xs
xsm
sm
md
lg

ผู้แทนพิเศษของรัฐบาลนำชาวไทยพุทธ-มุสลิม ซ่อมแซมฝายหลังถูกทิ้งรกร้างกว่า 3 ปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
นราธิวาส - “จำนัล เหมือนดำ” ผู้แทนพิเศษของรัฐบาล นำประชาชนชาวไทยพุทธ และมุสลิมร่วมกันซ่อมแซมฝายหลังถูกทิ้งรกร้างมากว่า 3 ปี ในพื้นที่ ต.สากอ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส

วันนี้ (24 พ.ค.) นายรุ่งเรือง ธิมาบุตร นายอำเภอสุไหงปาดี จ.นราธิวาส ได้นำตัวแทนชาวไทยพุทธ และมุสลิม ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ 6 หมู่บ้านของ ต.สากอ จำนวนกว่า 500 คน ร่วมกันซ่อมแซม และปรับปรุงฝายเก็บกักน้ำ ซึ่งตั้งอยู่บ้านตันหยง ม.10 ต.สากอ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นฝายที่มีขนาดกว้าง 30 เมตร ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย และถูกทิ้งรกร้างมานานกว่า 3 ปี จนชาวบ้านส่วนใหญ่ร้อยละ 90 ที่มีอาชีพภาคเกษตรกรรมได้รับผลกระทบต้องเลิกอาชีพดังกล่าวไปโดยปริยาย
 

 
จนกระทั่ง นายรุ่งเรือง ธิมาบุตร นายอำเภอสุไหงปาดี ได้ประสานไปยังสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระ และได้งบสนับสนุนมาจำนวนกว่า 10 ล้านบาท แต่ไม่เพียงพอ จึงได้ทำการประชาพิจารณ์จนได้รับมติเสียงส่วนใหญ่จากชาวบ้าน จะเป็นผู้ร่วมลงแรงงานร่วมกันระหว่างไทยพุทธ และมุสลิมในการก่อสร้าง ส่วนเงินที่ได้ก็นำไปจัดซื้ออุปกรณ์ และในส่วนของงานซ่อมแซมตัวฝาย ซึ่งเป็นหัวใจหลัก ก็จะทำการว่าจ้างเครื่องจักรกลของเอกชน เพื่อให้ฝายกักเก็บน้ำดังกล่าวแล้วเสร็จตามกำหนด 70 วัน

ซึ่งในวันนี้ นายรุ่งเรือง ธิมาบุตร นายอำเภอสุไหงปาดี ได้นำร่วมกับตัวแทนชาวไทยพุทธ และมุสลิม ช่วยกันลำเลียงก้อนหินใส่กล่องกระชุหิน ที่นำมาเรียงไว้ริมตลิ่งกันกระแสน้ำกัดเซาะ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความกลมเกลียว และมีเสียงหัวเราะเป็นระยะๆ ที่ชาวไทยพุทธ และมุสลิมได้ร่วมใจกันทำกิจกรรม ที่ตลอดระยะเวลากว่า 13 ปี ที่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบ ค่อนข้างยากที่จะได้พบเห็นบรรยากาศลักษณะเช่นนี้
 

 
นอกจากนี้แล้ว กิจกรรมดังกล่าวยังได้รับความสนใจจาก นายจำนัล เหมือนดำ ผู้แทนพิเศษของรัฐบาล ซึ่งอดีตเป็นรองเลขาธิการ ศอ.บต. ได้เดินทางมาสังเกตการณ์ ร่วมกับ พระเทพศีลวิสุทธิ์ เจ้าคณะจังหวัดนราธิวาส และผู้นำศาสนา ซึ่งได้เห็นบรรยากาศความกลมเกลียวของพลังมวลชนที่อยู่ร่วมกันด้วยความรักความสามัคคีเหมือนในอดีตที่ผ่านมา จึงมีแนวความคิดที่จะนำกิจกรรมดังกล่าวเป็นต้นแบบ เพื่อขยายผลไปสู่โครงการต่างๆ ที่ทิ้งรกร้าง และขาดการฟื้นฟู และดูแลรักษาเพื่อให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติ โดยใช้พลังมวลชนเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อน ซึ่งเป็นจิตวิทยาอย่างหนึ่งให้ชาวไทยพุทธ และมุสลิม กลับมาใช้ชีวิตร่วมกันในสังคมเพื่อลดช่องว่างความเหินห่างความหวาดระแวง

และก่อนที่ นายจำนัล เหมือนดำ ผู้แทนพิเศษของรัฐบาล พระเทพศีลวิสุทธิ์ เจ้าคณะจังหวัดนราธิวาส และผู้นำศาสนา รวมทั้ง นายรุ่งเรือง ธิมาบุตร นายอำเภอสุไหงปาดี ได้ถือโอกาสมอบผลอินทผลัมให้แก่ตัวแทนชาวมุสลิม เพื่อนำไปไว้รับประทานในช่วงเดือนรอมฎอน หรือเดือนถือศีลอดในครั้งนี้ด้วย
 
กำลังโหลดความคิดเห็น