นครศรีธรรมราช - พ่อวอนกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ช่วยเหลือบุตรสาว หลังเข้ารับการรักษาโรคที่ รพ.แห่งหนึ่งใน จ.สงขลา ก่อนถูกแพทย์เจาะไตแล้วกลายเป็นคนพิการมา 6 ปีเต็ม ไร้การดูแลเยียวยา
วันนี้ (27 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจรัญ พรหมเดช อายุ 73 ปี ชาว ต.ป่าระกำ อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช เรียกร้องให้กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบโรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.สงขลา โดยระบุว่า ตลอด 6 ปีที่ผ่านมา ไม่ได้รับความเป็นธรรม สืบเนื่องจากบุตรสาวคือ น.ส.ยมนา พรหมเดช ปัจจุบันอายุ 34 ปี ได้เข้ารักษาตัวด้วยอาการครั่นเนื้อครั่นตัว เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2554
แต่ภายหลังได้ถูกแพทย์เจาะไต โดยอ้างว่าเป็นการระบายยาออกจากไต ส่งผลให้ น.ส.ยมนา กลายเป็นผู้พิการ ซึ่งตลอด 6 ปีที่ผ่านมา ได้ต่อสู้ และร้องเรียนไปยังกระทรวงยุติธรรม สำนักนายกรัฐมนตรี หรือแม้กระทรวงสาธารณสุข แต่ก็ไม่เป็นผล ขณะที่บุตรสาวกลายเป็นคนพิการไปตลอดชีวิต
โดย นายจรัญ อ้างว่า มีหลักฐานที่เป็นบันทึกการรักษาพยาบาลของ น.ส.ยมนา ซึ่งเชื่อว่าเป็นหลักฐานมีความผิดปกติ มีข้อมูลที่ย้อนแย้งหลายส่วนด้วยกัน แต่ด้วยที่เป็นชาวบ้านธรรมดา การร้องเรียนต่อหน่วยงานต่างๆ หรือการร้องต่อศาลปกครอง กลับไม่เป็นผลใดๆ และไร้การเยียวยา แม้กระทั่งเข้าร้องเรียนต่อกระทรวงยุติธรรม เมื่อครั้งที่ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา เป็นรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม ซึ่งได้ระบุให้ปลัดกระทรวงดำเนินการ แต่จนถึงขณะนี้ไม่เป็นผลเช่นเดียวกัน
ส่วนข้อความที่ระบุในบันทึกการรักษาพยาบาล ระบุว่า น.ส.ยมนา เป็นโรคไทฟอยด์ขึ้นสมอง ทั้งที่ช่วงไปพบแพทย์ในโรงพยาบาล มีอาการครั่นเนื้อครั่นตัวเท่านั้น แต่กลับมีการเจาะไตจนส่งผลกระทบต่อร่างกายถึงขั้นพิการ นายจรัญ ระด้วยบุว่า ได้ไปปรึกษาแพทย์ที่อยู่นอก จ.สงขลา ระบุว่า การเจาะไตของแพทย์เกิดจากภาวะการแพ้ยาปฏิชีวนะของผู้ป่วยอย่างรุนแรง และการเจาะนั้นเพื่อเป็นการระบายยาออกจากไตโดยตรง