พังงา - เจ้าหน้าที่เร่งวางถุงบิ๊กแบ็กกันคลื่นกัดเซาะชายหาดเกาะคอเขา อ.ตะกั่วป่า อย่างลำบาก หลังจากวันนี้ยังมีคลื่นสูงกว่า 2 เมตร และน้ำทะเลหนุนสูง 3.93 เมตร เป็นวันที่ 3 ชาวบ้านเดือดร้อนหนัก วอนหน่วยงานเร่งสร้างกำแพงกันเขื่อนให้แข็งแรง
วันนี้ (27 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคลื่นลมแรงสูงกว่า 2 เมตร พัดชายหาดเกาะคอเขา ม.3 ต.เกาะคอเขา อ.ตะกั่วป่า ตั้งแต่ชายฝั่งทะเลด้านทิศเหนือตำบลเกาะคอเขา ตลอดแนวชายฝั่งยาวกว่า 20 กิโลเมตร ไปจนถึงบริเวณบ้านปากเกาะ สร้างความเสียหายต่อรีสอร์ตที่สร้างอยู่ติดชายทะเล บ้านเรือนราษฎร จำนวน 12 หลัง ถูกน้ำทะเลทะลักเข้าท่วมเดือดร้อนหนัก
โดยในวันนี้ ทางนายสุดจิตร ลิ่มพานิช กำนันเกาะคอเขา ได้นำเจ้าหน้าที่ พร้อมด้วยนำเครื่องจักรกลหนัก รถแบ็กโฮลงพื้นที่ทำแนวกันคลื่นจากถุงบิ๊กแบ็กระยะทางประมาณ 50 เมตร เพื่อเป็นการชะลอความแรงของคลื่นที่ซัดเข้าฝั่ง บรรเทาความเดือดร้อน และป้องกันน้ำทะเลกัดเซาะแนวชายหาด แต่พบว่า สภาพคลื่นลมยังคงมีกำลังแรงพัดเข้าหาฝั่งอย่างต่อเนื่อง ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องทำงานด้วยความยากลำบาก และแรงคลื่นยังคงทำให้น้ำทะเลไหลท่วมบ้านเรือนชาวบ้าน แม้ว่าก่อนหน้านี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้นำถุงบิ๊กแบ็กมากั้นป้องกัน จนสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านเป็นวันที่ 3 เนื่องจากในวันนี้มีน้ำทะเลหนุนสูงประมาณ 3.93 เมตร
ทางนายนิคม ฉ่ำมาลี ชาวบ้านปากเกาะ กล่าวว่า จากปัญหาคลื่นลมแรงกัดเซาะชายหาดเกาะคอเขา และน้ำทะเลหนุนสูง สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านเป็นอย่างมาก เพราะน้ำทะเลได้ไหลท่วมบ้านสูงจนอาศัยอยู่ลำบาก ซึ่งพบว่าปีนี้ปัญหาน้ำทะเลกัดเซาะหนักกว่าปีที่ผ่านมา แม้ว่าทางเจ้าหน้าที่ได้มีการวางถุงบิ๊กแบ็กแต่ก็ไม่สามารถป้องกันอะไรได้มาก
ทางชาวบ้านเคยเสนอให้ทางหน่วยงานทำเป็นเขื่อนกันคลื่นขนาดใหญ่ที่ป้องกันคลื่นไม่ให้ซัดเข้าหาฝั่ง แต่ก็เงียบไป จนสร้างความเดือนร้อนให้ชาวบ้านเป็นอย่างมาก ถ้ายังไม่มีการสร้างเขื่อนหินก็จะทำให้ถนนเข้าหมู่บ้านถูกน้ำทะเลกัดเซาะจนขาดได้ และบ้านเรือนประชาชนก็จะถูกคลื่นซัดจมหายลงทะเลอย่างแน่นอน ส่วนบางครอบครัวเกิดความกลัวจึงต้องอพยพไปอยู่บ้านญาติในที่ปลอดภัยแล้ว
