสัตว์น้ำมีสมาชิกประมาณ 100 กว่าคน มีการลงหุ้นกันดำเนินกิจกรรมา หลังจากรับมอบอาคารแล้ว ได้มีการนำสัตว์ทะเลโดยเฉพาะมาแปรรูประยะหนึ่งโดยมีคนจากข้างนอกมาดำเนินการ แต่พบว่าการแปรรูปมีปัญหาเนื่องจากส่งกลิ่นรบกวน จึงได้มีการเลิกดำเนินการไป หลังจากนั้นอาคารก็ทรุดโทรม
ทางกลุ่มจึงลองทำอย่างอื่น และมาจบตรงที่การไปปรึกษากับทางประมง ถึงการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น และเสนอขอนำอาคารไปทำในลักษณะของการแปรรูปสัตว์น้ำด้วยการนำมาเป็นอาหาร และใช้อาคารดังกล่าวเป็นร้านอาหารของชุมชน ในชื่อร้านอาหาร สารสินซีฟูด ซึ่งได้เปิดให้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2554 จนถึงปัจจุบัน พบว่า ประสบความสำเร็จ โดยทางร้านรับซื้อสัตว์น้ำจากกลุ่มประมงพื้นบ้านที่ออกจับปลานำมาแปรรูปเป็นอาหาร หลังจากได้ผลกำไรมาก็มีการจ่ายปันผลให้แก่สมาชิก
แต้ถ้าให้หยุดใช้อาคารดังกล่าว สมาชิกก็ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งรวมไปถึงในส่วนของกลุ่มประมงพื้นบ้านด้วย จึงอยากมาขอความเป็นธรรมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และถ้าไม่ให้ทางกลุ่มทำเป็นร้านอาหาร ทางหน่วยงานราชการควรจะเข้าไปช่วยเหลือ แนะนำแก่ทางกลุ่มในการหาทางออก และเป็นช่องทางในการสร้างงานสร้างอาชีพให้แก่ทางสมาชิกด้วย เพราะการสั่งให้เลิกใช้อาคารเหมือนกับเป็นการทุบหม้อข้าวของชาวบ้านทิ้งโดยไม่แยแส ควรจะช่วยหาทางออกให้แก่ชาวบ้านด้วย ซึ่งชาวบ้านยินดีที่จะทำตามถ้าสิ่งที่ทำอยู่ไม่ถูกต้อง
เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. วันนี้ (29 พ.ค.) สมาชิกกลุ่มประมงพื้นบ้านเพื่อการท่องเที่ยวและการอนุรักษ์ รวมทั้งกลุ่มแปรรูปสัตว์น้ำ บ้านท่าฉัตรไชย ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ประมาณ 30 คน นำโดย นายรณกร หงส์สา ประธานกลุ่มแปรรูปสัตว์น้ำ บ้านท่าฉัตรไชย รวมตัวกันเดินทางมายื่นหนังสือถึงศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต เพื่อยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมจากทางหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง และขอความช่วยเหลือ และหาทางออกในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของสมาชิกในกลุ่มทั้ง 2 กลุ่ม
เนื่องจากทางกลุ่มแปรรูปสัตว์น้ำฯ ได้รับหนังสือแจ้งจากทางสำนักงานประมงจังหวัดภูเก็ต ว่า การใช้อาคารซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของประมงจังหวัด เป็นการใช้อาคารผิดประเภท เนื่องจากอาคารดังกล่าวเป็นอาการที่ขอใช้งบประมาณจากกรมประมงที่สร้างขึ้นมาเพื่อใช้เป็นอาคารแปรรูปสัตว์น้ำ แต่ทางกลุ่มแปรรูปสัตว์น้ำนำไปใช้เป็นร้านอาหาร โดยทางสำนักงานประมงจังหวัดได้ส่งหนังสือถึงกลุ่มเมื่อวันที่ 26 ที่ผ่านมา และให้ยกเลิกการใช้อาคารดังกล่าวโดยเร็วที่สุด
