xs
xsm
sm
md
lg

บีบ “เหยื่อพลุระเบิด” ย้ายรักษา รพ.กระบี่ ผู้ปกครองลั่นไม่ยอม จ่อฟ้องดำเนินคดี “ออแกไนซ์-ผู้จัดงาน”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
กระบี่ - ยังคงคาราคาซัง! ล่าสุด “เหยื่อพลุระเบิด” ถูกบีบให้ย้ายไปรักษาตัวยัง รพ.กระบี่ หลังก่อนหน้านี้รักษาอยู่ที่ รพ.นครินทร์ ด้านผู้ปกครองลั่นไม่ยอมแน่ เตรียมฟ้องดำเนินคดี “ออแกไนซ์และผู้จัดงาน” ไม่ทำตามที่ตกลงกันไว้

จากกรณีเหตุพลุดอกไม้ไฟระเบิดภายในงาน “ตำนานกระบี่ เมืองแห่ง 12 นักษัตร” เมื่อคืนวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา ที่บริเวณลานพระอาทิตย์ หน้าสำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ ต.ไสไทย อ.เมือง จ.กระบี่ จนเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 24 ราย ชาย 5 ราย หญิง 19 ราย ส่วนใหญ่ได้รับบาดเจ็บบริเวณแขน ขา และรอยไหม้จากสะเก็ดพลุ ขณะนี้เดินทางกลับบ้านแล้ว 18 ราย ส่วนผู้ที่ยังรักษาตัวที่โรงพยาบาลมี 6 ราย เป็นนักเรียนโรงเรียนเมืองกระบี่ทั้งหมด ประกอบด้วย น.ส.เกษรินทร์ สุขบุญทอง อายุ 16 ปี รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลจริยธรรมรวมแพทย์กระบี่ และอีก 5 คน รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลกระบี่ ประกอบด้วย น.ส.กิติยา ตันเลียง อายุ 16 ปี น.ส.นุชรีพร โบบทอง อายุ 16 ปี น.ส.เจนจิรา มัดทะปะนัง อายุ 17 ปี น.ส.นิศานาถ ทวีแก้ว อายุ 18 ปี และนายจิรายุส จิตรวิบูลย์ อายุ 17 ปี
 

 
โดยในเบื้องต้น หลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกระบี่ ได้เรียกฝ่ายผู้เสียหาย เจ้าภาพจัดงาน รวมถึงออแกไนซ์ เพื่อเจรจาตกลงชดใช้ค่าเสียหายเบื้องต้น ทางผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดกระบี่ พร้อมด้วยออแกไนซ์ที่รับจัดงานยินดีที่จะดูแลค่าใช้จ่ายทั้งหมดจนกว่าผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจะหายเป็นปกติ และล่าสุด ผู้ปกครองของเด็กนักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บเริ่มไม่มั่นใจว่า ทางสำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดกระบี่ และออแกไนซ์จะรับผิดชอบตามที่ได้ตกลงไว้ข้างต้นจริงหรือไม่ เนื่องจากได้ให้ผู้ปกครองของเด็กที่นำเด็กไปรักษาตัวอยู่ที่โรงบาลนครินทร์ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเอกชนให้ย้ายออก 24 ชั่วโมง หากว่ายังอยู่ต่อจะไม่ขอรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลอีกต่อไป

ล่าสุด นายสมชาย โบบทอง อายุ 50 ปี บิดาของ น.ส.นุชรีพร โบบทอง กล่าวว่า หลังจากที่ลูกสาวได้ไปร่วมกิจกรรมฯ จนเกิดพลุระเบิดใส่บาดเจ็บสาหัส ขณะนี้ยังรักษาตัวอยู่ภายในโรงพยาบาล และยังไม่สามารถลุกเดินได้ โดยในครั้งแรกได้พูดคุยกับออแกไนซ์ และผู้อำนวยการสำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดกระบี่ ต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต่างก็รับปากว่าจะดูแลค่ารักษาพยาบาลให้ทั้งหมดจนกว่าลูกจะหายดี โดยในครั้งแรกเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลนครินทร์ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลของเอกชน และรักษาอยู่ได้ประมาณ 3 วัน หมอก็แจ้งว่า ทางผู้จัดงานจะไม่ขอรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาล หากจะอยู่ต่อก็ต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลเอง
 

