นครศรีธรรมราช - “วิทยา แก้วภราดัย” อดีตสมาชิกสภาปฏิรูป ตบปากพวก“กลืนน้ำลายกระสันเลือกตั้ง” แท้จริงคือพวก “ขี้ข้าสนองตัณหาตัวเอง”
วันนี้ (28 พ.ค.) ที่ จ.นครศรีธรรมราช นายวิทยา แก้วภราดัย อดีตสมาชิกสภาปฏิรูป ได้แสดงความเห็นทางการเมือง หลังจากที่มีนักการเมืองบางรายที่มีการเผยแพร่ข้อมูลพาดพิง โดยเฉพาะอาจมีการพุ่งเป้าไปที่กลุ่ม กปปส.ว่า ไม่สบายใจในเรื่องนี้มาก โดยเฉพาะนักการเมืองพวกที่กำลังกระสันการเลือกตั้งกันมาก คิดว่าไม่น่ากลืนน้ำลายกันเร็ว เมื่อปีที่แล้วคนเหล่านี้คัดค้านรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ไม่เอารัฐธรรมนูญฉบับเลว ไม่เอารัฐธรรมนูญฉบับเผด็จการ รัฐธรรมนูญฉบับสืบทอดอำนาจ แล้วทำไมกระสันนักหนากับการเลือกตั้งภายใต้การสืบทอดอำนาจ นักการเมืองในอดีตเคยสร้างมาตรฐานไว้ เช่น นายอุทัย พิมพ์ใจชน เคยคัดค้านรัฐธรรมนูญปี 21 ไม่เห็นด้วยกับรัฐธรรมนูญฉบับนี้และท่านไม่ลงสมัครรับเลือกตั้ง
“แต่มาบัดนี้คนที่ค้านรัฐธรรมนูญออกมาก่อนเพื่อนเลย อยากไปเลือกตั้งก่อนเพื่อน ผมอยากถามว่า พวกผมที่ไปให้โอกาสการทำงาน ให้กำลังใจ พล.อ.ประยุทธ แล้วพวกผมจะไปเป็นขี้ข้าเผด็จการรัฐประหารหรือไม่ บอกตรงๆ ว่าอย่าใช้คำว่าขี้ข้าเลยเพราะคิดว่าคนที่ปากกล้าและต่อสู้มาทางการเมือง ผมไม่ได้ด้อยกว่าใคร มั่นใจว่า 30-40 ปีได้ต่อสู้มากับเผด็จการทุกรูปแบบ เผด็จการมี 2 รูปแบบคือเผด็จการที่ได้อำนาจมาจากอาวุธ และเผด็จการที่ได้มาจากอำนาจเงิน ทั้งสองอย่างถ้าสามานย์เมื่อไหร่ต้องจัดการ ผมได้ต่อสู้มาแล้วทุกรูปแบบ มั่นใจว่าไม่ได้เป็นขี้ข้าของใคร นักการเมืองที่ดีต้องเป็นข้าของแผ่นดิน ชาติ พระมหากษัตริย์ ไม่ใช่ขี้ข้าของตัณหาตัวเอง ถ้าผ่านตรงนี้ไม่ได้ประชาชนมีแต่เบื่อหน่ายและด่านักการเมือง” นายวิทยากล่าว
นายวิทยากล่าวต่อว่า พล.อ.ประยุทธ เป็นเผด็จการหรือไม่ ตอบว่าใช่เพราะได้มาจากการรัฐประหาร แต่ถามว่าสามานย์หรือไม่ ตอบว่ายัง เผด็จการที่ล้มง่ายที่สุดในประเทศไทยคือเผด็จการสามานย์ เผด็จการที่ล้มยากที่สุดคือเผด็จการทุนนิยมสามานย์ และคงไม่มีเผด็จการที่ไหนตั้งคำถามให้ประชาชนตอบเพื่อรับฟังข้อมูล ขณะที่พวกเราขอยืนยันในการเรียกร้องมาโดยตลอดคือ ขอให้มีการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง การปฏิรูปตำรวจครั้งใหญ่ และเร่งปราบการทุจริตในแวดวงราชการ และท้องถิ่นที่ยังคงมีมาก