ยะลา - คนร้ายไม่ทราบจำนวนก่อเหตุใช้อาวุธปืนสงครามซุ่มยิงฐานปฏิบัติการทหารพรานที่ 3307 บันนังสตา จ.ยะลา เมื่อคืนที่ผ่านมา จนฝ่ายเจ้าหน้าที่ต้องยิงตอบโต้นานกว่า 10-15 นาที จนคนร้ายได้ล่าถอยไป ตรวจสอบไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ
วันนี้ (27 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดยะลา ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรบันนังสตา จ.ยะลา พร้อมด้วยชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด หน่วยเฉพาะกิจอโณทัย เข้าตรวจสอบพื้นที่บริเวณใกล้เคียงฐานปฏิบัติการกองร้อยทหารพรานที่ 3307 สังกัดหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 33 บ้านกาโสด หมู่ 5 อ.บันนังสตา จ.ยะลา หลังจากที่เมื่อคืนที่ผ่านมา เวลาประมาณ 22.10 น. ได้เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิด และขนาด ซุ่มยิงฐานปฏิบัติการทหารพราน ซึ่งตั้งอยู่บริเวณริมถนนสาย 410 ยะลา-เบตง แยกทางเข้าเขื่อนบางลาง อ.บันนังสตา จ.ยะลา
โดยเจ้าหน้าที่ทหารพรานที่อยู่ภายในฐานปฏิบัติการได้ใช้อาวุธปืนยิงตอบโต้กลุ่มคนร้ายที่ซุ่มยิงมาจากด้านข้างของฐานปฏิบัติการ ซึ่งมีการยิงตอบโต้กันนานกว่า 10-15 นาที ก่อนที่คนร้ายจะอาศัยความมืดล่าถอยไป เจ้าหน้าที่จึงได้จัดชุดจรยุทธ์ออกติดตามกลุ่มคนร้าย ซึ่งคาดว่าจะหนีไปทางบ้านบือซู แต่ก็ไม่พบร่องรอยของกลุ่มคนร้าย
จากการเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ ซึ่งอยู่ห่างจากฐานปฏิบัติการประมาณ 200 เมตร บริเวณแปลงขายต้นกล้าทุเรียนของชาวบ้าน เจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืน AK47 และ M16 จำนวนมากกว่า 50 ปลอก จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ชุดพิสูจน์หลักฐานเข้าเก็บหลักฐานไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยเจ้าหน้าที่เชื่อว่าคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้มีไม่ต่ำกว่า 7-10 คน
ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่เชื่อว่ากลุ่มคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุในครั้งนี้เป็นแนวร่วม RKK กลุ่มใหม่ที่เข้ามาเคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ อ.บันนังสตา โดยก่อนหน้านี้ ทางการข่าวความมั่นคงพบข้อมูลว่า มีกลุ่มแนวร่วม RKK ซึ่งเป็นเยาวชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งถูกล้างสมอง และปลูกฝังอุดมการณ์ให้เข้าแนวความคิดแบ่งแยกดินแดน และลักลอบออกนอกเขตแนวชายแดนเพื่อไปฝึกปฏิบัติการเป็นแนวร่วม ก่อนจะกลับเข้ามาก่อเหตุในพื้นที่
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากที่ผ่านมา กลุ่มแนวร่วมเก่าๆ ที่มีอยู่นั้นลดบทบาทลงเพราะหลายปัจจัย โดยเฉพาะความไม่จริงใจจากขบวนการที่หลอกให้ร่วมต่อต้านภาครัฐ ทางกลุ่มขบวนการจึงจำเป็นต้องปลูกฝังแนวร่วมกลุ่มใหม่ขึ้นมาเพื่อก่อเหตุในพื้นที่ให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง
