xs
xsm
sm
md
lg

ภาค ปชช.สุราษฎร์ฯ ยื่นสอบจริยธรรม นอภ.ไชยา หลังแจ้งความคนโพสต์วิจารณ์ศูนย์ดำรงธรรม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เครือข่ายภาคประชาชนกว่า 200 คน เข้ายื่นหนังสือจี้ตรวจสอบคุณธรรม จริยธรรมนายอำเภอไชยา จ.สุราษฎร์ฯ เหตุแจ้งความดำเนินคดีคนโพสต์ตั้งคำถามการทำงานของศูนย์ดำรงธรรม พร้อมมอบดอกไม้ให้กำลังใจผู้ถูกฟ้องอย่างคึกคัก ด้านนักวิชาการชี้ นอภ.เป็นบุคคลสาธารณะ ย่อมถูกวิจารณ์ได้โดยสุจริต

วันนี้ (23 พ.ค.) ที่ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี เครือข่ายรักษ์ไชยา อ.ไชยา และกลุ่มอนุรักษ์ลุ่มน้ำท่าสะท้อนและสิ่งแวดล้อม อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี กว่า 200 คน เดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนให้ตรวจสอบคุณธรรม จริยธรรมนายอำเภอไชยา เหตุแจ้งความดำเนินคดีคนโพสต์ตั้งคำถามการทำงานของศูนย์ดำรงธรรมอำเภอไชยา เมื่อวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา
 

 
นายสักนรินทร์ อินทราช แกนนำเครือข่ายรักษ์ไชยา ได้ชี้แจงต่อผู้ว่าราชการจังหวัด ที่มารับเรื่องร้องเรียนด้วยตนเองว่า ต.ป่าเว ต.เวียง และ ต.โมถ่าย อ.ไชยา มีความเดือดร้อนในกรณีที่ อบต.ป่าเว มีมติอนุมัติให้ก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวล ต.ป่าเว โดยเหตุการณ์นี้มีเพียงชาวบ้านที่ลุกขึ้นมาปกป้องชุมชนจากโครงการดังกล่าว ผู้นำส่วนใหญ่อยู่ฝ่ายสนับสนุนให้ก่อสร้างโรงไฟฟ้า ทางเครือข่ายฯ รับทราบจากรายชื่อที่มายื่นสนับสนุนที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ยังไม่ทันที่ปัญหาดังกล่าวจะคลี่คลาย เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมากลับมีเหตุนายอำเภอไชยา แจ้งความดำเนินคดีต่อสมาชิกเครือข่ายรักษ์ไชยา จำนวน 2 ราย เพราะโพสต์เฟซบุ๊กตั้งคำถามโดยสุจริตต่อการทำงานของศูนย์ดำรงธรรม อ.ไชยา

ทำให้ทางเครือข่ายฯ มีมติต้องร่วมปกป้อง เพราะมองว่าคดีนี้เป็นการแสดงความคิดเห็นต่อปัญหาสาธารณะ ไม่ใช่ปัจเจกชนอย่างที่สังคมเข้าใจ โดยการรวมตัวมายื่นหนังสือในครั้งนี้คือต้องการให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ตรวจสอบคุณธรรม จริยธรรมนายอำเภอไชยา และให้ทางผู้บัญชาการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้ความเป็นธรรมต่อการพิจารณาคดีดังกล่าว เพื่อไม่ให้เป็นการใช้อำนาจทางกฎหมายกลั่นแกล้งประชาชน
 

 
ด้าน นายอวยชัย อินทร์นาค ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้รับปากจะตรวจสอบข้อร้องเรียนตามขั้นตอน และแจ้งผลกลับยังเครือข่ายโดยเร็ว ในกรณีโรงไฟฟ้าชีวมวลที่ชุมชนกังวล มีความเป็นไปได้สูงที่จะไม่เกิดขึ้นในพื้นที่ เพราะทางบริษัท กรีน เนเจอร์ สุราษฎร์ จำกัด ยังไม่มีการยื่นคำร้องฉบับใหม่มายังอุตสาหกรรมจังหวัด พร้อมรับปากจะเดินทางไปเยี่ยมเครือข่ายฯ เพื่อดูสถานที่ก่อสร้างว่าจะส่งผลกระทบจริงอย่างที่กังวลหรือไม่

ขณะที่ นายธีรวัฒน์ ขวัญใจ อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ ได้ร่วมวิเคราะห์เหตุการณ์นายอำเภอฟ้องกลับประชาชน ที่แสดงความคิดเห็นต่อการทำงานของภาครัฐไว้อย่างน่าสนใจว่า การดำเนินคดีหมิ่นประมาทต่อนักกิจกรรม และแกนนำชาวบ้าน จากการโพสต์ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการทำงานของนายอำเภอ และศูนย์ดำรงธรรมอำเภอนั้นเป็นสิ่งที่สังคมควรสนใจ และจับตาอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในประเด็นที่ว่าเป็นการใช้กฎหมายที่สอดคล้องต่อเจตนารมณ์ของกฎหมายนั้นหรือไม่ โดยหลักแล้วกฎหมายอาญาที่กำหนดความผิดฐานหมิ่นประมาทนั้นมีขึ้นเพื่อปกป้องชื่อเสียง และเกียรติยศของบุคคลจากการล่วงละเมิดของบุคคลอื่นในทางส่วนตัว

อย่างไรก็ตาม สำหรับเจ้าหน้าที่ของรัฐในตำแหน่งต่างๆ นั้น ทั้งสถานะความเป็นส่วนตัวที่กฎหมายคุ้มครองจากการล่วงละเมิด กับอีกสถานะหนึ่งคือ การเป็น “บุคคลสาธารณะ” ที่อาจต้องถูกวิพากษ์วิจารณ์ได้ หากมีลักษณะเป็นการติชมโดยสุจริต ด้วยเหตุนี้ เพียงการวิพากษ์วิจารณ์การทำงานจึงอาจยังไม่เพียงพอที่จะถือว่าเป็นการหมิ่นประมาท
 

 
ดังนั้น การดำเนินคดีต่อผู้วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของเจ้าหน้าที่ของรัฐอาจต้องพิจารณาให้ดี เพราะอาจเป็นการสวนทางต่อการสร้างวัฒนธรรมการทำงานของระบบราชการที่โปร่งใส เป็นธรรม และถูกตรวจสอบได้โดยสาธารณะ รวมทั้งอาจมีผลเป็นการข่มขู่ หรือสร้างความกลัวเกรงให้แก่ภาคประชาชน ในการติดตามตรวจสอบการทำงานของหน่วยงาน หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐด้วย อีกทั้งการนำพระราชบัญญัติการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์มาใช้ในกรณีนี้ก็ไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ และหลักการของมาตรา 14 ของกฎหมายดังกล่าวที่เพิ่งแก้ไขใหม่ ที่ยกเว้นไม่ใช้กับกรณีความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา

โดยส่วนตัวเห็นว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐควรมีความอดทนอดกลั้นต่อการวิพากษ์วิจารณ์การทำงาน หากมีอะไรที่มีความเข้าใจผิดเกิดขึ้นก็ควรชี้แจงทำความเข้าใจฉันมิตรจะเกิดประโยชน์มากกว่า อย่างไรก็ดี ฝ่ายภาคประชาชนเองก็ควรแสดงความคิดเห็นโดยพิจารณาข้อเท็จจริงต่างๆ อย่างรอบด้านก่อนแสดงความเห็นออกไป และระวังไม่แสดงความเห็นในลักษณะที่เป็นการใส่ความ หรือก้าวล่วงไปในเรื่องส่วนตัว อันอาจเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทได้เช่นกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในเวลาเดียวกัน ณ ที่ว่าการอำเภอไชยา มีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ประมาณ 100 คน ไปให้กำลังใจนายอำเภอไชยา หลังทราบข่าวว่าจะมีประชาชนจำนวนมากมาร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดในวันนี้ ในกรณีความคืบหน้าของคดียังอยู่ในระหว่างการรอหมายเรียกรายงานตัวเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาต่อไป
 

กำลังโหลดความคิดเห็น