 
หลังจากนั้น จึงได้ย้ายลูกกลางดึกไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลกระบี่ แต่ด้วยความเป็นกังวลกลัวว่าบาดแผลของลูก ซึ่งมีบาดแผลฉกรรจ์หลายแห่งจะไม่หายง่าย จึงได้ย้ายลูกกลับมารักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลนครินทร์ อีกครั้งเมื่อวันนี้ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา ครั้งนี้ยอมควักค่าใช้จ่ายเอง ถึงแม้ว่าจะต้องกู้หนี้ยืมสินขายที่ดิน ก็ยอม เพราะอยากให้ลูกหายจากอาการบาดเจ็บเร็วๆ ทุกวันนี้ลูกสาวต้องทนทุกข์ทรมานมากต่อบาดแผลที่เกิดขึ้นจากพลุระเบิดใส่ ส่วนตนเอง และครอบครัวก็ต้องเป็นทุกข์กับค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล และลูกไม่ได้ไปเรียนหนังสือ หากว่าทางออแกไนซ์ และสำนักงานท่องเที่ยวและกีฬา จะปัดความรับผิดชอบ ไม่ทำตามที่ได้ให้คำมั่นสัญญากันไว้ ก็อาจจะมีการฟ้องร้องดำเนินคดีเพื่อเรียกร้องสิทธิที่ควรจะได้ต่อไป

ด้าน นางกันตยา ภูเก้าล้วน อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16/1 ถนนนาเตย ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.กระบี่ แม่ของนักเรียนเหยื่อพลุระเบิด กล่าวว่า หลังเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลกระบี่นครินทร์ได้ 3 คืน ก็ต้องย้ายบุตรสาวไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลกระบี่ เนื่องจากทางโรงพยาบาลแจ้งว่า ทางออแกไนซ์จะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่โรงพยาบาลนี้แล้ว โดยทางโรงพยาบาลมาแจ้งตอนประมาณ 1 ทุ่ม จึงได้เก็บข้าวของย้ายออกประมาณ 4 ทุ่ม โดยมีรถจากโรงพยาบาลกระบี่ มารับพร้อมผู้บาดเจ็บทั้งหมด 8 คน มี 3 คน ได้นอนห้องพิเศษเพราะอาการหนัก ตอนนี้บุตรสาวใช้สิทธิ 30 บาทในการรักษา ในใจอยากให้ลูกได้รับการรักษาที่ดีเพราะอาการของน้องรักษายาก ทั้งที่ก่อนนี้ออแกไนซ์บอกว่าจะรับผิดชอบทุกอย่าง
 

 
นางกันตยา กล่าวอีกว่า แรกเริ่มที่เกิดเหตุทางบริษัทออแกไนซ์ออกมารับผิดชอบดีมาก ออกมาพูดต่อหน้าตำรวจว่าจะรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลทุกอย่าง จนถึงขั้นศัลยกรรมเลยก็ได้ จู่ๆ เกิดอะไรขึ้นไม่ทราบ มาบอกว่าขอย้ายโรงพยาบาลจากกระบี่นครินทร์ มายังโรงพยาบาลกระบี่ ซึ่งพอย้ายลูกมาอยู่ที่โรงพยาบาลกระบี่ ก็กลัวติดเชื้อ แผลของน้องอาจจะเล็กแต่ว่าลึกมาก ถ้าติดเชื้อก็จะต้องตัดเท้าทิ้ง แต่ทางออแกไนซ์ก็บีบให้ต้องมา และไม่โผล่หน้ามาเลยว่าจะทำอย่างไรต่อไป ขอแค่ให้ดูแลอาการของน้องจนหายดีเท่านั้น

ตอนนี้รู้สึกแย่มาก งานไม่ได้ทำ สงสารลูก ทำแผลแต่ละครั้งต้องร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด ตอนนี้ค่ารักษาพยาบาลใช้สิทธิ 30 บาท ทั้งที่ตอนไปร่วมกิจกรรมก็ไปแบบไม่มีค่าตอบแทน เป็นการออกปาก แต่พอมาเกิดเหตุบาดเจ็บขึ้น ก็มาจากความประมาทของผู้จัดงาน แล้วจะมาผลักภาระทั้งหมดให้ผู้ปกครอง ตอนนี้ยอมรับว่าเครียดมาก และหลังจากนี้เมื่อรักษาลูกหาย หากว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากออแกไนซ์ ก็อาจจะมีการฟ้องร้องดำเนินคดีอย่างแน่นอน

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ขณะนี้ทางโรงเรียนเมืองกระบี่ ได้ประกาศรับบริจาคเงินจากนักเรียนเพื่อนำมาช่วยเหลือเป็นค่าใช้จ่ายแก่เพื่อนนักเรียนเหยื่อพลุระเบิด ที่ทำการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ปกครองที่เกิดขึ้น ซึ่งไม่รู้ว่าอีกกี่วันถึงจะได้ออกจากโรงพยาบาล
 

กำลังโหลดความคิดเห็น