สำหรับการเดินทางมายื่นหนังสือในครั้งนี้ นายนนทศักดิ์ บุนนาค ผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต ได้รับเรื่องร้องเรียนจากตัวแทนกลุ่มแล้ว รวมทั้งได้มีการสอบถาม และชี้แจงถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ว่า ตามกฎหมายแล้วการใช้อาคารของกลุ่มนั้นเป็นการใช้ผิดวัตถุประสงค์ของการของบประมาณจริง ซึ่งงบที่มามาใช้ก่อสร้างอาคารในครั้งนี้เป็นงบเร่งด่วนที่ทางกรมประมงสนับสนุน และช่วยเหลือในการสร้างอาคารสำหรับแปรรูปสัตว์น้ำเพื่อให้มีการใช้ประโยชน์ร่วมกัน
แต่พบว่า การใช้อาคารดังกล่าวเป็นเพียงบางกลุ่มมาใช้ประโยชน์ รวมทั้งมีการใช้พื้นที่เกินจากที่กำหนด และมีการใช้อาคารผิดวัตถุประสงค์ โดยการนำอาคารดังกล่าวเป็นร้านอาหาร โดยอาคารดังกล่าวยังอยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงานประมง ประกอบกับมีการร้องเรียน ทางประมงจึงได้สั่งให้ทางกลุ่มหยุดใช้อาคาร
ขณะที่ นายรณกร หงส์สา ประธานกลุ่มแปรรูปสัตว์น้ำ บ้านท่าฉัตรไชย กล่าวว่า กลุ่มแปรรูปสัตว์น้ำมีสมาชิกประมาณ 100 กว่าคน มีการลงหุ้นกันดำเนินกิจกรรมา หลังจากรับมอบอาคารแล้ว ได้มีการนำสัตว์ทะเลโดยเฉพาะมาแปรรูประยะหนึ่งโดยมีคนจากข้างนอกมาดำเนินการ แต่พบว่าการแปรรูปมีปัญหาเนื่องจากส่งกลิ่นรบกวน จึงได้มีการเลิกดำเนินการไป หลังจากนั้นอาคารก็ทรุดโทรม
ทางกลุ่มจึงลองทำอย่างอื่น และมาจบตรงที่การไปปรึกษากับทางประมง ถึงการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น และเสนอขอนำอาคารไปทำในลักษณะของการแปรรูปสัตว์น้ำด้วยการนำมาเป็นอาหาร และใช้อาคารดังกล่าวเป็นร้านอาหารของชุมชน ในชื่อร้านอาหาร สารสินซีฟูด ซึ่งได้เปิดให้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2554 จนถึงปัจจุบัน พบว่า ประสบความสำเร็จ โดยทางร้านรับซื้อสัตว์น้ำจากกลุ่มประมงพื้นบ้านที่ออกจับปลานำมาแปรรูปเป็นอาหาร หลังจากได้ผลกำไรมาก็มีการจ่ายปันผลให้แก่สมาชิก
แต้ถ้าให้หยุดใช้อาคารดังกล่าว สมาชิกก็ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งรวมไปถึงในส่วนของกลุ่มประมงพื้นบ้านด้วย จึงอยากมาขอความเป็นธรรมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และถ้าไม่ให้ทางกลุ่มทำเป็นร้านอาหาร ทางหน่วยงานราชการควรจะเข้าไปช่วยเหลือ แนะนำแก่ทางกลุ่มในการหาทางออก และเป็นช่องทางในการสร้างงานสร้างอาชีพให้แก่ทางสมาชิกด้วย เพราะการสั่งให้เลิกใช้อาคารเหมือนกับเป็นการทุบหม้อข้าวของชาวบ้านทิ้งโดยไม่แยแส ควรจะช่วยหาทางออกให้แก่ชาวบ้านด้วย ซึ่งชาวบ้านยินดีที่จะทำตามถ้าสิ่งที่ทำอยู่ไม่ถูกต้อง